คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประนีประนอมยอมความ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 599 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 975/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง แม้ไม่มีการประนีประนอมยอมความ และการสงวนสิทธิแก้ไขค่าเสียหาย
จำเลยถูกพนักงานอัยการฟ้องขอให้ลงโทษฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้รถชนกัน ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัสจำเลยกลัวจะต้องรับโทษจำคุก จึงขอให้ผู้เสียหายเขียนหนังสือถึงพนักงานอัยการ ผู้เสียหายจึงเขียนหนังสือถึงพนักงานอัยการว่าตนไม่ติดใจจะฟ้องจำเลย ทั้งนี้เพื่อหวังผลให้จำเลยได้รับความปรานีบรรเทาโทษในทางอาญาเท่านั้น หนังสือดังกล่าวไม่มีลักษณะเป็นหนังสือประนีประนอมยอมความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850,851 ผู้เสียหายจึงมีสิทธิฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งได้
ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์เมื่อปรากฏในระหว่างพิจารณาคดีว่า อาการป่วยของโจทก์ยังไม่หาย ยังไม่เป็นการแน่นอนลงไปทีเดียวว่าโจทก์จะพิการต่อไปจนตลอดชีวิตหรืออาจหายได้ เช่นนี้ ศาลย่อมมีอำนาจสงวนสิทธิไว้ในคำพิพากษาที่จะแก้ไขคำพิพากษาในเรื่องกำหนดค่าเสียหายได้ ภายใน 2 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 375/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายจากสัญญาเช่า และการไม่เกิดสัญญาประนีประนอมยอมความ
อายุความฟ้องเรียกค่าอสังหาริมทรัพย์มีกำหนดปีตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 6 ไม่ใช่ 6 เดือนตามมาตรา 563 แต่อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้+เกี่ยวแก่สัญญาเช่ามีกำหนดเดือนตามมาตรา 563
เอกสารมีใจความว่าโจทก์เรียกร้องค่าเสียหาย 500 บาทจากจำเลย ๆ ให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจและตีราคาเจ้าหน้าที่ของจำเลยราคาค่าเสียหายสูงกว่าที่โจทก์ขอคณะกรรมการของจำเลยจึงประชุมตกลงให้ค่าเสียหายโจทก์ดังโจทก์ขอแต่ไม่ปรากฎว่าเมื่อคณะกรรมการได้ตกลงเช่นว่านั้นแล้ว จำเลยได้ทำคำสนองรับไปยังโจทก์ฉะนั้นจึงยังไม่เกิดสัญญาขึ้นระหว่างโจทก์และจำเลยเอกสารเช่นว่านี้จึงไม่มีทางจะถือว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามมาตรา 850 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 375/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความค่าเช่า vs. ค่าเสียหายจากสัญญาเช่า และการเกิดสัญญาประนีประนอมยอมความ
อายุความฟ้องเรียกค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์มีกำหนด 5 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166 ไม่ใช่ 6 เดือนตามมาตรา 563แต่อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้เช่าเกี่ยวแก่สัญญาเช่ามีกำหนด 6 เดือนตามมาตรา 563
เอกสารมีใจความว่าโจทก์เรียกร้องค่าเสียหาย 6,500 บาทจากจำเลย จำเลยให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจและตีราคาเจ้าหน้าที่ของจำเลยตีราคาค่าเสียหายสูงกว่าที่โจทก์ขอคณะกรรมการของจำเลยจึงประชุมตกลงให้ค่าเสียหายโจทก์ดังโจทก์ขอแต่ไม่ปรากฏว่าเมื่อคณะกรรมการได้ตกลงเช่นว่านั้นแล้ว จำเลยได้ทำคำสนองรับไปยังโจทก์ ฉะนั้นจึงยังไม่เกิดสัญญาขึ้นระหว่างโจทก์และจำเลยเอกสารเช่นว่านี้จึงไม่มีทางจะถือว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามมาตรา 850 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจลงนามกรรมการ, สัญญาประนีประนอมยอมความ และการบังคับคดี
ข้อบังคับของบริษัทมีความว่า 'กรรมการ 2 นาย มีอำนาจลงนามในสัญญาตราสารหรือเอกสารสำคัญแทนบริษัทแต่ต้องประทับตราของบริษัทด้วย'ดังนี้กรรมการของบริษัท 2 นายย่อมมีอำนาจลงนามและประทับตราของบริษัทในใบแต่งทนายเพื่อฟ้องคดีเรียกเงินจากลูกหนี้ของบริษัทได้โดยชอบ
สัญญาประนีประนอมยอมความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา851 นั้น มิได้บังคับไว้ว่าจะต้องลงลายมือชื่อของคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายลงไว้ในหนังสือ ฉะนั้นเมื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดตามสัญญา ลงลายมือชื่อไว้ในหนังสือสัญญาเป็นหลักฐานแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งย่อมฟ้องร้องให้บังคับคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1973/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องแย้งของตัวแทนตามหนังสือมอบอำนาจ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้รับมอบอำนาจจากตัวการให้ทำสัญญาจำนองทรัพย์สินของตัวการไว้กับโจทก์ ขอให้จำเลยไถ่ถอนการจำนองและโจทก์ได้เสนอสำเนาหนังสือมอบอำนาจพร้อมกับฟ้อง ซึ่งข้อหนึ่งแห่งหนังสือมอบอำนาจมีว่า "มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีทั้งหลายแทนตัวข้าพเจ้าฯลฯ และมีอำนาจประนีประนอมยอมความ ทั้งมีอำนาจแต่งทนายแก้ต่างว่าต่างได้ด้วย" ดังนี้จำเลยย่อมมีอำนาจฟ้องแย้ง ให้โจทก์ไปจดทะเบียนการไถ่ถอนจำนองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1924/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความกับการบังคับจำนอง: สิทธิในทรัพย์สินยังไม่หลุดจนกว่าจะผิดนัด
เจ้าหนี้ฟ้องเรียกเงินกู้และดอกเบี้ยจากจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ จำเลยทำยอมชำระหนี้โดยดี ในระหว่างนั้นผู้รับจำนองได้ฟ้องบังคับจำนองเอากับจำเลยบ้าง จำเลยทำยอมต่อศาลว่ายอมชำระหนี้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยให้ภายในกำหนด ถ้าไม่ชำระภายในกำหนดยอมให้ที่นา 2 แปลงที่จำนองไว้ หลุดเป็นสิทธิแก่ผู้รับจำนอง ดังนี้ตามสัญญาประนีประนอมดังกล่าวยังหามีผลให้นา 2 แปลงหลุดเป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้รับจำนองทันทีไม่ หากแต่มีเงื่อนไขยอมให้หลุดเป็นสิทธิเมื่อไม่ใช้หนี้ภายในกำหนด ฉะนั้นถ้าเจ้าหนี้เงินกู้นำยึดนา 2 แปลงนี้ เพื่อขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ของตนก่อนกำหนดในสัญญาประนีประนอมยอมความ ระหว่างผู้รับจำนองและจำเลยแล้ว ผู้รับจำนองก็จะมาร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่นา 2 แปลงนั้นไม่ได้ เพราะขณะนำยึดนา 2 แปลงนั้นยังเป็นของจำเลยอยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 449/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพัน แม้มีการตกลงเช่าใหม่กับเจ้าของทรัพย์สิน
การที่จำเลยถูกผู้เช่าเดิมเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ให้ออกจากห้องพิพาทจนได้ทำสัญญายอมความกันต่อศาลว่าจะออกจากห้องไปภายในกำหนดแล้วกลับปรากฏว่าผู้ให้เช่าได้มีหนังสือบอกเลิกการเช่ากับโจทก์ และตกลงจะให้จำเลยเช่าห้องพิพาทต่อไป ซึ่งโจทก์ได้คัดค้านอยู่ ดังนี้ ไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิจะคงอยู่ในห้องพิพาทต่อไป เพียงแต่เป็นเหตุพอที่ศาลยังไม่ควรจะจับกุมกักขังจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 449/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพัน แม้มีการตกลงเช่ากับเจ้าของทรัพย์สินใหม่
การที่จำเลยถูกผู้เช่าเดิมเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ให้ออกจากห้องพิพาทจนได้ทำสัญญายอมความกันต่อศาลว่าจะออกจากห้องไปภายในกำหนดแล้วกลับปรากฏว่าผู้ให้เช่าได้มีหนังสือบอกเลิกการเช่ากับโจทก์ และตกลงจะให้จำเลยเช่าห้องพิพาทต่อไปซึ่งโจทก์ได้คัดค้านอยู่ ดังนี้ ไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิจะคงอยู่ในห้องพิพาทต่อไป เพียงแต่เป็นเหตุพอที่ศาลยังไม่ควรจะจับกุมกักขังจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความจากการแจ้งเท็จ หอทะเบียนที่ดิน ไม่ถือเป็นการให้โดยเสน่หา
ลูกหนี้จำต้องคืนที่ดินให้เจ้าของไปโดยสัญญาประนีประนอมยอมความเพราะลูกหนี้ได้ที่ดินมาโดยการไปแจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานหอทะเบียนที่ดินนั้น หาใช่เป็นกรณีที่ลูกหนี้ให้โดยเสน่หาไม่ เจ้าหนี้จะเพิกถอนการฉ้อฉลโดยอ้างว่าเพียงแต่ลูกหนี้รู้ถึงการเสียเปรียบฝ่ายเดียวก็พอแล้วเท่านั้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 370/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประนีประนอมยอมความมีผลยุติกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินพิพาท แม้ไม่มีข้อตกลงเรื่องกรรมสิทธิ์โดยชัดแจ้ง
โจทก์เป็นบิดาจำเลย และจำเลยเป็นผู้ครอบครองทรัพย์พิพาทอยู่ก่อนโจทก์ฟ้องคดีนี้ โจทก์ได้ฟ้องจำเลยเรียกทรัพย์สินพิพาทนี้คืนครั้งหนึ่งแล้วและต่อมาโจทก์ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอถอนคดีโดยแถลงว่า โจทก์ไม่ติดใจเอาความกับจำเลยต่อไป โดยได้ทำสัญญาตกลงระงับข้อพิพาทกับจำเลยฉบับหนึ่งมีข้อความกล่าวอ้างถึงคดีที่ฟ้องนั้น และมีข้อความกล่าวถึงหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องปฏิบัติต่อโจทก์ โดยไม่ปรากฏว่าทรัพย์สินที่พิพาท โจทก์จำเลยได้ตกลงให้กรรมสิทธิ์อยู่แก่ใคร เช่นนี้เมื่อทรัพย์พิพาทอยู่ในความปกครองของจำเลย และโจทก์ตกลงทำประนีประนอมกับจำเลยดังกล่าวก็ต้องตีความว่าโจทก์ได้ตกลงไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์ของจำเลยต่อไปแล้ว เพื่อแลกเปลี่ยนกับเงินและข้อสัญญาต่างๆ ที่จำเลยให้ไว้ โจทก์ก็ไม่มีสิทธินำคดีนี้มาฟ้องเรียกทรัพย์พิพาทจากจำเลยอีก
of 60