พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,589 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1913/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์โต้แย้งดุลพินิจรับฟังพยานหลักฐานในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง เป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีพยานเอกสารมาแสดงในชั้นไต่สวนมูลฟ้องอันจะทำให้ศาลชั้นต้นรับฟังได้ว่าเช็คตามฟ้องเป็นเรื่องที่จำเลยสั่งจ่ายเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ฟ้องของโจทก์จึงไม่มีมูลโจทก์อุทธรณ์ว่าในการซื้อขายเพชรพลอยระหว่างจำเลยกับจ. ผู้รับมอบอำนาจโจทก์เป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาดไม่ต้องมีพยานหลักฐานเป็นหนังสือหรือหลักฐานเอกสารใดๆเท่ากับเป็นการอุทธรณ์ว่าพยานหลักฐานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องฟังได้ว่าจำเลยและจ.มีการซื้อขายเพชรพลอยกันจริงเช็คตามฟ้องเป็นเช็คที่ออกเพื่อชำระหนี้ค่าเพชรพลอยที่ซื้อขายกันดังกล่าวซึ่งเป็นหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายจึงเป็นการอุทธรณ์โต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลชั้นต้นอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงพ.ศ.2499มาตรา22
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีปล้นทรัพย์โดยอาศัยพยานหลักฐานที่ไม่น่าเชื่อถือและการชี้ตัวผู้ต้องหาที่มีพิรุธ
เหตุเกิดในเวลากลางคืนแม้บริเวณที่เกิดเหตุมีแสงไฟฟ้าแต่ก็อยู่คนละฟากถนนห่างจากจุดที่ว.จอดรถจักรยานยนต์ถึง13เมตรส่วนจุดที่ผู้เสียหายถูกทำร้ายและปลดทรัพย์อยู่ลึกเข้าไปในบริเวณป่าข้างทางไม่มีแสงสว่างส่องถึงคนร้ายเข้ามาล๊อกคอผู้เสียหายและว. ทางด้านหลังผู้เสียหายรับว่าขณะเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายส่วนว. ตกใจไม่ทันได้ฟังว่าคนร้ายพูดอะไรกับผู้เสียหายประกอบกับคนร้ายคนหนึ่งมีผ้าโพกศีรษะโอกาสที่ผู้เสียหายและว.จะเห็นหน้าคนร้ายได้ชัดเจนจึงมีน้อยมากทั้งพนักงานสอบสวนให้ผู้เสียหายและว. ดูตัวจำเลยก่อนการชี้ตัวดังนั้นการชี้ตัวของผู้เสียหายและว. จึงมีข้อพิรุธเมื่อไม่มีพยานโจทก์ปากใดรู้เห็นว่าจำเลยทั้งสามเป็นคนร้ายอีกและปรากฏว่าจำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธทั้งในชั้นสอบสวนและชั้นศาลพยานหลักฐานโจทก์จึงไม่พอฟังลงโทษจำเลยทั้งสาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 162/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานไม่เพียงพอในการพิสูจน์ตัวผู้กระทำผิดในคดีพยายามฆ่า ศาลยกประโยชน์แห่งความสงสัย
ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืนบ้านที่เกิดเหตุไม่ได้เปิดไฟฟ้าไว้ต้องอาศัยแสงสว่างของไฟฟ้าจากบ้านที่อยู่ใกล้เคียงแต่ไม่ปรากฏว่าสามารถมองเห็นได้ในระยะใกล้ไกลเพียงใดสำหรับไฟฟ้าที่เปิดอยู่ที่ปั๊มน้ำมันก็อยู่ห่างออกไปถึง50เมตรไม่น่าจะมีความสว่างพอให้มองเห็นคนร้ายได้ชัดเมื่อคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายแล้วได้รีบวิ่งหลบหนีไปในทันที ผู้เสียหายย่อมไม่มีโอกาสได้สังเกตและจดจำหน้าคนร้ายได้ที่ผู้เสียหายได้เบิกความว่าระหว่างที่จำเลยวิ่งหลบหนีไปได้หันหน้ามามองผู้เสียหายจำได้ว่าเป็นจำเลยนั้นไม่น่าเชื่อและไม่สมเหตุผลผู้เสียหายเป็นคนพิการขาลีบเวลาเดินต้องใช้ไม้ค้ำยันเมื่อได้ยินเสียงปืนดังไม่น่าจะลุกได้ทันท่วงทีและเดินไปที่หน้าต่างได้ทันและมองเห็นจำเลยในขณะที่วิ่งหลบหนีหลังเกิดเหตุผู้เสียหายไม่ได้ระบุตัวคนร้ายในทันทีทันใดพยานโจทก์นอกจากนี้ไม่ได้รู้เห็นจำเลยกระทำผิดเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมก็จับจำเลยตามคำบอกเล่าของผู้เสียหายไม่อาจฟังประกอบคำเบิกความของผู้เสียหายให้มีน้ำหนักขึ้นได้ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 153/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาฐานยักยอกทรัพย์ จำเลยต้องมีพยานหลักฐานสนับสนุนการกระทำความผิด
ขณะสุราของโจทก์ร่วมหายไปไม่มีพยานรู้เห็นโจทก์ร่วมมาทราบว่าสุราขาดหายก็เนื่องจากมีการตรวจสอบบัญชีสุราคงเหลือและที่กล่าวหาจำเลยทั้งสองก็เพราะจำเลยทั้งสองเป็นผู้รับผิดชอบในสุราที่หายไปแต่ปรากฎว่ายังมีช. พนักงานของโจทก์ร่วมอีกคนหนึ่งเป็นผู้นำสุราไปขายให้แก่ร้านค้าและเก็บเงินจากร้านค้าซึ่งภายหลังเกิดเหตุช. ได้หลบหนีไปพยานโจทก์และโจทก์ร่วมนอกจากนี้ก็ไม่มีผู้ใดยืนยันหรือชี้ชัดได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นผู้ยักยอกสุราของโจทก์ร่วมไปมีวิธีการยักยอกและนำไปจำหน่ายอย่างไรดังนั้นการที่สุราของโจทก์ร่วมขาดหายไปจากสต๊อกอาจจะเป็นเพราะช. นำไปขายและยังเก็บเงินจากลูกค้าไม่ได้ก็ได้พยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมจึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่1ยักยอกสุราของโจทก์ร่วมไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานและการยกประโยชน์แห่งความสงสัยในคดีข่มขืน
คำเบิกความของผู้เสียหายที่อ้างว่าจำหน้าจำเลยซึ่งเป็นคนร้ายที่ข่มขืนกระทำชำเราตนเป็นคนที่สองได้ขัดกับคำเบิกความของพนักงานสอบสวนที่ว่าผู้เสียหายแจ้งว่าจำหน้าคนที่ข่มขืนไม่ได้และไม่รู้จักชื่อส่วนที่ผู้เสียหายชี้ตัวจำเลยได้ถูกต้องนั้นก็เพราะผู้บังคับบัญชาของจำเลยนำจำเลยออกมาให้ผู้เสียหายชี้ตัวเพียงคนเดียวเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธตลอดมาตั้งแต่ชั้นสอบสวนจนถึงชั้นศาลพยานหลักฐานโจทก์จึงมีเหตุสงสัยว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่ร่วมกับพวกข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนกระทำชำเรา: พยานหลักฐานสอดคล้อง คำเบิกความผู้เสียหาย, บาดแผล, และคำรับสารภาพของจำเลยยืนยันความผิด
คำเบิกความของผู้เสียหายที่ยืนยันว่าจำเลยที่1ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายสอดคล้องกับรายงานผลการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ว่าผู้เสียหายมีบาดแผลฉีกขาดที่ใต้เยื่อพรหมจารีและพบตัวอสุจิและชั้นสอบสวนจำเลยที่1ก็ให้การรับสารภาพว่าจำเลยที่1ได้กอดปล้ำข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย2ครั้งพยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคงฟังได้ว่าจำเลยที่1ได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย2ครั้ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 111/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแรงงานในการวินิจฉัยพยานหลักฐานและการงดสืบพยาน อุทธรณ์ข้อเท็จจริงต้องห้าม
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา104ให้ศาลมีอำนาจเต็มที่ในอันที่จะวินิจฉัยว่าพยานหลักฐานที่คู่ความนำมาสืบนั้นจะเกี่ยวกับประเด็นและเป็นอันเพียงพอให้เชื่อฟังเป็นยุติได้หรือไม่แล้วพิพากษาคดีให้เป็นไปตามนั้นซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวอนุโลมใช้กับคดีแรงงานด้วยตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯมาตรา31ฉะนั้นการที่ศาลแรงงานกลางสอบข้อเท็จจริงจากคู่ความแล้ววินิจฉัยคดีตามที่คู่ความรับกันถือได้ว่าศาลแรงงานกลางได้ใช้ดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานแล้วข้อที่จำเลยอุทธรณ์ว่าศาลแรงงานกลางพิจารณาเพียงบันทึกรายงานกระบวนพิจารณาและมีคำสั่งให้งดสืบพยานจำเลยนั้นจึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯมาตรา54
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจับกุมและการพิสูจน์หลักฐานการขายยาเสพติด: ความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานและกระบวนการจับกุม
สายลับคนแรกซื้อเมทแอมเฟตามีนได้แล้ว2เม็ดแต่เจ้าพนักงานตำรวจไม่ได้จับจำเลยทั้งๆที่มีพยานหลักฐานมากพอที่จะจับกุมได้แล้วการที่เจ้าพนักงานตำรวจรอจนสายลับคนที่3เข้าไปล่อซื้อจึงจับจำเลยโดยอ้างว่าเพื่อให้ได้เมทแอมเฟตามีนจำนวนมากนั้นยังไม่มีน้ำหนักและเหตุผลพอให้รับฟังได้ทั้งธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อก็ยึดไม่ได้จากตัวจำเลยแม้จะยึดได้จากบ. ภริยาจำเลยแต่ก็ยังมีข้อโต้เถียงอยู่ว่าเจ้าพนักงานตำรวจนำมาใส่ไว้ไม่ใช่ธนบัตรของบ. พยานหลักฐานของโจทก์จึงไม่มีน้ำหนักมั่นคงพอให้ฟังลงโทษจำเลยฐานขายเมทแอมเฟตามีนได้คงฟังลงโทษจำเลยได้ในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมายเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1014/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ความผิดฐานปล้นทรัพย์ฯ ศาลฎีกาพิจารณาพยานหลักฐานและลดโทษ
ในขณะที่จำเลยทั้งสองกับพวกกำลังช่วยกันค้นหาทรัพย์สินอยู่นั้นผู้ตายเข้ามาภายในบ้านจำเลยทั้งสองกับพวกจึงเข้าไปล็อกคอผู้ตายผู้ตายดิ้นรนต่อสู้และร้องขอความช่วยเหลือจำเลยทั้งสองกับพวกจึงช่วยกันจับผู้ตายมัดและรุมแทงผู้ตายต่อเนื่องจนผู้ตายถึงแก่ความตายในที่เกิดเหตุแม้ผู้ตายจะมีบาดแผลหลายแห่งก็เป็นการส่อแสดงให้เห็นเจตนาว่าต้องการแทงผู้ตายให้ถึงแก่ความตายในทันทีเท่านั้นไม่ใช่เป็นการฆ่าโดยการกระทำทารุณโหดร้าย ลำพังคำให้การชั้นสอบสวนของว. ภริยาผู้ตายและอ.ที่ให้การต่อพนักงานสอบสวนว่าว.วานให้อ. ไปหาคนมาข่มขู่ผู้ตายและจับผู้ตายมัดเพื่อให้ว. เข้าไปตกลงกับผู้ตายเกี่ยวกับเรื่องในครอบครัวก็ดีคำซัดทอดของจำเลยทั้งสองกับส. ที่ว่าวันเกิดเหตุว. เป็นผู้กดรีโมทคอนโทรลเปิดประตูบ้านผู้ตายให้จำเลยทั้งสองกับพวกเข้าไปก็ดีล้วนแต่เป็นพยานบอกเล่าและคำซัดทอดของผู้ร่วมกระทำผิดมีน้ำหนักน้อยทั้งข้อความตามเทปบันทึกเสียงของผู้ตายก็รับฟังไม่ได้ว่าเป็นคำกล่าวของผู้ถูกทำร้ายก่อนตายพยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองถูกจ้างมาฆ่าผู้ตายจำเลยทั้งสองไม่มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนคำสั่งถอนการบังคับคดี: การไต่สวนทางลัดและการพิจารณาพยานหลักฐานเพียงพอ
คำร้องของโจทก์ที่ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งถอนการบังคับคดีได้แนบเอกสารต่างๆที่โจทก์ได้ติดต่อดำเนินการต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีของศาลจังหวัดสวรรคโลกในการขายทอดตลาดแทนหลายครั้งตลอดมาโดยมีจ่าศาลจังหวัดสวรรคโลกรับรองสำเนาถูกต้องและในวันนัดไต่สวนคำร้องศาลได้สอบถามทนายโจทก์และเจ้าพนักงานบังคับคดีกรมบังคับคดีแล้วเจ้าพนักงานบังคับคดีแถลงว่าเหตุที่ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งถอนการบังคับคดีเนื่องจากไม่ได้รับเอกสารเกี่ยวกับการบังคับคดีดังกล่าวจากศาลจังหวัดสวรรคโลกศาลชั้นต้นได้บันทึกข้อเท็จจริงที่ได้ความตามที่สอบถามไว้ซึ่งพยานหลักฐานที่ได้ดังกล่าวมีรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆในการบังคับคดีสมบูรณ์เพียงพอที่จะวินิจฉัยได้จึงไม่จำเป็นต้องไต่สวนต่อไปและการที่ศาลได้สอบถามข้อเท็จจริงจนได้ความดังกล่าวมาถือได้ว่าเป็นการไต่สวนแล้วฉะนั้นที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนการบังคับคดีโดยไม่ไต่สวนคำร้องของโจทก์ต่อไปจึงชอบแล้ว