พบผลลัพธ์ทั้งหมด 869 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 984/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและพยายามฆ่า: การกระทำความผิดร่วมกัน การลดโทษจากคำรับสารภาพ
คืนเกิดเหตุ ตำรวจกับพวกตามหาเรือของเจ้าทรัพย์ที่ถูกคนร้ายชิงไปพบจำเลยทั้งสองอยู่ในเรือลำหนึ่ง ตำรวจซึ่งอยู่ในเครื่องแบบแสดงตัวและบอกให้จำเลยเข้ามาหา จำเลยทั้งสองรู้ว่าเป็นตำรวจแต่ขัดขืน และได้ยิงปืนมาที่เรือตำรวจ 1 นัดกระสุนปืนถูกผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานที่ขาแล้วจำเลยทั้งสองโดดน้ำหนีพร้อมกัน ดังนี้จำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำผิดฐานต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานกับผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานที่กระทำตามหน้าที่
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2514)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 661/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพยายามฆ่า: ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น ไม่ลดโทษจากคำให้การปฏิเสธแล้วมาเบี่ยงเบนความรับผิด
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคนโดยใช้ปืนยิงชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยให้การปฏิเสธลอย ๆ เพิ่งมาเบิกความแสดงรายละเอียดตอนอ้างตนเองเป็นพยาน แต่ก็มิได้รับว่ายิงกลับบ่ายเบี่ยงความรับผิดไปให้ผู้เสียหายว่าเป็นเพราะผู้เสียหายแย่งปืนจากจำเลย ไกปืนไปเกี่ยวกระเป๋าเสื้อจำเลยปืนจึงลั่นขึ้น เป็นอุบัติเหตุไม่เกี่ยวกับเจตนาจำเลยคำเบิกความของจำเลย เช่นนี้มิได้ให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี อันจะถือว่ามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่า: การกระทำรุนแรงด้วยอาวุธมีดโดยเจตนาเล็งผลถึงตาย
ที่เกิดเหตุมีแสงไฟสว่าง จำเลยและผู้เสียหายมิได้วิวาทกันจำเลยใช้มีดดายหญ้ายาวประมาณ 1 ศอกเศษฟันผู้เสียหาย 2 แผล แผลแรกถูกที่ใบหน้าเป็นแผลยาว 11 เซนติเมตร ผู้เสียหายล้มลงจำเลยยังฟันซ้ำเป็นแผลที่สองถูกที่ศีรษะด้านหลังตัดใบหูซ้ายมาถึงเหนือมุมปากซ้ายบาดแผลยาว 17 เซนติเมตร กระดูกคางหักเช่นนี้ เป็นการเลือกหรือกำหนดได้ว่าจะฟันตรงไหน และจำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยได้ว่าอาจทำให้ถึงตายได้จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 297, 80 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 288, 80, 72 จำคุกจำเลย 5 ปี จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 297 จำคุกจำเลย 2 ปี โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่า เช่นนี้ แม้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 288, 80 ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยหนักกว่าโทษที่ศาลชั้นต้นลงมาไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์ว่าจำเลยมิได้กระทำโดยบันดาลโทสะและมิได้ขอให้ลงโทษจำเลยให้หนักขึ้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 297, 80 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 288, 80, 72 จำคุกจำเลย 5 ปี จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 297 จำคุกจำเลย 2 ปี โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่า เช่นนี้ แม้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 288, 80 ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยหนักกว่าโทษที่ศาลชั้นต้นลงมาไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์ว่าจำเลยมิได้กระทำโดยบันดาลโทสะและมิได้ขอให้ลงโทษจำเลยให้หนักขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์ใช้มีดทำร้ายร่างกายผู้เสียหายรุนแรง เล็งเห็นผลถึงตาย ศาลตัดสินความผิดฐานพยายามฆ่า
ที่เกิดเหตุมีแสงไฟสว่าง จำเลยและผู้เสียหายมิได้วิวาทกันจำเลยใช้มีดดายหญ้ายาวประมาณ 1 ศอกเศษฟันผู้เสียหาย 2 แผลแผลแรกถูกที่ใบหน้าเป็นแผลยาว 11 เซนติเมตร ผู้เสียหายล้มลงจำเลยยังฟันซ้ำเป็นแผลที่สองถูกที่ศีรษะด้านหลังตัดใบหูซ้ายมาถึงเหนือมุมปากซ้ายบาดแผลยาว 17 เซนติเมตร กระดูกคางหักเช่นนี้ เป็นการเลือกหรือกำหนดได้ว่าจะฟันตรงไหน และจำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยได้ว่าอาจทำให้ถึงตายได้จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,297, 80 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 288, 80,72 จำคุกจำเลย 5 ปี จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 297 จำคุกจำเลย 2 ปี โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่า เช่นนี้ แม้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 288, 80 ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยหนักกว่าโทษที่ศาลชั้นต้นลงมาไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์ว่าจำเลยมิได้กระทำโดยบันดาลโทสะและมิได้ขอให้ลงโทษจำเลยให้หนักขึ้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,297, 80 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 288, 80,72 จำคุกจำเลย 5 ปี จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 297 จำคุกจำเลย 2 ปี โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่า เช่นนี้ แม้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 288, 80 ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยหนักกว่าโทษที่ศาลชั้นต้นลงมาไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์ว่าจำเลยมิได้กระทำโดยบันดาลโทสะและมิได้ขอให้ลงโทษจำเลยให้หนักขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1699/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานพยายามฆ่า เปลี่ยนเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายตามมาตรา 72 จากบันดาลโทสะ
จำเลยถูกยิง แล้วเห็นคนที่ยิงวิ่งออกไปจากใต้ถุนเลี้ยวไปทางทิศใต้แล้วเลี้ยวไปทางทิศตะวันตก จำได้ว่าเป็นโจทก์ร่วม จำเลยจึงได้ยิงตามไปถูกโจทก์ร่วมเช่นนี้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิตามกฎหมาย เพราะภยันตรายที่จำเลยได้รับนั้นผ่านพ้นไปแล้ว พฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยได้ยิงโจทก์ร่วมตอบไปนั้นก็เพราะบันดาลโทสะ โดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 ปัญหานี้ แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
หมายเหตุ คดีนี้มีจำเลยหลายคน จำเลยในที่นี้หมายถึงจำเลยที่ 1 (ดูข้อเท็จจริง)
หมายเหตุ คดีนี้มีจำเลยหลายคน จำเลยในที่นี้หมายถึงจำเลยที่ 1 (ดูข้อเท็จจริง)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1550/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขม่าดินปืนไม่เพียงพอพิสูจน์ความผิดฐานพยายามฆ่า จำเป็นต้องมีพยานหลักฐานอื่นประกอบ
ลำพังแต่พยานหลักฐานในการพิสูจน์ว่ามีเขม่าดินปืนที่มือของจำเลยเท่านั้นยังไม่เพียงพอที่จะรับฟังมาลงโทษจำเลยฐานพยามยามฆ่าคน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1550/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขม่าดินปืนไม่เพียงพอพิสูจน์ความผิดพยายามฆ่า ต้องมีพยานหลักฐานอื่นประกอบ
ลำพังแต่พยานหลักฐานในการพิสูจน์ว่ามีเขม่าดินปืนที่มือของจำเลยเท่านั้น ยังไม่เพียงพอที่จะรับฟังมาลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1501/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน และต่อสู้ขัดขวางการจับกุมโดยใช้กำลัง
จำเลยชักปืนออกมาจ้องไปทางร้อยตำรวจตรีเสรีและมีเสียงดัง "เชี๊ยะ" แสดงว่าจำเลยได้ยิงร้อยตำรวจตรีเสรีแล้วแต่กระสุนปืนด้าน กระสุนปืนจึงไม่ลั่นไปถูกร้อยตำรวจตรีเสรีสมเจตนาของจำเลย หากกระสุนปืนลั่นถูกร้อยตำรวจตรีเสรี ร้อยตำรวจเสรีก็อาจจะถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงมีเจตนาฆ่าร้อยตำรวจตรีเสรี โดยจำเลยกระทำผิดไปตลอดแล้ว แต่การกระทำไม่บรรลุผลจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ และการที่ร้อยตำรวจตรีเสรีได้แจ้งข้อหาให้จำเลยทราบว่าจำเลยต้องหาฐานลักทรัพย์และแสดงหมายจับ จึงเป็นการปฏิบัติการตามหน้าที่พฤติการณ์ของร้อยตำรวจตรีเสรีที่แสดงต่อจำเลยดังกล่าวฟังได้ว่าจำเลยรู้ว่าร้อย ตำรวจตรีเสรีเป็นเจ้าพนักงานตำรวจมาจับจำเลยในข้อหาลักทรัพย์ จำเลยวิ่งหนีแล้วใช้อาวุธปืนยิงร้อยตำรวจตรีเสรีเพื่อต่อสู้ขัดขวางมิให้จับกุม การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1501/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน & ต่อสู้ขัดขวางการจับกุม: เจตนาสำคัญแม้ผลไม่บรรลุ
จำเลยชักปืนออกมาจ้องไปทางร้อยตำรวจตรีเสรีและมีเสียงดัง "เชี๊ยะ" แสดงว่าจำเลยได้ยิงร้อยตำรวจตรีเสรีแล้ว แต่กระสุนปืนด้านกระสุนปืนจึงไม่ลั่นไปถูกร้อยตำรวจตรีเสรีสมเจตนาของจำเลย หากกระสุนปืนลั่นถูกร้อยตำรวจตรีเสรี ร้อยตำรวจตรีเสรีก็อาจจะถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงมีเจตนาฆ่าร้อยตำรวจตรีเสรี โดยจำเลยกระทำผิดไปตลอดแล้ว แต่การกระทำไม่บรรลุผล จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ และการที่ร้อยตำรวจตรีเสรีได้แจ้งข้อหาให้จำเลยทราบว่าจำเลยต้องหาฐานลักทรัพย์และแสดงหมายจับ จึงเป็นการปฏิบัติการตามหน้าที่พฤติการณ์ของร้อยตำรวจตรีเสรีที่แสดงต่อจำเลยดังกล่าวฟังได้ว่าจำเลยรู้ว่าร้อยตำรวจตรีเสรีเป็นเจ้าพนักงานตำรวจมาจับจำเลยในข้อหาลักทรัพย์ จำเลยวิ่งหนีแล้วใช้อาวุธปืนยิงร้อยตำรวจตรีเสรีเพื่อต่อสู้ขัดขวางมิให้จับกุม การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1449/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในคดีอาญา: ความผิดฐานมีวัตถุระเบิดกับพยายามฆ่าเจ้าพนักงานเป็นคนละกรรมกัน
การที่จำเลยมีลูกระเบิดมือไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาตและใช้ระเบิดมือนั้นในการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ถือว่าเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เมื่อโจทก์แยกฟ้องและศาลลงโทษจำเลยฐานมีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองแล้ว คดีย่อมเสร็จเด็ดขาดเฉพาะกระทงความผิดนั้น ส่วนกระทงความผิดที่จำเลยกระทำต่อผู้เสียหายฐานต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานนั้น เป็นอีกกระทงหนึ่งซึ่งยังไม่มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(4) สิทธินำคดีอาญามาฟ้องจึงไม่ระงับ