พบผลลัพธ์ทั้งหมด 687 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 40/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรอนสิทธิเจ้าของที่ดินจากทางสาธารณะ การสร้างสะพานกีดขวางหน้าที่ดิน แม้จะอุทิศให้สาธารณะแล้วก็ต้องรับผิด
บทบัญญัติมาตรานี้ใช้บังคับรวมทั้งนิติบุคคลเช่นเทศบาลและจังหวัดด้วย
การที่สร้างทางเดินเท้าผ่านหน้าที่ดินของบุคคลอื่นอันเป็นเหตุให้เจ้าของที่เดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตุอันควรแล้ว แม้ทางเดินเท้านั้นจะอยู่ในที่สาธารณะและเมื่อผู้สร้างสร้างแล้วอุทิศให้เป็นทางสาธารณะด้วย เจ้าของอสังหาริมทรัพย์นั้นก็ยังคงได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1337 นี้อยู่
การที่สร้างทางเดินเท้าผ่านหน้าที่ดินของบุคคลอื่นอันเป็นเหตุให้เจ้าของที่เดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตุอันควรแล้ว แม้ทางเดินเท้านั้นจะอยู่ในที่สาธารณะและเมื่อผู้สร้างสร้างแล้วอุทิศให้เป็นทางสาธารณะด้วย เจ้าของอสังหาริมทรัพย์นั้นก็ยังคงได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1337 นี้อยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับผิดในสัญญาซื้อขายไม้ การพิสูจน์จำนวนไม้ที่ส่งมอบ และหลักการคำนวณราคา
เมื่อโจทก์สืบจำนวนเนื้อไม้ที่ขายให้จำเลยตามฟ้องไม่ได้ จำเลยก็ควรรับผิดตามจำนวนเนื้อไม้เท่าที่จำเลยให้การรับเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพลาดเรื่องตัวการกู้ยืมและการรับผิดของผู้ค้ำประกัน: เจ้าหนี้ต้องพิสูจน์ความรู้ของเหตุสำคัญผิด
ถ้าเจ้าหนี้สำคัญผิดว่าลูกหนี้มีอำนาจทำการกู้ยืมแทนบริษัทได้ ซึ่งความจริงลูกหนี้ไม่มีอำนาจทำเช่นนั้นได้ เจ้าหนี้มีหน้าที่ต้องพิสูจน์ว่า ผู้ค้ำประกันได้รู้เหตุสำคัญผิดแล้วในขณะที่เข้าทำสัญญาผูกพันตาม ป.พ.พ. มาตรา 681 วรรค 3.
ฟ้องโจทก์ยืนยันว่า ผู้กู้ยืมอันแท้จริงไม่ใช่ลูกหนี้ของโจทก์ ก็เป็นเหตุให้ผู้ค้ำประกันหนี้รายนั้นไม่มีทางจะไปไล่เบี้ยเอาจากผู้กู้และไม่มีสิทธิอันใดเหนือผู้กู้ที่จะเข้ารับช่วงมาจากโจทก์ได้โดยสิ้นเชิง ผู้ค้ำประกันจึงหลุดพ้นความรับผิดตามมาตรา 697.
ฟ้องโจทก์ยืนยันว่า ผู้กู้ยืมอันแท้จริงไม่ใช่ลูกหนี้ของโจทก์ ก็เป็นเหตุให้ผู้ค้ำประกันหนี้รายนั้นไม่มีทางจะไปไล่เบี้ยเอาจากผู้กู้และไม่มีสิทธิอันใดเหนือผู้กู้ที่จะเข้ารับช่วงมาจากโจทก์ได้โดยสิ้นเชิง ผู้ค้ำประกันจึงหลุดพ้นความรับผิดตามมาตรา 697.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในดอกเบี้ยจากการกู้เงินไถ่จำนองแทนผู้อื่น: พฤติการณ์พิเศษและขอบเขตการรับช่วงสิทธิ
ศาลพิพากษาตามยอมให้โจทก์จำเลยร่วมกันไถ่จำนองจากเจ้าหนี้ภายในกำหนด 1 เดือน ครบกำหนดโจทก์ไม่ไถ่จำเลยจึงไปกู้เงินผู้อื่นมาไถ่โดยเสียดอกเบี้ยให้แก่ผู้ให้กู้โจทก์ชำระเงินส่วนที่โจทก์จะต้องไถ่แต่ไม่ยอมชำระดอกเบี้ยที่จำเลยได้เสียให้แก่ผู้ให้กู้ จำเลยจึงฟ้องเรียกจากโจทก์ เงินดอกเบี้ยนั้นถือเป็นค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษ เมื่อโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมด้วยในการกู้เงินนี้ และไม่มีพฤติการณ์แสดงให้เห็นได้ว่าโจทก์ควรจะได้คาดเห็นเช่นนั้นล่วงหน้ามาก่อนแล้วโจทก์ก็ไม่ต้องรับผิดชดใช้ให้แก่จำเลย
จำเลยฟ้องแย้งเรียกดอกเบี้ยที่จำเลยต้องกู้เงินคนอื่นมาไถ่จำนองแทนโจทก์ มิได้อ้างสิทธิเรียกร้องเอาค่าเสียหายจากโจทก์ในฐานะเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากเจ้าหนี้จำนองศาลจะบังคับให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยในฐานะเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากเจ้าหนี้ไม่ได้ เพราะไม่ใช่ค่าเสียหายที่จำเลยฟ้องแย้งเรียกจากโจทก์
จำเลยฟ้องแย้งเรียกดอกเบี้ยที่จำเลยต้องกู้เงินคนอื่นมาไถ่จำนองแทนโจทก์ มิได้อ้างสิทธิเรียกร้องเอาค่าเสียหายจากโจทก์ในฐานะเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากเจ้าหนี้จำนองศาลจะบังคับให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยในฐานะเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากเจ้าหนี้ไม่ได้ เพราะไม่ใช่ค่าเสียหายที่จำเลยฟ้องแย้งเรียกจากโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างต้องรับผิดต่อการกระทำของลูกจ้างในการปฏิบัติงานตามสัญญา
จำเลยที่ 2 เป็นนายท้ายและผู้ควบคุมเรือยนต์ทำงานในฐานเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 และรับจ้างลากจูงเรือของโจทก์ การที่จำเลยที่ 2 ทำให้เรือบรรทุกข้าวของโจทก์ล่มเป็นไปในทางการที่จ้าง จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายจ้างต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องร่วมกันจากสัญญาประนีประนอมยอมความ แม้เป็นหนี้รายบุคคล และการรับผิดจากสัญญาแม้ไม่ได้ลงชื่อ
โจทก์หลายคนฟ้องจำเลยโดยอาศัยหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความที่จำเลยทำให้โจทก์ในฉบับเดียวรวมกัน มิได้แยกการชำระหนี้ไว้ต่างหากจากกัน ในสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นว่าจำเลยยอมชำระเงินให้โจทก์ทุกคนรวม 6,664 บาท แม้มูลหนี้เดิมของโจทก์แต่ละคนจะเป็นหนี้คนละราย คนละจำนวนไม่ใช่เจ้าหนี้ร่วมก็ดี แต่โดยที่ผลแห่งสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ถือได้ว่า จำเลยได้ยอมรับว่าได้เป็นหนี้โจทก์แต่ละคนแล้ว โจทก์ทุกคนจึงมีอำนาจเข้าชื่อร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในสำนวนเดียวกันได้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีว่า จำเลยยอมชำระหนี้ให้โจทก์รวม 22 คน เป็นกรณีที่เกิดจากการที่โจทก์บางคนได้ร้องทุกข์กล่าวหาในคดีอาญาว่า จำเลยฉ้อโกง แม้โจทก์ที่ไปร้องทุกข์นั้น จะไม่ได้รับมอบอำนาจจากโจทก์คนอื่นให้ทำสัญญายอมนั้นก็ตาม ในการดำเนินคดีแพ่งตามสัญญายอมนั้น โจทก์ไม่จำต้องอาศัยคำร้องทุกข์ในคดีอาญานั้นเลย เมื่อจำเลยทำหนังสือสัญญายอมไว้ว่า จำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ตามรายชื่อรวม 22 คน จำเลยก็ต้องรับผิดต่อบุคคลเหล่านั้นตามสัญญานั้น แม้ว่าเจ้าหนี้บางคนจะมิได้ลงลายมือชื่อในสัญญายอมดังกล่าว เจ้าหนี้บางคนเช่นว่านั้น ก็มีอำนาจฟ้องความตามสัญญานั้นได้ ไม่เกี่ยวกับว่าเจ้าหนี้ทั้ง 22 คน จะต้องมอบฉันทะให้ผู้หนึ่งผู้ใดทำสัญญายอมดังกล่าว กับจำเลยด้วยหรือไม่
สัญญาประนีประนอมยอมความมีว่า จำเลยยอมชำระหนี้ให้โจทก์รวม 22 คน เป็นกรณีที่เกิดจากการที่โจทก์บางคนได้ร้องทุกข์กล่าวหาในคดีอาญาว่า จำเลยฉ้อโกง แม้โจทก์ที่ไปร้องทุกข์นั้น จะไม่ได้รับมอบอำนาจจากโจทก์คนอื่นให้ทำสัญญายอมนั้นก็ตาม ในการดำเนินคดีแพ่งตามสัญญายอมนั้น โจทก์ไม่จำต้องอาศัยคำร้องทุกข์ในคดีอาญานั้นเลย เมื่อจำเลยทำหนังสือสัญญายอมไว้ว่า จำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ตามรายชื่อรวม 22 คน จำเลยก็ต้องรับผิดต่อบุคคลเหล่านั้นตามสัญญานั้น แม้ว่าเจ้าหนี้บางคนจะมิได้ลงลายมือชื่อในสัญญายอมดังกล่าว เจ้าหนี้บางคนเช่นว่านั้น ก็มีอำนาจฟ้องความตามสัญญานั้นได้ ไม่เกี่ยวกับว่าเจ้าหนี้ทั้ง 22 คน จะต้องมอบฉันทะให้ผู้หนึ่งผู้ใดทำสัญญายอมดังกล่าว กับจำเลยด้วยหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมรู้ร่วมคิดชิงทรัพย์: ผู้สมรู้ต้องรับผิดร่วมคืนทรัพย์สิน
ผู้ที่มีผิดแม้เพียงฐานสมรู้ ก็ต้องร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์กับผู้ที่มีผิดฐานเป็นตัวการด้วยเหมือนกัน
ความผิดฐานสมรู้ในการชิงทรัพย์ ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา ม.339 และ 86 เพราะเป็นบทกฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยกว่า ก.ม. ลักษณะอาญา ม.298 และ 65.
ความผิดฐานสมรู้ในการชิงทรัพย์ ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา ม.339 และ 86 เพราะเป็นบทกฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยกว่า ก.ม. ลักษณะอาญา ม.298 และ 65.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมรู้ร่วมคิดชิงทรัพย์: ผู้สมรู้ต้องรับผิดร่วมกับตัวการในการคืนทรัพย์
ผู้ที่มีผิดแม้เพียงฐานสมรู้ ก็ต้องร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์กับผู้ที่มีผิดฐานเป็นตัวการด้วยเหมือนกัน
ความผิดฐานสมรู้ในการชิงทรัพย์ ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 และ 86 เพราะเป็นบทกฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยว่า กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 298 และ 65
ความผิดฐานสมรู้ในการชิงทรัพย์ ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 และ 86 เพราะเป็นบทกฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยว่า กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 298 และ 65
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 470/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของกระทรวงการคลังเมื่อโรงงานยาสูบไม่ได้เป็นนิติบุคคล และการรับผิดในสัญญาค้ำประกัน
โรงงานยาสูบ ซึ่งขึ้นอยู่ในกระทรวงการคลัง ไม่ใช่เป็นนิติบุคคลเมื่อกระทรวงการคลังได้มอบอำนาจการบริหารกิจการงานต่างๆ ให้ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบแล้วกระทรวงการคลังก็ย่อมมีอำนาจฟ้องคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1166/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลายมือชื่อในเช็คและการรับผิดของผู้ลงนาม แม้มีตราบริษัท
ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเงินในเช็คและประทับดวงตราบริษัทหนึ่งไว้บนลายมือชื่อนั้นโดยมิได้เขียนแถลงว่ากระทำการแทนบริษัท เพียงเท่านี้ไม่ทำให้ผู้ลงลายมือชื่อพ้นความรับผิดตามความในเช็คนั้น