พบผลลัพธ์ทั้งหมด 926 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3502/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยประเด็นแห่งคดี การงดสืบพยานที่ชอบด้วยกฎหมาย และการอุทธรณ์ที่ต้องห้าม
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง จึงมิใช่การวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งงดสืบพยานเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตาม มาตรา 226 เมื่อโจทก์มิได้โต้แย้งคัดค้านคำสั่ง โจทก์จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์
เมื่อโจทก์อ้างว่าโจทก์มีสิทธิเข้าร่วมเดินรถ ตามประกาศของจำเลยลงวันที่ 11 มิถุนายน 2520 และจำเลยโต้แย้งว่าได้มีการแก้ไขระเบียบการ ตามประกาศลงวันที่ 16 มิถุนายน 2521 กำหนดให้เมื่อจำเลยตกลงรับรถเมล์เล็กเข้าวิ่งร่วมแล้ว จะต้องมีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรต่อกันอีกชั้นหนึ่งเพื่อกำหนดความรับผิดชอบซึ่งกันและกัน การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ยังมิได้ปฏิบัติตามประกาศของจำเลยฉบับลงวันที่ 16 มิถุนายน 2521 จึงเป็นการวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดีโดยตรง หาใช่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นแต่ประการใดไม่ มิใช่พิจารณาแต่คำฟ้องเท่านั้นแต่ต้องพิจารณาคำให้การจำเลยและคำแถลงรับของคู่ความด้วย
เมื่อโจทก์อ้างว่าโจทก์มีสิทธิเข้าร่วมเดินรถ ตามประกาศของจำเลยลงวันที่ 11 มิถุนายน 2520 และจำเลยโต้แย้งว่าได้มีการแก้ไขระเบียบการ ตามประกาศลงวันที่ 16 มิถุนายน 2521 กำหนดให้เมื่อจำเลยตกลงรับรถเมล์เล็กเข้าวิ่งร่วมแล้ว จะต้องมีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรต่อกันอีกชั้นหนึ่งเพื่อกำหนดความรับผิดชอบซึ่งกันและกัน การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ยังมิได้ปฏิบัติตามประกาศของจำเลยฉบับลงวันที่ 16 มิถุนายน 2521 จึงเป็นการวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดีโดยตรง หาใช่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นแต่ประการใดไม่ มิใช่พิจารณาแต่คำฟ้องเท่านั้นแต่ต้องพิจารณาคำให้การจำเลยและคำแถลงรับของคู่ความด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2751/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่มีความผิด
ในคดีเบิกความเท็จ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยเบิกความในคดีแพ่งเรื่องหนึ่งจริง แต่คดีนั้นโจทก์ขาดนัดพิจารณา.จึงไม่มีพยานหลักฐานมาแสดงให้เห็นว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยมิได้วินิจฉัยหรืออ้างอิงคำเบิกความของจำเลย คำเบิกความของจำเลยจึงไม่เป็นข้อสำคัญในคดี จำเลยไม่มีความผิด พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยวินิจฉัยว่า ยังฟังไม่ได้ว่าคำเบิกความของจำเลยเป็นเท็จดังนี้เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยอาศัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิด โจทก์จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2674/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาข้อกฎหมายที่มิได้ยกขึ้นในศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ ต้องเป็นปัญหาความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ปัญหาข้อกฎหมายที่คู่ความมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวไว้ในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์แต่คู่ความมีสิทธิที่จะฎีกาได้นั้นจะต้องเป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 ข้อ 24 เพียงแต่ให้สิทธิแก่ผู้จัดสรรที่ดินที่จะเรียกร้องเอาราคาที่ดินทั้งหมดที่ผู้ซื้อยังค้างชำระอยู่ในกรณีที่ผู้ซื้อผิดนัดไม่ชำระราคาที่ต้องชำระเป็นคราวๆ ตั้งแต่สองคราวติดต่อกันขึ้นไปก็ได้เท่านั้น จึงมิใช่กฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน จำเลยไม่มีสิทธิอ้างประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าวมาให้ศาลวินิจฉัยในเมื่อมิได้ยกข้อต่อสู้ในเรื่องนี้ไว้ในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 ข้อ 24 เพียงแต่ให้สิทธิแก่ผู้จัดสรรที่ดินที่จะเรียกร้องเอาราคาที่ดินทั้งหมดที่ผู้ซื้อยังค้างชำระอยู่ในกรณีที่ผู้ซื้อผิดนัดไม่ชำระราคาที่ต้องชำระเป็นคราวๆ ตั้งแต่สองคราวติดต่อกันขึ้นไปก็ได้เท่านั้น จึงมิใช่กฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน จำเลยไม่มีสิทธิอ้างประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าวมาให้ศาลวินิจฉัยในเมื่อมิได้ยกข้อต่อสู้ในเรื่องนี้ไว้ในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2652/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟ้องแย้งและการกำหนดระยะเวลาทำคำให้การแก้ฟ้องแย้ง ศาลต้องส่งหมายเรียกและกำหนดเวลาจากวันที่โจทก์ได้รับหมายเรียก
ศาลชั้นต้นสั่งรับคำให้การของจำเลย ส่วนฟ้องแย้งสั่งไม่รับ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องแย้งของจำเลยไว้พิจารณา ศาลชั้นต้นต้องสั่งให้ส่งหมายเรียกและฟ้องแย้งให้โจทก์ทำคำให้การแก้ฟ้องแย้งยื่นต่อศาลภายในแปดวันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคแรก และระยะเวลาแปดวันนั้นต้องนับตั้งแต่โจทก์ได้รับหมายเรียกแล้ว มิใช่นับตั้งแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ให้รับฟ้องแย้งของจำเลย การที่ศาลชั้นต้นงดออกหมายเรียกให้โจทก์ทำคำให้การแก้ฟ้องแย้งจึงเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2594/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม: การอ้างเหตุความจำเป็นต้องยกขึ้นว่ากันตั้งแต่ศาลชั้นต้น และต้องเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวน
จำเลยทั้งสองถูกฟ้องว่ากระทำการปิดกั้นและทดน้ำในลำน้ำอันเป็นการทำให้เสื่อมประโยชน์แก่ทางน้ำสาธารณะ จำเลยทั้งสอง ให้การและนำสืบทำนองเดียวกันว่าได้กระทำด้วยความจำเป็นเพื่อให้จำเลยและคนงานมีน้ำกินน้ำใช้ เช่นนี้ การที่จำเลยที่ 1 ฎีกาข้อกฎหมายอ้างว่ากระทำไปด้วยความจำเป็น. โดยยกข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวว่าเพื่อนำน้ำเข้าใช้ในกิจการเหมืองแร่ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ปรากฏในสำนวนและมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแต่ในศาลชั้นต้น ฎีกาข้อกฎหมายของจำเลยที่ 1 จึงต้องห้ามตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2594/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดด้วยความจำเป็นต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่นำสืบในศาลชั้นต้น การอ้างเหตุใหม่ในฎีกาจึงต้องห้าม
จำเลยทั้งสองถูกฟ้องว่ากระทำการปิดกั้นและทดน้ำในลำน้ำอันเป็นการทำให้เสื่อมประโยชน์แก่ทางน้ำสาธารณะ จำเลยทั้งสอง ให้การและนำสืบทำนองเดียวกันว่าได้กระทำด้วยความจำเป็นเพื่อให้จำเลยและคนงานมีน้ำกินน้ำใช้ เช่นนี้ การที่จำเลยที่ 1 ฎีกาข้อกฎหมายอ้างว่ากระทำไปด้วยความจำเป็น. โดยยกข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวว่าเพื่อนำน้ำเข้าใช้ในกิจการเหมืองแร่ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ปรากฏในสำนวนและมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแต่ในศาลชั้นต้น ฎีกาข้อกฎหมายของจำเลยที่ 1 จึงต้องห้ามตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2529-2530/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าชดเชยคุ้มครองลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ และประเด็นอายุความดอกเบี้ยที่มิได้ยกขึ้นว่ากันในศาลชั้นต้น
ค่าชดเชย เป็นบทบัญญัติส่วนหนึ่งของประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงานฯ ที่ใช้บังคับแก่องค์การของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจที่มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงกำไรในทางเศรษฐกิจ หาใช่มุ่งหมายจะคุ้มครองเฉพาะแต่ลูกจ้างของเอกชนเท่านั้นไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1568/2523)
จำเลยให้การแต่เพียงว่า "ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและดอกเบี้ยแก่โจทก์" ดังนี้ไม่แจ้งชัดว่าสิทธิเรียกร้องเอาดอกเบี้ยนั้นมีกำหนดอายุความ 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166 ปัญหาเรื่องอายุความตาม มาตรา 166 จึงมิใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น
จำเลยให้การแต่เพียงว่า "ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและดอกเบี้ยแก่โจทก์" ดังนี้ไม่แจ้งชัดว่าสิทธิเรียกร้องเอาดอกเบี้ยนั้นมีกำหนดอายุความ 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166 ปัญหาเรื่องอายุความตาม มาตรา 166 จึงมิใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นฎีกา และข้อจำกัดการวินิจฉัยประเด็นใหม่ที่ไม่เคยยกขึ้นในศาลชั้นต้น
จำเลยยกข้อต่อสู้ไว้ในคำให้การเพียงว่าหนังสือสัญญาที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นหนังสือสัญญาระงับข้อพิพาทคดีอาญาเป็นโมฆะไม่ได้ต่อสู้ว่าคดีที่โจทก์ถอนคำร้องทุกข์เป็นความผิดอันยอมความไม่ได้ในชั้นฎีกาจำเลยจะฎีกาว่าความผิดคดีอาญาดังกล่าวเป็นความผิดอันยอมความไม่ได้หาได้ไม่ เพราะเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ทั้งมิใช่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบ กรณีผู้พิพากษาศาลชั้นต้นรับรองฎีกาโดยไม่ได้พิจารณาว่าเป็นปัญหาสำคัญตามกฎหมาย
คดีห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นรับรองฎีกาของจำเลยว่า แม้ไม่เป็นปัญหาสำคัญ แต่น่าจะให้โอกาสจำเลยเพื่อศาลสูงสุดชี้ขาด ถือไม่ได้ว่าเป็นการอนุญาตให้ฎีกาโดยชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอพิจารณาคดีใหม่ต้องยื่นต่อศาลชั้นต้น การยื่นในฎีกาไม่ชอบ
คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของคู่ความฝ่ายซึ่งศาลแสดงว่าขาดนัดพิจารณา และมีคำพิพากษาให้แพ้คดีในประเด็นที่พิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 นั้น จะต้องยื่นต่อศาลชั้นต้น การที่มีคำขอให้พิจารณาใหม่มาในฎีกาเป็นการไม่ชอบด้วยบทบัญญัติแห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208