พบผลลัพธ์ทั้งหมด 709 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1068/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้าง: การกระทำของลูกจ้างที่ได้รับมอบหมายดูแลไม้ซุงแล้วลักทรัพย์
จำเลยมีหน้าที่เฝ้าไม้ซุงแล้วถูกใช้ให้คุมแพซุงล่องลงมาระหว่างทางจำเลยได้ลักไม้ซุงที่คุมไป จำเลยย่อมมีผิดฐานลักทรัพย์ของนายจ้าง เพราะผู้อื่นเป็นผู้มีหน้าที่ตรวจควบคุมดูแลไม้ที่ล่องโดยตรง ไม่ใช่หน้าที่ของจำเลยจำเลยไม่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลรักษาหรือจัดการหรือใช้สอยโดยฉะเพาะในการนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1068/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลักทรัพย์นายจ้าง: ลูกจ้างมีหน้าที่เฝ้าไม้ซุง แต่ลักทรัพย์ระหว่างคุมแพ ไม่ถือเป็นหน้าที่ดูแลรักษา
จำเลยมีหน้าที่เฝ้าไม้ซุงแล้วถูกใช้ให้คุมแพซุงล่องลงมา ระหว่างทางจำเลยได้ลักไม้ซุงที่คุมไป จำเลยย่อมมีผิดฐานลักทรัพย์ของนายจ้าง เพราะผู้อื่นเป็นผู้มีหน้าที่ตรวจควบคุมดูแลไม้ที่ล่องโดยตรง ไม่ใช่หน้าที่ของจำเลย จำเลยไม่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลรักษาหรือจัดการหรือใช้สอยโดยเฉพาะในการนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1064/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่โจทก์เตรียมพยาน – ศาลไม่เลื่อนนัดแม้ทนายป่วย – พิพากษายกฟ้อง
ตามกระบวนพิจารณาเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องปฏิบัติการตามกฎหมายเพื่อให้ได้พยานมาให้ศาลสืบในวันเวลากำหนดนัด
คดีอาญา ศาลได้นัดพิจารณาและกำหนดให้จำเลยยื่นคำให้การในวันนัดครั้นถึงวันนัดโจทก์กลับว่าเข้าใจว่าเป็นวันนัดชี้สองสถานโจทก์จึงไม่ระบุพยานและขอหมาย ทั้งทนายโจทก์ป่วย ขอเลื่อนสืบจำเลยคัดค้าน ดังนี้ศาลไม่
อนุญาตให้เลื่อนและพิพากษายกฟ้องโดยถือว่า โจทก์ไม่มีพยานสืบให้สมฟ้องได้
คดีอาญา ศาลได้นัดพิจารณาและกำหนดให้จำเลยยื่นคำให้การในวันนัดครั้นถึงวันนัดโจทก์กลับว่าเข้าใจว่าเป็นวันนัดชี้สองสถานโจทก์จึงไม่ระบุพยานและขอหมาย ทั้งทนายโจทก์ป่วย ขอเลื่อนสืบจำเลยคัดค้าน ดังนี้ศาลไม่
อนุญาตให้เลื่อนและพิพากษายกฟ้องโดยถือว่า โจทก์ไม่มีพยานสืบให้สมฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1064/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่โจทก์ในการเตรียมพยาน – การไม่เตรียมพยานทำให้ศาลยกฟ้องได้
ตามกระบวนพิจารณาเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องปฏิบัติการตามกฎหมายเพื่อให้ได้พยานมาให้ศาลสืบในวันเวลากำหนดนัด
คดีอาญา ศาลได้นัดพิจารณาและกำหนดให้จำเลยยื่นคำให้การในวันนัด ครั้นถึงวันนัดโจทก์กลับแถลงว่าเข้าใจว่าเป็นวันนัดชี้สองสถานโจทก์จึงไม่ระบุพยานและขอหมาย ทั้งทนายโจทก์ป่วย ขอเลื่อนสืบจำเลยคัดค้าน ดังนี้ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนและพิพากษายกฟ้องโดยถือว่า โจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้สมฟ้องได้
คดีอาญา ศาลได้นัดพิจารณาและกำหนดให้จำเลยยื่นคำให้การในวันนัด ครั้นถึงวันนัดโจทก์กลับแถลงว่าเข้าใจว่าเป็นวันนัดชี้สองสถานโจทก์จึงไม่ระบุพยานและขอหมาย ทั้งทนายโจทก์ป่วย ขอเลื่อนสืบจำเลยคัดค้าน ดังนี้ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนและพิพากษายกฟ้องโดยถือว่า โจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้สมฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำนันรังวัดที่ดินนอกหน้าที่โดยไม่ได้รับมอบหมาย ไม่เป็นหนังสือรับรองตามกฎหมาย ไม่ผิดตามมาตรา 137
กฎกระทรวงเกษตราธิการออกตามความใน พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2479 วางระเบียบในเรื่องการขอจับจองที่ดินไว้ว่าให้ผู้ขอจับจองยื่นเรื่องราวขอจับจองตามแบบฟอร์มเมื่อกรมการอำเภอได้รับคำขอแล้วให้นายอำเภอหรือผู้แทนจะเป็นกำนันหรือเจ้าหน้าที่อื่นก็ได้ ไปทำการชันสูตรยังที่ดินพร้อมด้วยผู้ขอฉะนั้นถ้าราษฎรผู้ขอจับจองได้ตรงไปให้กำนันรังวัดที่ดินและออกหนังสือรับรองเสียก่อนแล้วจึงมายื่นคำขอจับจองต่ออำเภอในภายหลังทั้งหนังสือรับรองของกำนันก็มิได้เขียนลงในแบบฟอร์มตามกฎกระทรวงเช่นนี้ ต้องถือว่ากำนันทำขึ้นเป็นส่วนตัว ไม่ใช่ทำตามหน้าที่ ไม่เป็นหนังสือรับรองตามกฎหมายฉะนั้นแม้กำนันจะเรียกร้องเอาเงินจากราษฎรผู้ขอ เป็นค่าป่วยการของตนคิดตามราคาเนื้อที่ดินรังวัดก็ดีกำนันนั้นก็ยังไม่มีผิด ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 137
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 184/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยักยอกเงินบำรุงท้องที่: เงินแผ่นดิน, หน้าที่ปกครองดูแลรักษา, ไม่ต้องมีผู้ร้องทุกข์
เงินบำรุงท้องที่เป็นเงินที่รัฐให้เรียกเก็บเพื่อใช้จ่ายบำรุงความผาสุขของราษฎรในท้องที่ ผู้ใดไม่เสีย เจ้าพนักงานอาจยึดทรัพย์สินมาขายทอดตลาดเอางเงินชำระได้ ฉะนั้นเมื่อเจ้าพนักงานเรียกเก็บเงินนี้มาจาก
ราษฎรได้แล้ว เงินนี้ก็เป็นเงินของแผ่นดิน หาใช่เงินของราษฎรที่เสียภาษีแต่ละคนไม่ และเมื่อสมุห์บัญชีอำเภอรับ
เงินนี้ไว้จากราษฎรในฐานที่เป็นสมุห์บัญชีอำเภอ สมุห์บัญชีอำเภอก็มีหน้าที่รับผิดชอบปกครองดูแลรักษาเงินนี้ไว้
เมื่อสมุห์บัญชีอำเภอยักยอกเงินนี้ไป ก็ย่อมมีผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 131 และในการดำเนินคดี ก็ไม่จำเป็นให้ราษฎรเจ้าของเงินมาร้องทุกข็ขอให้ดำเนินคดี./
ราษฎรได้แล้ว เงินนี้ก็เป็นเงินของแผ่นดิน หาใช่เงินของราษฎรที่เสียภาษีแต่ละคนไม่ และเมื่อสมุห์บัญชีอำเภอรับ
เงินนี้ไว้จากราษฎรในฐานที่เป็นสมุห์บัญชีอำเภอ สมุห์บัญชีอำเภอก็มีหน้าที่รับผิดชอบปกครองดูแลรักษาเงินนี้ไว้
เมื่อสมุห์บัญชีอำเภอยักยอกเงินนี้ไป ก็ย่อมมีผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 131 และในการดำเนินคดี ก็ไม่จำเป็นให้ราษฎรเจ้าของเงินมาร้องทุกข็ขอให้ดำเนินคดี./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างไม่ต้องรับผิดต่อการกระทำของลูกจ้างนอกเหนือหน้าที่ความรับผิด
ลูกจ้างขับรถยนต์ไปส่งนายจ้างลงรับประทานอาหาร แล้วลูกจ้างขับรถยนต์นั้นไปที่อื่นโดยพลการมิได้รับความยินยอมจากนายจ้าง แล้วไปชนคนตาย ดังนี้นายจ้างไม่ต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างด้วย
ทั้งลูกจ้างและนายจ้างให้การปฏิเสธ และนำสืบปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นลูกจ้างนายจ้างซึ่งกันและกันตอนหนึ่ง และอีกตอนหนึ่งว่าขณะชนคนตายลูกจ้างขับรถยนต์ไปในกิจส่วนตัวของลูกจ้างไม่ใช่ไปตามทางการที่จ้าง ดังนี้แม้ศาลจะไม่เชื่อคำพยานตอนที่อ้างว่าไม่เป็นนายจ้างลูกจ้างกันก็ดี ศาลก็ยังเชื่อคำพยานตอนที่ว่าขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในทางการที่จ้างกันได้
ทั้งลูกจ้างและนายจ้างให้การปฏิเสธ และนำสืบปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นลูกจ้างนายจ้างซึ่งกันและกันตอนหนึ่ง และอีกตอนหนึ่งว่าขณะชนคนตายลูกจ้างขับรถยนต์ไปในกิจส่วนตัวของลูกจ้างไม่ใช่ไปตามทางการที่จ้าง ดังนี้แม้ศาลจะไม่เชื่อคำพยานตอนที่อ้างว่าไม่เป็นนายจ้างลูกจ้างกันก็ดี ศาลก็ยังเชื่อคำพยานตอนที่ว่าขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในทางการที่จ้างกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสนอคดีต่อศาลต้องมีข้อพิพาทตามกฎหมาย การฟ้องร้องต้องมีสิทธิหรือหน้าที่ที่ถูกโต้แย้ง
การเสนอคดีต่อศาลนั้น ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 55 บัญญัติว่า ต้องมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลใดตาม กฎหมาย หรือบุคคลใดจะใช้สิทธิในทางศาล ซึ่งต้องมีกฎหมายสนับสนุน ไม่ใช่ว่ามีความปรารถนาหรือข้องใจอย่าง ใดเกิดขึ้นก็มาร้องขอให้ศาลชี้ขาดได้.
ในกรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องต่อศาลเป็นคดีไม่มีข้อพิพาท แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่จำต้องมาร้องต่อศาล ซึ่งศาลย่อมจะต้องยก คำร้องเสียนั้น เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับคำร้องเช่นว่านั้นไว้แล้ว และมีผู้ร้องคัดค้านเข้ามาจนศาลชั้นต้นสั่ง และดำเนิน การพิจารณาเป็นคดีมีข้อพิพาทนั้น เรื่องสิทธิเสนอคดีต่อศาลพังกล่าวข้างต้น ก็เป็นอันผ่านไป.
ในคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยอาศัยข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยข้อกฎหมาย ยังมิได้วินิจฉัย ขอ้เท็จจริงนั้น เมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกา ๆ ย่อมมีอำนาจที่จะฟังข้อเท็จจริง แล้วพิพากษาคดีไปทีเดียวได้โดยไม่จำ ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงใหม่อีก./
ในกรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องต่อศาลเป็นคดีไม่มีข้อพิพาท แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่จำต้องมาร้องต่อศาล ซึ่งศาลย่อมจะต้องยก คำร้องเสียนั้น เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับคำร้องเช่นว่านั้นไว้แล้ว และมีผู้ร้องคัดค้านเข้ามาจนศาลชั้นต้นสั่ง และดำเนิน การพิจารณาเป็นคดีมีข้อพิพาทนั้น เรื่องสิทธิเสนอคดีต่อศาลพังกล่าวข้างต้น ก็เป็นอันผ่านไป.
ในคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยอาศัยข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยข้อกฎหมาย ยังมิได้วินิจฉัย ขอ้เท็จจริงนั้น เมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกา ๆ ย่อมมีอำนาจที่จะฟังข้อเท็จจริง แล้วพิพากษาคดีไปทีเดียวได้โดยไม่จำ ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงใหม่อีก./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการจดทะเบียนสมรสเป็นสิทธิส่วนบุคคลของคู่สมรส บิดามารดาให้ความยินยอมเฉพาะกรณีจำเป็น
การจะจดทะเบียนสมรสหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของชายหญิงคู่สมรสเองบิดามารดาของหญิงมีแต่จะให้ความยินยอมในกรณีจำเป็นฉะนั้นเมื่อไม่ปรากฏว่าบิดามารดาของหญิงได้ขัดขวางไม่ให้บุตรสาวไปจดทะเบียนกับชายหรือไม่ให้ความยินยอมอนุญาตแต่ประการใดแล้วชายจะฟ้องขอให้บิดามารดาหญิง ใช้ค่าเสียหายแก่ตนในการที่ตนไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับหญิง ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 547/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษอาญา: หน้าที่การสืบพยานเมื่อจำเลยอ้างได้รับการนิรโทษกรรม
โจทก์ฟ้องว่าขอให้ลงโทษจำเลยทางอาญาและขอให้เพิ่มโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 72 จำเลยให้การรับว่าข้อเคยต้องโทษตามฟ้องนั้น จำเลยได้รับนิรโทษกรรมตาม พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พ.ศ. 2489 แล้ว ดังนี้เท่ากับเถียงว่าเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้ โจทก์จึงต้องมีหน้าที่นำสืบ เมื่อโจทก์จำเลยต่างไม่สืบพยาน ศาลก็เพิ่มโทษจำเลยไม่ได้