พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,033 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3248/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องกรณีถูกเพิกถอนสัญชาติ: จำเลยไม่ได้เพิกถอนสัญชาติเอง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นผู้รักษาการตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337 ลงวันที่ 13 ธันวาคม2525 ได้มีหนังสือแจ้งให้จำเลยทราบถึงบุคคลที่ถูกเพิกถอนสัญชาติ รวมทั้งโจทก์ด้วยตามข้อ 4 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าว ดังนี้ จำเลยมิได้เป็นผู้เพิกถอนสัญชาติของโจทก์ จำเลยจึงมิได้ โต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยขอให้ศาล พิพากษาว่าโจทก์มีสัญชาติไทย และโดยที่โจทก์ยังคงเป็นผู้ถูกเพิกถอนสัญชาติไทยอยู่ตามที่จำเลยได้รับแจ้งจาก กระทรวงมหาดไทยดังกล่าวข้างต้น ฉะนั้น การที่จำเลยมีคำสั่งให้นายทะเบียนท้องถิ่นจำหน่ายโจทก์ออกจากทะเบียนบ้านให้หัวหน้าสำนักงานกิจการญวนอุดรธานีมีคำสั่งให้โจทก์มาทำบัตรประจำตัวคนญวนอพยพ และให้พนักงานที่ดินจังหวัดอุดรธานี ทำการบังคับจำหน่ายที่ดินของโจทก์ อันเป็นการกระทำภายในขอบเขตของหนังสือกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว จึงถือไม่ได้ว่าเป็นคำสั่งหรือการปฏิบัติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์หามีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยและขอให้ห้ามจำเลยและบริวารปฏิบัติการตามหน้าที่ได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3187/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพันเฉพาะคู่สัญญา โจทก์ผู้เสียหายไม่ผูกพัน
สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างจำเลยที่ 2 ลูกจ้างจำเลยที่ 1 กับ ต. คนขับรถของโจทก์มีใจความว่า จำเลยที่ 2 ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้ผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 กับ ต. ลงชื่อไว้ในฐานะคู่กรณีโจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่แท้จริง ไม่ได้ลงชื่อ และมิได้มอบหมายให้ ต. เป็นตัวแทน โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือเพื่อทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยที่ 2 จึงไม่มีผลผูกพันโจทก์ โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3092/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราว จำเลยขอให้ศาลสั่งให้โจทก์ดำเนินการเรื่องน้ำประปา ศาลฎีกาไม่เห็นด้วย
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกแถวของโจทก์ จำเลยให้การและฟ้องแย้งให้โจทก์โอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินและตึกแถวพิพาทให้จำเลยและรับเงินค่าที่ดินและตึกแถวพิพาทจากจำเลยระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวอ้างว่าหลังจากโจทก์ฟ้องแล้วโจทก์ได้กระทำละเมิดสิทธิและประโยชน์ของจำเลย โดยตัดท่อน้ำบาดาลไม่ให้มีการจ่ายน้ำบริโภคมายังตึกแถวพิพาทที่จำเลยอยู่อาศัยจำเลยในฐานะผู้เช่าไม่สามารถร้องขอให้การประปานครหลวงเดินท่อส่งน้ำให้ได้ เพราะโจทก์ไม่ยอมให้วางท่อผ่านที่ดินของโจทก์ ขอให้ศาลสั่งให้โจทก์ต่อท่อและจ่ายน้ำบริโภคให้ตึกแถวพิพาทโดยใช้น้ำบาดาลของโจทก์เช่นเดิม หรือให้โจทก์ดำเนินการยื่นคำร้องต่อการประปานครหลวงเพื่อติดตั้งประปาให้จำเลย คำร้องของจำเลยดังกล่าวหาได้ร้องขอให้ศาลสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่งดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254ไม่ฉะนั้น จึงยกเอามาตรา 254 มาปรับสั่งให้เป็นประโยชน์แก่คดีของจำเลยตามที่จำเลยร้องขอไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2975/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการจำหน่ายคดีและการแสดงเจตนาดำเนินคดีของโจทก์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132 เป็นบทบัญญัติที่ให้ศาลใช้ดุลพินิจในกรณีที่ศาลจะสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ มิได้บังคับเด็ดขาดว่าต้องจำหน่ายคดี
โจทก์ไม่จัดการนำส่งหมายเรียกให้แก่จำเลยภายในกำหนด 7วัน นับแต่วันออกหมายตามที่ศาลชั้นต้นสั่ง ก่อนศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีโจทก์ได้ยื่นคำร้องว่าจะนำส่งหมายเรียกให้จำเลย ขอเลื่อนวันนัดสืบพยานโจทก์เพื่อให้ระยะเวลาการส่งหมายเรียกให้จำเลยเป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย แสดงว่าโจทก์ยังติดใจดำเนินคดีต่อไป เป็นพฤติการณ์ที่ยังไม่สมควรจำหน่ายคดี
โจทก์ไม่จัดการนำส่งหมายเรียกให้แก่จำเลยภายในกำหนด 7วัน นับแต่วันออกหมายตามที่ศาลชั้นต้นสั่ง ก่อนศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีโจทก์ได้ยื่นคำร้องว่าจะนำส่งหมายเรียกให้จำเลย ขอเลื่อนวันนัดสืบพยานโจทก์เพื่อให้ระยะเวลาการส่งหมายเรียกให้จำเลยเป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย แสดงว่าโจทก์ยังติดใจดำเนินคดีต่อไป เป็นพฤติการณ์ที่ยังไม่สมควรจำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2949/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับช่วงสิทธิของบริษัทประกันภัย: โจทก์ขาดสิทธิเรียกร้องจากจำเลยในส่วนที่ได้รับชดใช้ค่าสินไหม
รถของโจทก์ถูกรถของจำเลยชนได้รับความเสียหายบริษัทประกันภัยซึ่งรับประกันภัยรถของโจทก์ไว้ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์แล้วบริษัทประกันภัยย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของโจทก์ในอันที่จะใช้สิทธิเรียกร้องจากจำเลยเท่าจำนวนค่าสินไหมทดแทนที่ได้ใช้ไปและการเข้าสู่ ฐานะเป็นผู้รับช่วงสิทธินี้เป็นไปด้วยอำนาจของกฎหมายแม้บริษัทประกันภัยจะยังไม่ได้ใช้สิทธิเรียกร้องจากจำเลยตามสิทธิที่ได้รับช่วงมาโจทก์ก็ขาดสิทธิที่จะเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยในส่วนที่ได้รับชดใช้จากบริษัทประกันภัยเพราะสิทธิเรียกร้องดังกล่าวบริษัทประกันภัยได้รับช่วงไปแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2221/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องจำกัดตามหนังสือมอบอำนาจ: โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ไม่ได้รับการมอบหมาย
กรมประชาสัมพันธ์โจทก์มอบอำนาจให้ ส. เป็นตัวแทนฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนกรณีรถยนต์โจทก์ถูกชนได้รับความเสียหายจาก อ. ซึ่งเป็นเจ้าของรถและเป็นนายจ้างผู้ขับรถ มิได้มอบอำนาจให้เป็นตัวแทนฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัด บ. โดย ส. หุ้นส่วนผู้จัดการ และ ส. ในฐานะส่วนตัว แม้จะปรากฏว่า อ. เป็นหุ้นส่วนจำกัด ความรับผิดของ บ. โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2049/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำคดีแรงงานหลังศาลจำหน่ายคดี โจทก์ยังมีสิทธิฟ้องใหม่ได้
การที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งจำหน่ายคดีโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 40 วรรคแรก นั้นมาตรา 41 เพียงแต่บัญญัติให้สิทธิโจทก์ที่จะร้องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีและดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปใหม่ได้เท่านั้น มิได้ตัดสิทธิโจทก์ที่จะเสนอคำฟ้องเรื่องเดียวกันนี้ใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 18/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบังคับคดีซื้อที่พิพาท: โจทก์ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาเช่นกัน จำเลยมีสิทธิร้องขอให้บังคับคดีได้
ศาลพิพากษาให้จำเลยโอนนาพิพาทในราคา 124,545 บาทแก่โจทก์ใน 1 เดือน ศาลชั้นต้นออกคำบังคับแก่จำเลยให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาภายใน 15 วัน ไม่ได้ออกคำบังคับแก่โจทก์ จำเลยมีสิทธิร้องขอให้ออกคำบังคับแก่โจทก์ และบังคับคดีได้ภายใน 10 ปี ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 คำพิพากษาไม่ได้กำหนดให้ถือว่า โจทก์ผิดนัดหรือสละสิทธิถ้าไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิยึดหน่วงสิ้นสุดเมื่อศาลมีคำสั่งถอนการยึดทรัพย์ และโจทก์ไม่โต้แย้งคำสั่งนั้นแล้ว
ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ค่าซ่อมรถ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดรถยนต์คันที่จำเลยมาซ่อมกับโจทก์และยังมิได้รับคืนไป ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ ในคดีเรื่องร้องขัดทรัพย์ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า รถยนต์คันพิพาทเป็นของผู้ร้องซึ่งมิใช่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ โจทก์จะยึดทรัพย์ของผู้ร้องมาขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้โจทก์เป็นการไม่ชอบจะนำเรื่องสิทธิยึดหน่วงมาใช้บังคับกรณีนี้ไม่ได้มีคำสั่งให้ถอนการยึดรถยนต์คันพิพาทนั้นโจทก์ไม่อุทธรณ์คัดค้าน คดีเป็นอันถึงที่สุดไปแล้วดังนี้ โจทก์จึงต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลอันถึงที่สุดแล้วนั้น โดยต้องคืนรถยนต์คันพิพาทให้ผู้ร้องผู้เป็นเจ้าของไม่มีสิทธิยึดหน่วงรถยนต์คันพิพาทไว้อีกต่อไป(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2524)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1534/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักกลบลบหนี้และการเรียกร้องค่าทรัพย์สิน: จำเลยสละสิทธิหักกลบลบหนี้ ทำให้โจทก์มีสิทธิเรียกร้องค่าทรัพย์สินได้
เมื่อจำเลยแถลงไม่ขอเอาหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้ที่โจทก์ทำให้ไว้และยังโต้เถียงกันอยู่มาหักกลบลบหนี้กับเงินค่าโคที่โจทก์ฟ้องเรียกร้องจากจำเลยในคดีนี้ จำเลยย่อมไม่มีสิทธิอย่างใดที่จะยึดเงินค่าโคของโจทก์ไว้ต่อไป โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยใช้ราคาโคแก่โจทก์ได้