คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทายาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,314 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3299/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมยกทรัพย์สินตัดสิทธิทายาท: สิทธิในการเป็นผู้จัดการมรดก
ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมจำหน่ายทรัพย์มรดกทั้งหมดให้ผู้คัดค้านแล้ว ถือได้ว่าผู้ร้องเป็นผู้ถูกตัดมิให้รับมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1608 ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3254/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมตัดมรดก: ทายาทโดยธรรมถูกตัดสิทธิในการจัดการมรดก
แม้ผู้ร้องเป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตายและเป็นผู้ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย แต่เมื่อผู้ตายได้ทำพินัยกรรมจำหน่ายทรัพย์มรดกทั้งหมดให้ผู้คัดค้านแล้ว ถือได้ว่าผู้ร้องเป็นผู้ถูกตัดมิให้รับมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1608 ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องต่อศาล ขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3254/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถูกตัดสิทธิรับมรดกจากพินัยกรรม
แม้ผู้ร้องเป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตายและเป็นผู้ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย แต่เมื่อผู้ตายได้ทำพินัยกรรมจำหน่ายทรัพย์มรดกทั้งหมดให้ผู้คัดค้านแล้ว ถือได้ว่าผู้ร้องเป็นผู้ถูกตัดมิให้รับมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1608 ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องต่อศาล ขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3188/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกตามพินัยกรรม: ทายาทผู้รับพินัยกรรมมีสิทธิเป็นผู้จัดการมรดก
เจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้โจทก์และตัด จำเลยมิให้ รับ มรดกโจทก์จึงเป็นทายาทผู้รับมรดกตาม พินัยกรรม ดังนี้ โจทก์เป็นผู้มีส่วนได้เสียสมควรเป็นผู้จัดการมรดกตาม ป.พ.พ. มาตรา 1713.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3146/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้อน: ทายาทฟ้องโมฆะพินัยกรรมซ้ำ แม้มิได้เป็นผู้จัดการมรดก หรือโจทก์ร่วมในคดีก่อน
ท. ทายาทของเจ้ามรดกคนหนึ่งเคยฟ้องจำเลยขอให้พิพากษาว่าพินัยกรรมเป็นโมฆะ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง คดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ โจทก์ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิรับมรดกแทนที่ทายาทอีกคนหนึ่งมาฟ้องคดีนี้ขอให้พิพากษาว่าพินัยกรรมฉบับเดียวกันนั้นเป็นโมฆะอีกเมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่า ท. เป็นผู้จัดการมรดกของเจ้ามรดกอันจะถือว่ากระทำในฐานะตัวแทนทายาททั้งหมดรวมทั้งโจทก์ด้วยแล้วโจทก์ย่อมไม่ใช่โจทก์คนเดียวกับคดีก่อน ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้อน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3146/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้อน: การฟ้องคดีพินัยกรรมซ้ำโดยทายาทต่างคนกัน ไม่ถือเป็นการฟ้องแทนกัน
คดีก่อน ท. ฟ้องจำเลยทั้งสองขอให้ศาลพิพากษาว่าพินัยกรรมฉบับเดียวกันนี้เป็นโมฆะ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ในคดีนี้ได้เข้าร่วมเป็นโจทก์กับ ท.ทั้งไม่ปรากฏว่าท. เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายอันจะถือว่าเป็นการกระทำในฐานะตัวแทนทายาทรวมทั้งโจทก์ด้วย การที่ทายาทคนหนึ่งได้ยื่นฟ้องคดีไว้แล้วจะถือว่าเป็นการฟ้องคดีแทนทายาทคนอื่น ๆ ด้วย หาได้ไม่ ฉะนั้นโจทก์คดีนี้จึงไม่ใช่โจทก์คนเดียวกับคดีก่อน ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้อน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3146/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้อน: ทายาทฟ้องโมฆะพินัยกรรมซ้ำ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่ใช่ฟ้องซ้อนหากไม่ได้เข้าร่วมฟ้องคดีก่อน
ท. ทายาทของเจ้ามรดกคนหนึ่งเคยฟ้องจำเลยขอให้พิพากษาว่าพินัยกรรมเป็นโมฆะ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง คดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ โจทก์ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิรับมรดกแทนที่ทายาทอีกคนหนึ่งมาฟ้องคดีนี้ขอให้พิพากษาว่าพินัยกรรมฉบับเดียวกันนั้นเป็นโมฆะอีกเมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่า ท. เป็นผู้จัดการมรดกของเจ้ามรดกอันจะถือว่ากระทำในฐานะตัวแทนทายาททั้งหมดรวมทั้งโจทก์ด้วยแล้วโจทก์ย่อมไม่ใช่โจทก์คนเดียวกับคดีก่อน ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้อน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3037/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม – ไม่แจ้งการตายทายาท – อายุความ – หลักฐานไม่ชัดเจน
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดในฐานะทายาทของ จ. ผู้ตาย ซึ่งเป็นคู่สัญญากับโจทก์ โดยบรรยายฟ้องตอนแรกว่าผู้ตายผิดสัญญาทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์ได้มีหนังสือแจ้งให้จำเลยมาทำงานและตกลงค่าเสียหายกับโจทก์ และบรรยายฟ้องต่อมาอีกว่าโจทก์ได้มีหนังสือแจ้งให้จำเลยนำค่าเสียหายมาชำระ แต่จำเลยไม่ชำระโดยโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องเลยว่า ผู้ตายถึงแก่ความตายเมื่อใด โจทก์รู้ถึงการตาย ของผู้ตายเมื่อใด จึงเป็นเหตุให้จำเลยไม่ทราบข้ออ้างของโจทก์ และไม่อาจให้การได้โดยชัดแจ้งว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ เพราะเหตุใด ถือว่าโจทก์มิได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 172 วรรคสองดังนี้ ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2530/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดทรัพย์และการครอบครองปรปักษ์: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นในศาลชั้นต้น
ข้อที่ผู้ร้องขัดทรัพย์ฎีกาว่าผู้ร้องครอบครองที่ดินพิพาทอย่างเป็นเจ้าของโดยความสงบเปิดเผยเพื่อตนเป็นเวลากว่า 10 ปีจึงอยู่ในฐานะที่เป็นผู้มีสิทธิจดทะเบียนได้ตลอดเวลาและทายาทอื่นหมดสิทธิไปแล้ว ภายหลังเจ้ามรดกตาย ไปกว่า 1 ปีซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มิได้ยกขึ้นวินิจฉัยนั้น เมื่อผู้ร้องมิได้กล่าวไว้ในคำร้องขัดทรัพย์ จึงเป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2485/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ร้องสอดในการต่อสู้คดีฟ้องเคลือบคลุมและอำนาจฟ้องร่วมกันของทายาทในคดีมรดก
โจทก์ฟ้องผู้จัดการมรดกเป็นจำเลย ทายาทร้องสอดเข้ามาขอให้ยกฟ้องโจทก์ เป็นการร้องสอดเข้ามาในคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 57(1)ซึ่งตามมาตรา 58 วรรคแรก บัญญัติให้ผู้ร้องสอดมีสิทธิเสมือนหนึ่งว่าตนได้ฟ้องหรือถูกฟ้องเป็นคดีเรื่องใหม่ ฉะนั้น ผู้ร้องสอดจึงมีสิทธิที่จะต่อสู้คดีในเรื่องฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและโจทก์ทั้งสิบสองไม่มีสิทธิร่วมกันฟ้องมาในคดีเดียวกันได้ทั้งสองประเด็น.
of 132