พบผลลัพธ์ทั้งหมด 764 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2632/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำกัดสิทธิฎีกาในคดีฟ้องแย้งที่มีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าหมื่นบาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
ฟ้องแย้งของจำเลยมีทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินห้าหมื่นบาท ดังนั้น เมื่อคดีตามฟ้องแย้งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยจึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2632/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาห้ามฟ้องในข้อเท็จจริงเนื่องจากทุนทรัพย์ฟ้องแย้งไม่เกินห้าหมื่นบาท แม้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ฟ้องแย้งของจำเลยมีทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินห้าหมื่นบาทดังนั้น เมื่อคดีตามฟ้องแย้งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยจึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1762/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์: ใช้กฎหมาย ณ เวลาอุทธรณ์ คดีทุนทรัพย์น้อยกว่า 20,000 บาท อุทธรณ์ข้อเท็จจริงไม่ได้
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเรื่องสิทธิอุทธรณ์ใช้กฎหมายในขณะยื่นอุทธรณ์ จำเลยยื่นอุทธรณ์เมื่อกฎหมายใหม่ใช้บังคับแล้ว คดีทุนทรัพย์ไม่เกิน 20,000 บาท จึงอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์และฎีกาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเรื่องทุนทรัพย์และข้อเท็จจริง
โจทก์แต่ละคนต่างใช้สิทธิเฉพาะตัวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 55 แม้จะฟ้องรวมกันมาก็ต้องถือทุนทรัพย์ของโจทก์แต่ละคนแยกกัน ปรากฏว่าโจทก์ที่ 1 ที่ 4 ที่ 7 และที่ 8 เรียกร้องให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์แต่ละคนไม่เกินสองหมื่นบาท จึงอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 ที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยเป็นการไม่ชอบ และเมื่อเป็นอุทธรณ์ต้องห้ามแล้ว ก็ไม่ถือว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์และฎีกาในคดีแพ่ง: ข้อจำกัดด้านทุนทรัพย์และการต้องห้ามอุทธรณ์/ฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง
โจทก์แต่ละคนต่างใช้สิทธิเฉพาะตัวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 55 แม้จะฟ้องรวมกันมาก็ต้องถือทุนทรัพย์ของโจทก์แต่ละคนแยกกัน ปรากฏว่าโจทก์ที่ 1 ที่ 4 ที่ 7 และที่ 8 เรียกร้องให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์แต่ละคนไม่เกินสองหมื่นบาท จึงอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 ที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยเป็นการไม่ชอบ และเมื่อเป็นอุทธรณ์ต้องห้ามแล้ว ก็ไม่ถือว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1492/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาในคดีที่ศาลอุทธรณ์สั่งให้พิจารณาใหม่เมื่อจำเลยขาดนัด คดีต้องห้ามฎีกาตามทุนทรัพย์เดิม
คดีโจทก์เรียกให้ชำระหนี้ 9,650 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้พิจารณาใหม่ในคดีที่จำเลยขาดนัด โจทก์ฎีกาในปัญหาชั้นขอให้พิจารณาใหม่ ก็ต้องถือตามทุนทรัพย์เดิม จึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 6 พ.ศ.2518 มาตรา 6
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1472/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกานี้เน้นย้ำถึงข้อจำกัดในการอุทธรณ์คดีที่มีทุนทรัพย์น้อยกว่า 20,000 บาท โดยเฉพาะประเด็นข้อเท็จจริงที่ต้องห้ามอุทธรณ์
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 20,000 บาท ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดี แม้จำเลยจะได้ยื่นคำแถลงโต้แย้งคำสั่งนั้นไว้ ก็เป็นปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 แม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในปัญหาข้อนั้นเป็นคุณแก่จำเลย และโจทก์ฎีกาต่อมา แต่เมื่ออุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ที่ต้องห้ามตามกฎหมายแล้วก็ย่อมไม่ถือว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัย
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยมิได้นำสืบว่าโจทก์ยินยอมตกลงรับจะปฏิบัติตามเงื่อนไขในใบรับของ จำเลยจึงไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ให้พ้นความรับผิด จำเลยอุทธรณ์ว่าโจทก์ยอมรับปฏิบัติตามเงื่อนไขนั้นแล้ว ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ข้อนี้โดยเห็นว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมาย แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่อยู่แล้วจึงมิได้วินิจฉัยปัญหานี้ ดังนี้ เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าไม่ชอบที่จะให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ ศาลฎีกาย่อมวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวไปเสียเลยก็ได้ และวินิจฉัยว่าเป็นปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยมิได้นำสืบว่าโจทก์ยินยอมตกลงรับจะปฏิบัติตามเงื่อนไขในใบรับของ จำเลยจึงไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ให้พ้นความรับผิด จำเลยอุทธรณ์ว่าโจทก์ยอมรับปฏิบัติตามเงื่อนไขนั้นแล้ว ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ข้อนี้โดยเห็นว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมาย แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่อยู่แล้วจึงมิได้วินิจฉัยปัญหานี้ ดังนี้ เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าไม่ชอบที่จะให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ ศาลฎีกาย่อมวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวไปเสียเลยก็ได้ และวินิจฉัยว่าเป็นปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1168/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์ข้อเท็จจริงเกินทุนทรัพย์ – จำเลยอุทธรณ์วันเกิดเหตุต่างจากฟ้อง ศาลฎีกายืนตามศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยทำละเมิดโดยปล่อยกระบือของจำเลยให้ขวิดกระบือของโจทก์ขาหักในวันที่ 17 ตุลาคม 2517 ตรงตามที่กล่าวในฟ้อง จำเลยอุทธรณ์อ้างว่าวันเกิดเหตุทำละเมิดเป็นวันอื่นนอกเหนือจากที่ศาลชั้นต้นฟังมา ข้อเท็จจริงจึงต่างกับฟ้อง จำเลยไม่ต้องรับผิดนั้น เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1168/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ข้อเท็จจริงขัดต่อข้อจำกัดเรื่องทุนทรัพย์ ศาลยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยทำละเมิดโดยปล่อยกระบือของจำเลยให้ขวิดกระบือของโจทก์ขาหักในวันที่ 17 ตุลาคม 2517 ตรงตามที่กล่าวในฟ้อง จำเลยอุทธรณ์อ้างว่าวันเกิดเหตุทำละเมิดเป็นวันอื่นนอกเหนือจากที่ศาลชั้นต้นฟังมา ข้อเท็จจริงจึงต่างกับฟ้อง จำเลยไม่ต้องรับผิดนั้น เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 78/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามในข้อเท็จจริงเมื่อศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อยในคดีทุนทรัพย์ไม่เกิน 5,000 บาท
คดีมีทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกิน 5,000 บาท ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การโดยฟังว่าจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การและพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยแพ้คดี แม้จำเลยจะได้ยื่นคำแถลงโต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นนั้นไว้และอุทธรณ์ต่อมาก็ตาม แต่เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การ และพิพากษาแก้ไขเล็กน้อย จำเลยจะฎีกาว่ามิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การไม่ได้ เพราะเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2519)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2519)