คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยกฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,640 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2195/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างวันเกิดเหตุในฟ้อง ไม่เป็นเหตุให้ยกฟ้อง หากจำเลยไม่หลงต่อสู้
ในคดีความผิดฐานปล้นทรัพย์ แม้ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาว่าเกิดเหตุวันที่ 8 ธันวาคม 2513 แตกต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าเกิดเหตุวันที่ 7 ธันวาคม 2513ก็จริง แต่ก็มิใช่เป็นข้อแตกต่างในสารสำคัญ เพราะวันเวลาที่เกิดเหตุเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์จะต้องกล่าวในฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 เท่านั้นและเมื่อจำเลยมิได้หลงต่อสู้ ก็จะยกฟ้องด้วยเหตุนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 207/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งห้ามชั่วคราวสิ้นผลเมื่อศาลพิพากษายกฟ้อง แม้มีการฝ่าฝืนคำสั่ง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งห้ามชั่วคราว ให้จำเลยระงับการก่อสร้างชั่วคราวจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ต่อมาจำเลยฝ่าฝืน โจทก์ขอให้ออกหมายจับจำเลยมาคุมขังและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วฟังว่า จำเลยมิได้ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามชั่วคราว ยกคำร้องและต่อมาพิพากษายกฟ้องของโจทก์ โดยมิได้กล่าวถึงวิธีการชั่วคราวที่ได้สั่งไว้ในระหว่างพิจารณา ถือว่าคำสั่งกำหนดวิธีการ(หมายห้ามชั่วคราว) เป็นอันยกเลิกไปในตัวการที่จะจับและจำขังจำเลยเมื่อปฏิบัติตามกฎหมายชั่วคราวที่ยกเลิกไปแล้วไม่อาจกระทำได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกฟ้องคดีอาญาเมื่อโจทก์ไม่ทราบกำหนดนัด และการดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องที่ถูกต้อง
ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยฐานเบิกความเท็จ ในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องศาลสั่งให้รอฟังผลคดีแพ่งอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อคดีนั้นถึงที่สุดให้โจทก์หรือจำเลยแถลงต่อศาลต่อมาศาลมีหมายนัดให้คู่ความมาพร้อมกันเพื่อสอบถามเรื่องผลของคดีแพ่งดังกล่าวเพื่อดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ครั้นถึงวันนัดพร้อม โจทก์ไม่มาศาลดังนี้ ศาลก็ไม่อาจยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 เพราะไม่ใช่เป็นการนัดไต่สวนหรือพิจารณาอย่างใดและเมื่อศาลสั่งยกฟ้องไป แล้วความปรากฏว่า ที่โจทก์ไม่มาศาลเพราะส่งหมายนัดให้โจทก์ไม่ได้ ดังนี้ ศาลจะยกฟ้องตามมาตรา 166 วรรคหนึ่ง ไม่ได้อีกด้วย และกรณีเช่นนี้จะนำมาตรา 166 วรรคสอง มาใช้บังคับหาได้ไม่ เพราะเมื่อโจทก์ไม่ได้ทราบกำหนดนัดของศาลเสียแล้วก็ไม่มีเหตุสมควรอันใดที่โจทก์จะยกขึ้นแถลงต่อศาลได้ว่า ทำไมจึงมาศาลไม่ได้ โจทก์จึงไม่จำต้องร้องขอให้ศาลยกคดีขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่ ตามมาตรา 166 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1466/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีของโจทก์ทำให้ศาลไม่อนุญาตเลื่อนนัดและยกฟ้องได้ แม้มีเหตุผลด้านสุขภาพ
พฤติการณ์ที่ถือว่าโจทก์ประวิงคดีให้ชักช้า อันเป็นเหตุให้ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนการนั่งพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1139/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สำคัญผิดในข้อเท็จจริงและการป้องกันตัว: ศาลยกฟ้องคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย
จำเลยได้ยินเสียงคนร้องทางฝั่งคลองตรงข้าม เข้าใจว่ามีเรื่องทะเลาะกัน จึงเดินลุยน้ำข้ามไปดู พอถึงก็ถูกคนตีที่แสกหน้าล้มลง เห็นคนตีวิ่งหนีไปทางทิศเหนือ แล้วมีคนวิ่งมาจากทางทิศเหนืออีก ซึ่งจำเลยเข้าใจว่าเป็นคนร้ายจะเข้ามาทำร้ายจำเลย จำเลยจึงใช้มีดดาบฟันคนที่วิ่งเข้ามานั้น 1 ทีถูกศีรษะกลับปรากฏว่าเป็นนายดินผู้ตายซึ่งเป็นญาติกัน ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยสำคัญผิดในข้อเท็จจริง กระทำป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 989/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลแขวงและการอุทธรณ์คำพิพากษา ยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ไม่อยู่ในบังคับมาตรา 22 พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงฯ
คดีอาญาที่อยู่ในอำนาจศาลแขวงพิจารณาพิพากษาเมื่อศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้องแล้วว่าไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง ย่อมอยู่ในบังคับแห่งมาตรา 22 พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ ห้ามโจทก์อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
แม้ศาลชั้นต้นจะได้กล่าวความไว้ในคำพิพากษามีข้อความต่าง ๆ ดังที่โจทก์อ้างว่าเป็นเรื่องนอกสำนวนหรือมีข้อเท็จจริงผิดไปจากสำนวนก็ดีเมื่อข้อความเหล่านั้นไม่เป็นข้อความสำคัญอันเป็นประเด็นข้อแพ้ชนะทั้งศาลชั้นต้นก็มิได้อาศัยเฉพาะความตามที่โจทก์ยกขึ้นอ้างนั้นแต่ประการเดียวเป็นเหตุยกฟ้องโจทก์ อุทธรณ์โจทก์จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 976/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายจากการถูกทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ชีวิต ศาลยกฟ้อง
จำเลยเดินมาคนเดียว ผู้ตายกับพวกหลายคนเข้าทำร้ายจำเลยผู้ตายรัดคอจำเลยจนจำเลยหายใจไม่ออก และพวกของผู้ตายก็แทงจำเลย จำเลยจึงใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ทีในขณะนั้น เพื่อให้ตนเองพ้นภัยบังเอิญมีดถูกอกผู้ตาย ผู้ตายจึงถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2331/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำคดีอาญา: ศาลยังไม่วินิจฉัยการกระทำผิด ยกฟ้องเคลือบคลุม ไม่ตัดสิทธิฟ้องใหม่
ในคดีก่อน โจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจรศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้องโดยวินิจฉัยว่า ข้อหาฐานความผิดทั้งสองตามที่กล่าวมาในฟ้องขัดกัน เป็นฟ้องเคลือบคลุมดังนี้ ยังไม่ถือว่าศาลได้วินิจฉัยถึงการกระทำผิดของจำเลยตามข้อกล่าวหาของโจทก์ โจทก์นำคดีนี้มาฟ้องใหม่ได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2299/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตนเอง: การใช้กำลังเพื่อแย่งปืนและการฟันเพื่อหยุดยั้งการทำร้าย ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง
ผู้ตายเมาสุราโกรธจำเลยที่ถามเรื่องกระพรวนควายของจำเลยหายที่ผู้ตายรับจะเป็นคนช่วยสืบหาให้ จึงชักปืนออกจะยิง จำเลยใช้มือซ้ายรวบมือผู้ตายที่ถือปืนกระชากผู้ตายหัวคะมำแล้วใช้มือขวาหยิบมีดโต้ปลายตัดที่ถือติดตัวมาฟันไปทันที 1 ที ถูกผู้ตายตรงหูเป็นแผลยาวจากท้ายทอยผ่าหูมาจดแก้มด้านซ้าย ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ เห็นว่าจำเลยฟันไปในขณะชุลมุนแย่งปืนกัน การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2284/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเหนือกว่ากรณีจำต้องกระทำเมื่อถูกรุมทำร้าย แม้มีบาดแผลสาหัสถึงแก่ความตาย ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องชอบแล้ว
จำเลยถูกผู้ตายกับพวกอีก 1 คนรุมชกต่อยที่บนสโมสร เมื่อจำเลยวิ่งหนีลงมาผู้ตายกับพวกยังวิ่งไล่ติดตามไปรุมชกต่อยจำเลยอีก จำเลยจวนตัวชักมีดปลายแหลมออกมาผู้ตายกับพวกก็ยังไม่หยุดยั้ง กลับเข้ารุมชกต่อยจำเลยเป็นชุลมุน การที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงทำร้ายต่อสู้ผู้ตายกับพวก เพื่อป้องกันตนไปในขณะนั้น และมิได้แทงทำร้ายผู้ตายกับพวกต่อไปอีก เมื่อผู้ตายกับพวกหยุดทำร้ายจำเลย ดังนี้ แม้ผู้ตายกับพวกจะมีบาดแผลคนละหลายแห่ง และผู้ตายถึงแก่ความตายก็ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
of 164