พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,449 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้โดยตัวแทนโดยปริยาย และผลต่ออายุความ
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 การรับสภาพหนี้จะต้องกระทำโดยลูกหนี้ แต่ลูกหนี้อาจตั้งตัวแทนให้ชำระหนี้แทนได้ซึ่งย่อมต้องถือว่าเป็นการชำระหนี้ของลูกหนี้นั้นเอง จำเลยที่ 2เคยลงลายมือชื่อรับสินค้าที่จำเลยที่ 1 ซื้อมาจากโจทก์แทนจำเลยที่ 1และเคยพูดขอผัดผ่อนชำระหนี้แทนจำเลยที่ 1 การที่จำเลยที่ 2มอบหลังคาไฟเบอร์กระบะรถชำระหนี้ให้โจทก์ เป็นการกระทำโดยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสิทธิเรียกร้องของโจทก์ ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 โดยปริยาย จึงเป็นการรับสภาพหนี้ที่มีผลผูกพัน จำเลยที่ 1 ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 664/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการเรียกดอกเบี้ยเกิน 5 ปี แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงและชำระหนี้บางส่วน
ในชั้นอุทธรณ์โจทก์ขอให้จำเลยชำระดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเพียง5 ปี ในชั้นฎีกาโจทก์จะขอให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันกู้ถึงวันฟ้องซึ่งเป็นเวลาเกินกว่า 5 ปีหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับสภาพหนี้และการเชิดตัวแทนทางกฎหมาย ทำให้หนี้ไม่ขาดอายุความ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 1 โดย ส. ได้ซื้อเครื่องกำจัดน้ำเสียกับพลาสติกมีเดียจากโจทก์ โจทก์ส่งมอบสินค้าตามที่สั่งซื้อครบถ้วน แต่จำเลยที่ 1 ยังชำระค่าสินค้าไม่ครบ ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินค่าสินค้าที่ยังค้างชำระพร้อมด้วยดอกเบี้ย โจทก์ได้แนบสำเนาใบส่งของและสำเนาหนังสือแจ้งยอดเงินค้างชำระไว้ท้ายฟ้องด้วย ซึ่งตามสำเนาเอกสารดังกล่าวปรากฏรายการสินค้าที่โจทก์ส่งให้แก่จำเลยที่ 1 และราคาสินค้าทั้งหมดรวมทั้งรายการชำระเงินค่าสินค้าของจำเลยที่ 1 ซึ่งเมื่อหักกลบลบกันแล้วคงเหลือยอดเงินที่ค้างชำระตามที่โจทก์ฟ้อง เป็นคำฟ้องที่ได้แสดงแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172แล้ว โจทก์ไม่จำต้องบรรยายฟ้องว่า มีการซื้อขายกี่ครั้ง ครั้งละเท่าใด เป็นเงินเท่าใด ชำระแล้วเมื่อใด ค้างชำระการซื้อขายครั้งใดเท่าใด เพราะรายละเอียดดังกล่าวเป็นเรื่องที่อาจนำสืบพยานกันได้ในชั้นพิจารณา การซื้อขายทรัพย์ที่มีราคาเกินกว่าห้าร้อยบาทแม้จะมิได้มีการทำสัญญาหรือทำหลักฐานเป็นหนังสือหรือได้วางประจำไว้แต่เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าการซื้อขายดังกล่าวได้มีการทำหนังสือรับสภาพหนี้กันไว้และโจทก์ได้ส่งมอบสินค้าให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 ได้ชำระราคาบ้างแล้ว จึงถือว่าการซื้อขายรายนี้ได้มีการชำระหนี้บางส่วนแล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องร้องขอให้บังคับคดีได้ตามความในมาตรา 456 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จำเลยที่ 1 ได้เชิดให้ ส. ออกแสดงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821 การที่ ส.ลงลายมือชื่อในเอกสารซึ่งมีลักษณะเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ จึงมีผลผูกพันจำเลยที่ 1 และเป็นผลให้อายุความสะดุดหยุดลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการโอนทรัพย์สินโดยฉ้อฉลต้องมีหนี้เกิดขึ้นก่อนหรือขณะทำนิติกรรม และเจ้าหนี้ต้องเสียเปรียบโดยตรง
การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ลูกหนี้โอนให้แก่ผู้คัดค้าน โดยไม่มีค่าตอบแทนและเป็นการฉ้อฉลตาม ป.พ.พ. มาตรา 237 โดย มิได้บรรยายคำร้องว่า ลูกหนี้ได้กระทำลงทั้งรู้อยู่ว่าจะเป็น ทางให้เจ้าหนี้รายใดเสียเปรียบ ต้องถือว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ขอให้เพิกถอนการโอนซึ่งทำให้โจทก์ต้องเสียเปรียบรายเดียวเท่านั้น และต้องได้ความว่าลูกหนี้เป็นหนี้เจ้าหนี้อยู่ก่อนหรือขณะที่ลูกหนี้ ทำนิติกรรมอันจะเป็นการให้เจ้าหนี้เสียเปรียบด้วยเมื่อลูกหนี้ โอนที่ดินให้ผู้คัดค้านแล้ว ถึง3 ปี จึงจะมาเป็นลูกหนี้โจทก์ ขณะโอนโจทก์จึงไม่อยู่ในฐานะเจ้าหนี้ของลูกหนี้ ดังนั้น แม้ลูกหนี้ จะโอนที่ดินไปโดยไม่มีค่าตอบแทนก็ตามผู้ร้องก็ไม่มีสิทธิร้องขอให้ เพิกถอน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 527/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อยึดรถขายทอดตลาด ผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกันต้องรับผิดชำระหนี้ส่วนที่ขาด
สัญญาเช่าซื้อระบุว่าเมื่อผู้ให้เช่าซื้อยึดรถยนต์ที่เช่าซื้อ คืนมาและนำออกขายแล้วได้เงินไม่พอชำระหนี้ ผู้เช่าซื้อยอมรับผิด จนครบ ดังนั้นเมื่อโจทก์ผู้ให้เช่าซื้อขายรถยนต์ที่เช่าซื้อได้ราคา ไม่ครบถ้วน จำเลยที่ 1 ผู้เช่าซื้อต้องรับผิดชำระราคาส่วนที่ขาด อันเป็นค่าเสียหาย ส่วนหนึ่งซึ่งเกิดจากการผิดสัญญา จำเลยที่ 3 ผู้ค้ำประกันย่อมต้องร่วมรับผิดด้วย สัญญาเช่าซื้อและค้ำประกันมิได้กำหนดว่ากรณีโจทก์จะขายรถยนต์เมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกันแล้ว โจทก์จะต้องบอกกล่าวผู้เช่าซื้อ หรือผู้ค้ำประกันก่อน ทั้งไม่มีกฎหมายระบุให้โจทก์จะต้องทำเช่นนั้น แต่กลับมีข้อสัญญาระบุว่าโจทก์สามารถขายได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวก่อน ซึ่งซึ่งไม่เป็นข้อที่ขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน โจทก์จึงไม่ต้องบอกกล่าวก่อนขาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4174/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกันตามสัญญาค้ำประกันหนี้ที่จำกัดวงเงินและความรับผิดตามสัญญาอุปกรณ์
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ให้รับผิดตามสัญญาค้ำประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 ที่เคยตกลงผูกพันตามสัญญาโอนขายลดเช็คฉบับเดิม ในการที่จำเลยที่ 1 ผิดสัญญาขายลดเช็คที่ได้กระทำขึ้นใหม่ภายหลัง เมื่อสัญญาค้ำประกันระบุให้ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดในหนี้สินที่มีอยู่แล้ว และที่จะเกิดขึ้นในภายหลังผู้ค้ำประกันจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาขายลดเช็คที่คู่สัญญาได้กระทำขึ้นต่อมาอีกภายหลัง แต่ผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิดเกินกว่าจำนวนเงินที่ต้องรับผิดตามสัญญาโอนขายลดเช็คที่สัญญาค้ำประกันได้ทำขึ้นเป็นสัญญาอุปกรณ์อยู่เดิม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4143/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการไถ่จำนองหลังมีคำพิพากษาตามยอม และการชำระหนี้แทนจำเลย
จำเลยกับผู้ร้องทำสัญญาประนีประนอมยอมความว่าจำเลยยอมโอนที่ดินแปลงพิพาทให้ผู้ร้อง หากผิดสัญญาให้ผู้ร้องบังคับได้ทันทีและให้ถือเอาคำพิพากษาตามยอมแสดงเจตนาโอนกรรมสิทธิ์แทนจำเลยได้ เมื่อศาลได้พิพากษาตามยอมเสร็จเด็ดขาดแล้ว ผู้ร้องย่อมมีสิทธิตามคำพิพากษาที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิได้ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1300 ผู้ร้องจึงมีสิทธิร้องขอให้งดการบังคับคดีของโจทก์ได้
โจทก์ฟ้องบังคับจำนอง ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ตามฟ้องแก่โจทก์ หนี้ตามสัญญาจำนองจึงกลายเป็นหนี้ตามคำพิพากษาไปแล้ว ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิไถ่จำนองตามจำนวนหนี้ในสัญญาจำนอง แต่มีสิทธิเข้าชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์แทนจำเลยได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 230
โจทก์ฟ้องบังคับจำนอง ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ตามฟ้องแก่โจทก์ หนี้ตามสัญญาจำนองจึงกลายเป็นหนี้ตามคำพิพากษาไปแล้ว ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิไถ่จำนองตามจำนวนหนี้ในสัญญาจำนอง แต่มีสิทธิเข้าชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์แทนจำเลยได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 230
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4137/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องหนี้จากสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีที่สิ้นสุดลงเมื่อไม่มีการเดินสะพัดทางบัญชี
ปรากฏตามบัญชีกระแสรายวันว่า นับแต่วันที่ 1 สิงหาคม2519 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดการต่ออายุสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีครั้งสุดท้าย จำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่ได้เบิกเงินออกจากบัญชีเลย และไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ให้จำเลยที่ 1 และที่ 2เบิกเงินเกินบัญชีต่อไปอีก คงมีแต่โจทก์คิดดอกเบี้ยทบต้นลงไว้ในบัญชีเท่านั้น จึงไม่มีลักษณะเป็นการเดินสะพัดทางบัญชี พฤติการณ์ของคู่กรณีที่ปฏิบัติต่อกันแสดงให้เห็นเจตนาได้ว่า ทั้งสองฝ่ายให้ถือว่าสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีอันเป็นสัญญาบัญชีเดินสะพัดสิ้นสุดลงนับแต่วันที่ 1 สิงหาคม2519 ดังนั้น โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยทั้งสามชำระหนี้นับแต่วันถัดจากวันดังกล่าวเป็นต้นไป โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2529เกินกำหนด 10 ปี ฟ้องโจทก์สำหรับต้นเงินซึ่งคำนวณถึงวันที่1 สิงหาคม 2519 จึงขาดอายุความ ส่วนสิทธิเรียกร้องให้จำเลยทั้งสามชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวหลังจากวันที่ 1 สิงหาคม 2519 ซึ่งเป็นหนี้ส่วนที่เป็นอุปกรณ์อันต้องอาศัยต้นเงินส่วนที่เป็นประธานซึ่งขาดอายุความ ย่อมขาดอายุความตามกันไปด้วยทั้งหมดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 190 เดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3713/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจำนองครอบคลุมดอกเบี้ยค้างชำระ โจทก์ไม่ชำระดอกเบี้ยจำเลยมีสิทธิปฏิเสธไถ่ถอน
ข้อตกลงในสัญญาจำนองมีว่า นอกจากโจทก์ต้องรับผิดในเงิน390,000 บาทแล้ว ยังต้องรับผิดสำหรับดอกเบี้ยซึ่งลูกหนี้ผิดนัดด้วย ดังนั้น การที่โจทก์ขอไถ่ถอนจำนองในจำนวนเงิน390,000 บาท โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์เสนอขอชำระดอกเบี้ยด้วยจำเลยย่อมปฏิเสธการรับชำระหนี้และไม่ยอมให้ไถ่ถอนจำนองได้ การนำสืบพยานเอกสารตามประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบพยานภายหลัง แม้ไม่ได้นำเอกสารดังกล่าวถามค้านพยานโจทก์ไว้จำเลยก็มีสิทธิอ้างส่งเอกสารดังกล่าวได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3121/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้ำประกันหนี้: แม้จำหน่ายคดีลูกหนี้ ผู้ค้ำประกันยังต้องรับผิดหากหนี้ยังไม่ระงับสิ้น
ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีจำเลยที่ 1 แล้ว เนื่องจากโจทก์ไม่ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การแต่เมื่อหนี้ของจำเลยที่ 1 ยังไม่ระงับสิ้นไป กรณีดังกล่าวก็มิได้ทำให้จำเลยที่ 1 หลุดพ้นจากการชำระหนี้ที่มีต่อโจทก์ จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ค้ำประกันจึงยังไม่หลุดพ้นจากความรับผิด.