พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,021 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3493/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ค้ำประกันเมื่อลูกหนี้ผิดนัด และการคิดดอกเบี้ยทบต้นหลังบอกเลิกสัญญา
โจทก์ได้บอกกล่าวทวงถามให้ลูกหนี้ชำระหนี้จนลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 686ลูกหนี้ผิดนัดลงเมื่อใด เจ้าหนี้ชอบที่จะเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ได้แต่นั้น ดังนั้นแม้ผู้ค้ำประกันจะมิได้รับหนังสือทวงถาม ผู้ค้ำประกันก็หาหลุดพ้นจากความรับผิดไม่ และโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องผู้ค้ำประกัน
โจทก์มีหนังสือบอกเลิกสัญญาบัญชีเดินสะพัดระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 นับแต่วันที่จำเลยที่ 1 ได้รับหนังสือบอกเลิกแต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้รับหนังสือดังกล่าวเมื่อใดโจทก์จึงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยทบต้นได้เพียงแค่วันที่ลงในหนังสือนั้น ต่อจากนั้นไปคงคิดได้แต่ดอกเบี้ยธรรมดา
โจทก์มีหนังสือบอกเลิกสัญญาบัญชีเดินสะพัดระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 นับแต่วันที่จำเลยที่ 1 ได้รับหนังสือบอกเลิกแต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้รับหนังสือดังกล่าวเมื่อใดโจทก์จึงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยทบต้นได้เพียงแค่วันที่ลงในหนังสือนั้น ต่อจากนั้นไปคงคิดได้แต่ดอกเบี้ยธรรมดา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3484/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความ 'ไม่ชำระค่าเช่านา' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา และสิทธิบอกเลิกสัญญา
คำว่า 'ไม่ชำระค่าเช่านา' ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 32(1) นั้นมีความหมายรวมถึงการไม่ชำระค่าเช่าแต่บางส่วนด้วย เมื่อจำเลยไม่ชำระค่าเช่านาเป็นข้าวเปลือกตามที่ตกลงกันให้โจทก์ในปี พ.ศ.2521 ส่วนในปี พ.ศ.2522 จำเลยชำระให้โจทก์เพียงส่วนหนึ่งไม่ครบถ้วนตามที่ตกลง ถือได้ว่าจำเลยไม่ชำระค่าเช่านาให้โจทก์รวมกันเป็นเวลา 2 ปี และไม่ปรากฏว่าคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำอำเภอผ่อนผันให้จำเลย โจทก์จึงมีสิทธิบอกเลิกการเช่านากับจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3484/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความ 'ไม่ชำระค่าเช่านา' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา และสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่า
คำว่า 'ไม่ชำระค่าเช่านา' ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 32(1) นั้นมีความหมายรวมถึงการไม่ชำระค่าเช่าแต่บางส่วนด้วย เมื่อจำเลยไม่ชำระค่าเช่านาเป็นข้าวเปลือกตามที่ตกลงกันให้โจทก์ในปี พ.ศ.2521 ส่วนในปี พ.ศ.2522 จำเลยชำระให้โจทก์เพียงส่วนหนึ่งไม่ครบถ้วนตามที่ตกลง ถือได้ว่าจำเลยไม่ชำระค่าเช่านาให้โจทก์รวมกันเป็นเวลา 2 ปี และไม่ปรากฏว่าคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำอำเภอผ่อนผันให้จำเลยโจทก์จึงมีสิทธิบอกเลิกการเช่านากับจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2586/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองนาพิพาทหลังบอกเลิกสัญญาซื้อขาย: การวิดน้ำจับปลาไม่เป็นลักทรัพย์
ผู้เสียหายตกลงขายนาพิพาทให้จำเลยแล้ว ต่อมาได้บอกเลิกการขายโดยยินยอมให้จำเลยเกี่ยวข้าวในนา และวิดน้ำจับเอาปลา ในบ่อไปได้ การที่จำเลยจับเอาปลาในบ่อที่นาพิพาทของผู้เสียหายไป จึงไม่เป็นการกระทำผิดฐานลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2397/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าและการบอกเลิกสัญญา: การซ่อมแซม/ปรับปรุงตึกของผู้เช่าไม่ถือเป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดพิเศษ
เงินที่จำเลยชำระให้แก่ผู้เช่าเดิมเพื่อให้ผู้เช่าเดิมออกไปจากตึกพิพาทก็เพื่อจำเลยจะได้เช่าตึกพิพาทจากโจทก์ผู้ให้เช่าต่อไป ซึ่งโจทก์มิได้รับประโยชน์จากเงินจำนวนดังกล่าว จึงไม่เป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดพิเศษ ส่วนการซ่อมแซมปรับปรุงตึกพิพาทสิ้นเงินไปจำนวนหนึ่ง ก็เป็นการซ่อมแซมปรับปรุงตึกของโจทก์ซึ่งมีพร้อมอยู่แล้ว มิได้ก่อสร้างเพิ่มเติมขึ้นใหม่ และเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสะดวกสบายของจำเลยฝ่ายเดียว ถือไม่ได้ว่าเป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดพิเศษเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2388/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกร้องเบี้ยปรับตามสัญญาซื้อขาย: ผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาแล้ว ไม่สามารถเรียกร้องเบี้ยปรับรายวันได้
สัญญาซื้อขายข้อ 7 กำหนดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้ขายผิดสัญญาโดยไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงขายให้แก่ผู้ซื้อ หรือส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้อง หรือส่งมอบไม่ครบจำนวนและผู้ซื้อได้บอกเลิกสัญญาแก่ผู้ขาย ส่วนข้อ 8 กำหนดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาแก่ผู้ขาย ยังคงยอมให้ผู้ขายนำสิ่งของที่ซื้อขายส่งให้แก่ผู้ซื้อต่อไป ผู้ซื้อจึงจะมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับจากผู้ขายเป็นรายวันได้ เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเนื่องจากจำเลยส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ ถูกต้อง โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับตามสัญญาข้อ 7 เท่านั้น ไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับเป็นรายวันตามสัญญาข้อ 8
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างที่มีกำหนดเวลาอย่างน้อย 3 ปี ไม่ถือเป็นสัญญาที่มีกำหนดระยะเวลาแน่นอน นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย
ข้อตกลงตามหนังสือสัญญาจ้างมีว่า "กำหนดสัญญาว่าจ้างอย่างน้อยเป็นเวลา 3 ปี" นั้น สัญญาจ้างหาสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนด 3 ปีไม่ แต่ยังมีผลต่อไปจนกว่าจะมีการบอกเลิกสัญญา สัญญาจ้างดังกล่าวจึงมิใช่สัญญาที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนอันจะเป็นเหตุให้นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยเมื่อเลิกจ้างตามกำหนดระยะเวลานั้น
เมื่อศาลแรงงานกลางพิพากษายกคำขอของโจทก์ในเรื่องสินจ้างแทนการบอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้า โจทก์มิได้อุทธรณ์ เพียงแต่ขอมาในคำแก้อุทธรณ์ว่าขอให้จำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้าเป็นเงิน 30,000 บาทแก่โจทก์ ศาลฎีกาจะพิพากษาให้จำเลยจ่ายสินจ้างดังกล่าวหาได้ไม่ จึงไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาตามคำแก้อุทธรณ์ของโจทก์
เมื่อศาลแรงงานกลางพิพากษายกคำขอของโจทก์ในเรื่องสินจ้างแทนการบอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้า โจทก์มิได้อุทธรณ์ เพียงแต่ขอมาในคำแก้อุทธรณ์ว่าขอให้จำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้าเป็นเงิน 30,000 บาทแก่โจทก์ ศาลฎีกาจะพิพากษาให้จำเลยจ่ายสินจ้างดังกล่าวหาได้ไม่ จึงไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาตามคำแก้อุทธรณ์ของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างระบุระยะเวลาขั้นต่ำ 3 ปี มิใช่สัญญาที่มีกำหนดระยะเวลาแน่นอน นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย
ข้อตกลงตามหนังสือสัญญาจ้างมีว่า 'กำหนดสัญญาว่าจ้างอย่างน้อยเป็นเวลา 3 ปี' นั้น สัญญาจ้างหาสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนด 3 ปีไม่ แต่ยังมีผลต่อไปจนกว่าจะมีการบอกเลิกสัญญา สัญญาจ้างดังกล่าวจึงมิใช่สัญญาที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนอันจะเป็นเหตุให้นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยเมื่อเลิกจ้างตามกำหนดระยะเวลานั้น
เมื่อศาลแรงงานกลางพิพากษายกคำขอของโจทก์ในเรื่องสินจ้างแทนการบอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้า โจทก์มิได้อุทธรณ์เพียงแต่ขอมาในคำแก้อุทธรณ์ว่าขอให้จำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้าเป็นเงิน 30,000 บาทแก่โจทก์ ศาลฎีกาจะพิพากษาให้จำเลยจ่ายสินจ้างดังกล่าวหาได้ไม่ จึงไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาตามคำแก้อุทธรณ์ของโจทก์
เมื่อศาลแรงงานกลางพิพากษายกคำขอของโจทก์ในเรื่องสินจ้างแทนการบอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้า โจทก์มิได้อุทธรณ์เพียงแต่ขอมาในคำแก้อุทธรณ์ว่าขอให้จำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้าเป็นเงิน 30,000 บาทแก่โจทก์ ศาลฎีกาจะพิพากษาให้จำเลยจ่ายสินจ้างดังกล่าวหาได้ไม่ จึงไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาตามคำแก้อุทธรณ์ของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทน การบอกเลิกสัญญาต้องมีเหตุตามสัญญาหรือกฎหมาย มิใช่เพียงความไม่พอใจ
โจทก์จำเลยทำสัญญากันโดยจำเลยยอมแบ่งที่นาพิพาทให้โจทก์และโจทก์ยอมยกกระบือและแบ่งเงินกับข้าวเปลือกให้จำเลย สัญญาดังกล่าวจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทน จำเลยจะบอกเลิกสัญญากับโจทก์ได้จะต้องมีเหตุที่ระบุไว้ในข้อสัญญาว่าให้บอกเลิกสัญญาได้ หรือมีเหตุอื่นที่กฎหมายให้อำนาจจำเลยบอกเลิกสัญญาได้ จำเลยจะบอกเลิกสัญญาโดยอ้างเหตุแต่เพียงว่าข้อสัญญาไม่เป็นไปตามความประสงค์ของจำเลย โดยโจทก์ไม่ยินยอมด้วยหาได้ไม่ เพราะโจทก์มิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาและตามข้อสัญญาก็มิได้ให้สิทธิจำเลยที่จะ เลิกสัญญาเพราะเหตุดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทน การบอกเลิกสัญญาต้องมีเหตุตามสัญญาหรือกฎหมาย มิอาจเลิกได้โดยอ้างความไม่พอใจ
โจทก์จำเลยทำสัญญากันโดยจำเลยยอมแบ่งที่นาพิพาทให้โจทก์และโจทก์ยอมยกกระบือและแบ่งเงินกับข้าวเปลือกให้จำเลยสัญญาดังกล่าวจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทน จำเลยจะบอกเลิกสัญญากับโจทก์ได้จะต้องมีเหตุที่ระบุไว้ในข้อสัญญาว่าให้บอกเลิกสัญญาได้ หรือมีเหตุอื่นที่กฎหมายให้อำนาจจำเลยบอกเลิกสัญญาได้ จำเลยจะบอกเลิกสัญญาโดยอ้างเหตุแต่เพียงว่าข้อสัญญาไม่เป็นไปตาม ความประสงค์ของจำเลย โดยโจทก์ไม่ยินยอมด้วยหาได้ไม่ เพราะโจทก์ มิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาและตามข้อสัญญาก็มิได้ให้สิทธิจำเลยที่จะ เลิกสัญญาเพราะเหตุดังกล่าวได้