คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลักทรัพย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,595 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3462/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากลักทรัพย์เป็นฉ้อโกงและการพิจารณาข้อต่อสู้ของจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้บทลงโทษจำเลยจากลักทรัพย์เป็นฉ้อโกงแต่คงให้ลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปี เท่ากับศาลชั้นต้น เป็นการแก้ไขเล็กน้อย คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงมิได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ฟ้องว่าลักทรัพย์ ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาฟังได้ว่าเป็นฉ้อโกง เมื่อจำเลยนำสืบว่ากระบือที่จำเลยรับมาเป็นกระบือของจำเลย ถือไม่ได้ว่าจำเลยหลงต่อสู้ ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192วรรคสามได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2868/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในครั่งโอนทันทีเมื่อซื้อขายเสร็จเด็ดขาด แม้ยังไม่ชำระเงินครบ การเอาไปไม่เป็นลักทรัพย์
ผู้เสียหายตกลงขายครั่งให้แก่จำเลยในราคา 400 บาท จำเลยขอแกะครั่งจากไม้ก่อน เมื่อแกะครั่งแล้ว ก่อนเอาครั่งไปจะชำระเงินอีก 300 บาท โดยไม่ได้ตกลงให้ถือเอาการชำระเงินเป็นเงื่อนไขในการโอนกรรมสิทธิ์ ข้อตกลงดังกล่าวจึงมิใช่เงื่อนไขที่จะทำให้กรรมสิทธิ์ในครั่งไม่โอนไปยังจำเลย การตกลงซื้อขายครั่งระหว่างผู้เสียหายกับจำเลยเป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด เพราะเป็นการซื้อเหมาครั่งที่มีจำนวนแน่นอน เมื่อตกลงซื้อขายด้วยวาจากรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ซื้อขายย่อมโอนไปยังผู้ซื้อทันทีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 458 การที่จำเลยเอาทรัพย์อันเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยไป จึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2478/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของรวมลักทรัพย์: ต้องพิสูจน์ว่าทรัพย์อยู่ในครอบครองของเจ้าของรวมอื่น ไม่ใช่ตนเอง
การกระทำที่เจ้าของรวมจะมีความผิดฐานลักทรัพย์ไปจากเจ้าของรวมคนอื่นนั้น จะต้องได้ความว่าเจ้าของรวมผู้ลักมิได้ครอบครองทรัพย์อยู่ในขณะที่ลักหากแต่ทรัพย์นั้น อยู่ในความครอบครองของเจ้าของรวมคนอื่นและเอาไปจากการครอบครองของผู้นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2478/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานลักทรัพย์ระหว่างเจ้าของรวม ต้องพิสูจน์ว่าทรัพย์ไม่อยู่ในความครอบครองของผู้ลัก
การกระทำที่เจ้าของรวมจะมีความผิดฐานลักทรัพย์ไปจาก เจ้าของรวมคนอื่นนั้นจะต้องได้ความว่าเจ้าของรวมผู้ลักมิได้ครอบครองทรัพย์อยู่ในขณะที่ลักหากแต่ทรัพย์นั้น อยู่ในความครอบครองของเจ้าของรวมคนอื่นและเอาไปจากการ ครอบครองของผู้นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2208/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โจทก์ฟ้องไม่ตรงกับของกลาง ศาลยกฟ้องฐานลักทรัพย์/รับของโจร ยางพาราชนิดต่างกัน
โจทก์ฟ้องว่า มีคนร้ายหลายคนลักยางพาราแผ่น 11 มัดของ จ. ผู้เสียหายไป ต่อมาเจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสองได้ และยึดยางพาราแผ่น 1 มัดของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไป ดังกล่าวเป็นของกลางทางพิจารณาได้ความว่ายางพาราแผ่น 1 มัดของกลางที่จำเลยทั้งสองลักไป เป็นยางคนละชนิดคนละ จำนวนกับยางพาราแผ่น 11 มัดของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไป จึงเป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์มิได้มุ่งประสงค์ให้ลงโทษ จำเลยทั้งสองฐานลักหรือรับของโจรยางพาราแผ่น 1 มัดของกลางข้อเท็จจริงในทางพิจารณาจึงแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวใน ฟ้องและมิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษศาล จะลงโทษจำเลยทั้งสองฐานลักยางพาราแผ่น 1 มัดของกลางมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2208/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีลักทรัพย์/รับของโจร: โจทก์ต้องมุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยในความผิดที่ฟ้องเท่านั้น
โจทก์ฟ้องว่า มีคนร้ายหลายคนลักยางพาราแผ่น 11 มัดของ จ. ผู้เสียหายไป ต่อมาเจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสองได้ และยึดยางพาราแผ่น 1 มัดของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไป ดังกล่าวเป็นของกลางทางพิจารณาได้ความว่ายางพาราแผ่น 1 มัดของกลางที่จำเลยทั้งสองลักไป เป็นยางคนละชนิดคนละ จำนวนกับยางพาราแผ่น 11 มัดของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลัก ไป จึงเป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์มิได้มุ่งประสงค์ให้ลงโทษ จำเลยทั้งสองฐานลักหรือรับของโจรยางพาราแผ่น 1 มัดของกลางข้อเท็จจริงในทางพิจารณาจึงแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวใน ฟ้องและมิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษศาล จะลงโทษจำเลยทั้งสองฐานลักยางพาราแผ่น 1 มัดของกลางมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 200/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการลงโทษฐานลักทรัพย์ แม้ฟ้องยักยอก และการลงโทษความผิดหลายกระทง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ศาลอุทธรณ์ย่อมลงโทษจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรคสาม
ผู้ใดร่วมกับผู้อื่นเอาเอกสาร (เช็ค) ของผู้อื่นไปโดยทุจริต ย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 และเป็นความผิดตามมาตรา 335 อีกบทหนึ่งด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 200/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการลงโทษฐานลักทรัพย์ แม้ฟ้องฐานยักยอก และความผิดซ้อนจากเอกสาร
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ศาลอุทธรณ์ย่อมลงโทษจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรคสาม ผู้ใดร่วมกับผู้อื่นเอาเอกสาร (เช็ค) ของผู้อื่นไปโดยทุจริตย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188และเป็นความผิดตามมาตรา 335 อีกบทหนึ่งด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1908/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาขู่เข็ญเพื่อปล้นทรัพย์: การพิจารณาจากพฤติการณ์และเจตนาของผู้กระทำ
จำเลยกับพวกอีก 3 คนเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านผู้เสียหาย ซึ่งมี ส. กับสามีนอนอยู่ในมุ้งบนบ้าน.ส. ตื่นและได้ยินเสียงคนร้ายพูดกันว่า ถ้าเจ้าของบ้านตื่นจะฆ่าให้ ตาย ส.จึงแกล้งนอนหลับส่วนสามีของส. ยังนอนหลับ อยู่จำเลยนั่งคุมส.กับสามีของส.อยู่ข้างมุ้งพวกของจำเลย ค้นหาทรัพย์ในบ้าน เมื่อได้ทรัพย์แล้วพา กันหลบหนีไป การที่จำเลยกับพวก พูดกันเองว่าถ้า เจ้าของบ้านตื่นจะฆ่าให้ตายโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยกับพวก รู้ว่า ส. ตื่นและได้ยินข้อความที่จำเลยกับพวกพูดกัน เช่นนี้ ถือไม่ได้ว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาขู่เข็ญว่าจะ ใช้กำลังประทุษร้าย ส. การกระทำของจำเลยกับพวกไม่เป็น ความผิดฐานปล้นทรัพย์ คงเป็นเพียงความผิดฐานลักทรัพย์ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1),(7),(8)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1886/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์: การครอบครองทรัพย์สินเปลี่ยนมือจากผู้เสียหายไปสู่คนร้าย ทำให้จำเลยไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์จากผู้เสียหาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานร่วมกับพวกปล้นทรัพย์หรือรับของโจร ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ทั้งสองข้อหานี้ แต่ลงโทษจำเลย ฐานลักทรัพย์ โจทก์มิได้อุทธรณ์ความผิดในข้อหาปล้นทรัพย์และรับของโจร จึงถึงที่สุดแล้วตามคำพิพากษาของ ศาลชั้นต้น
จำเลยไปพบทรัพย์ของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายปล้นเอาไปทิ้งไว้ริมทางรถไฟ จำเลยนำไปซุกซ่อนไว้ในป่าละเมาะ เมื่อผู้เสียหายมิได้ติดตามเอาทรัพย์ ที่ถูกคนร้ายปล้นเอาไปคืนจากคนร้าย ถือได้ว่าการครอบครองทรัพย์ ของผู้เสียหายได้ สิ้นสุดลงตั้งแต่คนร้ายได้แย่งการครอบครองไป การครอบครอง ทรัพย์จึงเป็นของคนร้ายจำเลยเอาทรัพย์ดังกล่าว ไป จึง มิใช่เป็นการแย่งการครอบครองไปจากผู้เสียหาย จำเลย ไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์ของผู้เสียหาย ส่วนจำเลยจะมี ความผิด ฐานลักทรัพย์ของคนร้ายที่ปล้นเอาไปจากผู้เสียหายตาม ข้อเท็จจริง ที่ปรากฏในทางพิจารณาหรือไม่นั้น ไม่ใช่เป็น เรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษ ศาลจึงลงโทษจำเลยไม่ได้
of 160