คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
โจทก์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,033 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีเช็ค เนื่องจากไม่ใช่ผู้เสียหายในขณะเกิดความผิด แม้จะได้รับเช็คภายหลัง
ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้นเกิดขึ้นในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อขณะที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งแรก โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ทรงเช็ค โจทก์ก็ไม่เป็นผู้เสียหาย แม้ต่อมาโจทก์จะรับเช็คดังกล่าวมาแล้วนำไปเบิกเงินจากธนาคารและถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอีก ไม่ว่าจำเลยจะตกลงให้โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินอีกหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่ทำให้การกระทำของจำเลยซึ่งเป็นความผิดแล้วกลับเป็นความผิดซ้ำขึ้นมาอีกโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 456/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจศาล: คดีความผิดเกิดขึ้นในเขตหนึ่ง แต่มีการสอบสวนในอีกเขตหนึ่ง โจทก์มีอำนาจฟ้องที่ศาลในเขตสอบสวนได้
เมื่อความผิดเกิดขึ้นในเขตอำนาจของศาลจังหวัดปัตตานี แต่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้ในท้องที่จังหวัดสงขลา และพนักงานสอบสวนในท้องที่ดังกล่าวได้ทำการสอบสวนความผิดตามที่ถูกกล่าวหานี้แล้ว โจทก์ก็มีอำนาจฟ้องที่ศาลจังหวัดสงขลาให้ชำระคดีนี้ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22 (1) ซึ่งเป็นข้อยกเว้นของมาตรา 22 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2895/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเช็คและการตัดบทรับผิด – จำเลยต้องรับผิดเมื่ออ้างว่าตนเองลงลายมือชื่อ แต่ความจริงแล้วผู้อื่นลงแทน
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยลงลายมือชื่อในเช็ค ไม่มีประเด็นว่าบุตรจำเลยลงชื่อจำเลยแล้วจำเลยรู้เห็นไม่ทวงเช็คคืน จึงต้องตัดบทมิให้ยกประเด็นข้อลายมือปลอมขึ้นต่อสู้ศาลยกข้อนี้ขึ้นพิพากษาให้จำเลยรับผิดตามเช็คไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2154/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีละเมิด: การรู้ถึงการละเมิดและตัวผู้กระทำละเมิดของตัวแทนไม่ถือว่าโจทก์รู้ด้วย
โจทก์เพียงแต่มอบหมายให้การไฟฟ้านครหลวงดูแลรักษาซ่อมแซมเสาไฟฟ้าและโคมไฟของโจทก์ที่ติดตั้งในถนนสาธารณะ ตลอดจนเป็นผู้แจ้งความตีราคาค่าเสียหายและติดตามเรื่องในกรณีที่เสาไฟฟ้าถูกรถชนเท่านั้น หาได้มอบหมายให้การไฟฟ้านครหลวงติดตามเรียกร้องค่าเสียหายหรือมอบหมายให้ดำเนินคดีฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้กระทำละเมิดอันจะถือว่าเป็นตัวแทนไม่ฉะนั้น การที่การไฟฟ้านครหลวงซึ่งเป็น นิติบุคคลต่างหากจากโจทก์รู้ถึงการละเมิด และรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2518 จะถือว่าโจทก์รู้ด้วยใน วันที่ดังกล่าวไม่ได้คดีนี้โจทก์ผู้เสียหายทราบเรื่องการละเมิดและรู้ตัวผู้กระทำละเมิดจากการไฟฟ้านครหลวงเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2519 ซึ่งนับถึงวันฟ้องไม่เกิน 1 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1636/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทโดยกล่าวถึงกลุ่มบุคคล: การขาดเจตนาเฉพาะเจาะจงทำให้โจทก์ขาดคุณสมบัติเป็นผู้เสียหาย
จำเลยกล่าวถ้อยคำถึงราษฎร 2 อำเภอ ที่อพยพมาอยู่รวมกันในหมู่บ้านซึ่งมีจำนวนประมาณ 4,000 คน ว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ดังนี้ คนธรรมดาสามัญย่อมไม่เข้าใจว่าเป็นการกล่าวพาดพิงหรือใส่ความบุคคลใด เพียงแต่โจทก์ทั้งสองเป็นบุคคลที่รวมอยู่ในจำนวนคนเหล่านั้น จะว่าจำเลยใส่ความโจทก์ทั้งสองโดยตรงหาได้ไม่ โจทก์ทั้งสองจึงมิใช่เป็นผู้เสียหาย อันจะมีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1594/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จเพื่อขอเลขบ้านใหม่ ไม่เป็นเหตุให้โจทก์มีอำนาจฟ้องคดีอาญาต่อจำเลย
บ้านปลูกไว้แล้วและขายฝากแก่โจทก์ จำเลยขอปลูกสร้างบ้านเป็นอุบายเพื่อขอเลขบ้านใหม่ และได้รับเลขบ้านใหม่ไปเป็นการแจ้งความเท็จซึ่งโจทก์อ้างว่าเพื่อยักยอกบ้านที่ขายฝาก การแจ้งความเท็จเป็นการกระทำต่อเจ้าพนักงาน ไม่เกี่ยวกับโจทก์ โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงที่จะฟ้องจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนนัดสืบพยานจากความเข้าใจผิดเรื่องเวลา ไม่ถือว่าโจทก์ไม่มีพยาน
วันนัดสืบพยานโจทก์ทั้งสองคราวโจทก์นำพยานมาศาล โดยครั้งแรกจำเลยที่ 2 ขอเลื่อนคดี แต่วันนัดสืบพยานครั้งที่สองโจทก์นำพยานมาศาลผิดเวลาเพราะจดเวลานัดสืบพยานคลาดเคลื่อนไป เป็นข้ออ้างมีเหตุผลสมควร เพราะวันนัดสืบพยานครั้งแรกนัดสืบพยานเวลา 13.30 นาฬิกา ส่วนครั้งหลังนัดเวลา 9 นาฬิกา การที่โจทก์ไม่มาศาลตามเวลาในวันนัดสืบพยานโจทก์ดังกล่าวยังไม่พอถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แม้ที่ดินอยู่ใน นส.3ก ของจำเลย แต่โจทก์มีสิทธิขอเพิกถอนส่วนที่ทับที่ดินของตนได้
แม้ศาลจะพิพากษาแล้วว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์และเป็นที่ดินที่รวมอยู่ในที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของจำเลยก็ตามจำเลยก็ไม่มีหน้าที่อย่างใดที่จะต้องไปจัดการโอนที่พิพาทให้เป็นของโจทก์ หากที่พิพาทยังมีชื่อจำเลยเป็นเจ้าของในหนังสือรับรองการทำประโยชน์อยู่ โจทก์มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของจำเลยเฉพาะส่วนที่ออกทับที่พิพาทซึ่งเป็นของโจทก์เท่านั้น
การที่โจทก์ขอให้จดทะเบียนแบ่งแยกให้ก็พอจะแปลความหมายได้ว่าโจทก์ต้องการที่ดินกลับคืนมาเป็นของโจทก์ แต่เมื่อศาลเห็นว่าไม่สามารถจะบังคับให้ได้ตามคำขอ คงบังคับได้แต่เพียงให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์เฉพาะส่วน ศาลก็ชอบที่จะพิพากษาเช่นนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1292/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงให้ศาลชี้ขาดลายมือชื่อแทนผู้เชี่ยวชาญมีผลผูกพัน โจทก์จะกลับคำไม่ได้
ผู้เชี่ยวชาญชี้แจงว่าตัวอย่างลายเซ็นชื่อโจทก์ไม่เพียงพอและเขียนคนละแบบกับเอกสารพิพาท ขอส่งเอกสารคืนคู่ความแถลงว่าเมื่อผู้เชี่ยวชาญไม่อาจพิสูจน์ลายมือชื่อโจทก์ได้ ก็ขอให้ศาลเป็นผู้พิสูจน์แทน เมื่อมีข้อตกลงกันเช่นนี้แล้ว โจทก์จะย้อนไปยกเอาคำชี้แจงของผู้เชี่ยวชาญมากล่าวอ้างอีกหาได้ไม่
การที่คู่ความตกลงกันให้ศาลพิสูจน์และชี้ขาดลายเซ็นของโจทก์ แล้วพิพากษาไปตามคำชี้ขาดนั้น หาใช่เป็นการที่ศาลกระทำหน้าที่เป็นอนุญาโตตุลาการไม่ หากแต่เป็นกรณีที่ศาลได้ทำหน้าที่ชี้ขาดข้อเท็จจริงตามที่คู่ความท้ากันไม่เป็นการขัดต่อกฎหมายอย่างใด โจทก์จะกลับมาขอให้มีการสืบพยานอีกหาได้ไม่
เมื่อคู่ความตกลงกันใหม่ให้ศาลเป็นผู้พิสูจน์และชี้ขาดลายเซ็นของโจทก์แล้วพิพากษาไปตามคำชี้ขาดนั้น ย่อมมีความหมายอยู่ในตัวว่าโจทก์ยอมให้ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะหรือแพ้คดีตามผลการชี้ขาดของศาล โดยโจทก์ไม่ต้องดำเนินการในทางถอนฟ้องตามที่ตกลงท้ากันไว้ในครั้งแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยเกินกว่าที่โจทก์ฟ้อง: ศาลฎีกายกฟ้องข้อหาเดิม หากศาลล่างลงโทษเกินกว่าที่ฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเรียกเงินจากผู้เสียหายโดยทุจริต มิได้ฟ้องว่าจำเลยไม่คืนไม้ที่จับไว้จากผู้เสียหายศาลไม่ฟังว่าจำเลยเรียกเงิน จึงลงโทษจำเลยเพราะไม่คืนไม้เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา157 ไม่ได้
of 104