คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประมวลกฎหมายอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 752 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1731/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เครื่องหมายการค้าเลียนแบบจนประชาชนหลงเชื่อ แม้ไม่ได้จดทะเบียน ก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
จำเลยเคยรับสินค้าของโจทก์มาจำหน่ายเป็นเวลาหลายปี แล้วเลิกเสีย หันมาผลิตสินค้าประเภทเดียวกันขึ้นจำหน่ายเอง โดยใช้เครื่องหมายการค้าคล้ายกัลเครื่องหมายการค้าของโจทก์แทบทั้งหมด มีตัวอักษรส่วนประกอบปลีกย่อยผิดเพี้ยนกันไปบ้างเพียงเล็กน้อย พฤติการณ์ดังนี้ฟังได้ว่าจำเลยเอาแบบรูปรอยประดิษฐ์ในการประกอบการค้าของโจทก์มาใช้เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าสินค้าที่จำเลยจำหน่ายนั้น เป็นสินค้าของโจทก์ที่จำเลยเคยรับมาจำหน่ายจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 272
แม้เจ้าของเครื่องหมายการค้าจะไม่ได้จดทะเบียน แต่ถ้ามีผู้เอาชื่อรูปรอยประดิษฐ์หรือข้อความใด ๆ ในการประกอบการค้าของเขาไปใช้เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าอันแท้จริง เจ้าของเครื่องหมายการค้าเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(9) มีอำนาจฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 153/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรทุกเกินจำนวนและการขับรถประมาท ความรับผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 233 และ 238
1. คดีที่ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุก 4ปี ย่อมฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
2. อย่างไรก็ดี ฎีกาตอนที่ว่าตามข้อเท็จจริงที่ได้ความตามที่โจทก์นำสืบ โจทก์เห็นว่ายานพาหนะของจำเลยมีการบรรทุกจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลในยานพาหนะ อันเข้าเกณฑ์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 233 นั้นเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ส่วนข้อเท็จจริงนั้นโจทก์ฎีกาไม่ได้และ
3. จำเลยจะผิดมาตรา 238 ประมวลกฎหมายอาญานั้น ก็ต่อเมื่อการกระทำผิดของจำเลยตามมาตรา 233 นั้น เป็นเหตุทำให้ผู้โดยสารถึงแก่ความตายหรือได้รับอันตรายสาหัสแต่คดีนี้ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดเสียแล้วว่า การที่รถคว่ำคนโดยสารตายและได้รับอันตรายสาหัส ไม่ใช่เนื่องจากเหตุที่บรรทุกคนโดยสารเกินจำนวน แต่เนื่องจากเหตุที่จำเลยขับรถเร็วอันเป็นการประมาท หรืออีกนัยหนึ่งเท่ากับศาลอุทธรณ์ได้ชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า การที่คนโดยสารตายและได้รับอันตรายสาหัสนั้น หาได้เนื่องจากเหตุที่จำเลยได้กระทำความผิดตามมาตรา 233 นั้นไม่ จึงลงโทษตามมาตรา 238ไม่ได้
(ข้อ 2,3 ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 18/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1351/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำลายเอกสารก่อนถูกสั่งให้ส่งเป็นพยานหลักฐาน ไม่ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
เอกสารอยู่ในกระดาษฟูลสะแก๊ปแผ่นเดียวกัน 1 ซีก ซีกหนึ่งเป็นพินัยกรรม อีกซีกหนึ่งเป็นสัญญาผูกแก้ (สัญญาเช่าอย่างหนึ่ง) จำเลยได้ฉีกกระดาษ 2 ซีกแผ่นนี้ให้ขาดออกจากกันเป็นซีกละแผ่น (ข้อความคงเดิม) และจำเลยฉีกก่อน จำเลยได้รับหมายเรียกจากศาลให้ส่งพินัยกรรมดังกล่าวเป็นพยาน เช่นนี้ จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 142 เพราะ ขณะฉีกเอกสารรายนี้ ยังไม่ใช่เอกสารที่ศาลสั่งให้จำเลยส่งเพื่อเป็นพยานหลักฐาน
อนึ่ง เมื่อจำเลยฉีกให้ขาดโดยไม่ได้ทำให้โจทก์หรือผู้ใดเสียหาย และโจทก์สืบไม่ได้ว่าจำเลยเจตนาทำให้เอกสารไร้ประโยชน์จำเลยก็ไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1304/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความหมายของ 'จำคุกตั้งแต่สามปีขึ้นไป' ในมาตรา 181(1) ประมวลกฎหมายอาญา
ข้อความที่ว่า "ความผิดที่มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีขึ้นไป........." ในมาตรา 181(1) แห่งประมวลกฎหมายอาญานั้น หมายความถึงอัตราขั้นต่ำของความผิดนั้นๆ จะต้องจำคุกสามปีเป็นอย่างน้อยที่สุด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1272/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเกินกว่ากฎหมาย ไม่ถือเป็นการเบียดบังทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอมีหน้าที่รับเรื่องราวจดทะเบียน ทำนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินของราษฎร ได้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการทำนิติกรรมซื้อขายที่ดินจากผู้ขายเกินกว่าจำนวนที่กฎหมายกำหนดและยึดเอาส่วนเกินไว้ เงินส่วนเกินไม่ใช่เป็นเงินของทางราชการหรือของรัฐบาล จึงไม่ใช่ทรัพย์ตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147
ฉะนั้น การที่จำเลยเรียกเก็บค่าธรรมเนียม (แม้จะเกินกว่ากฎหมายกำหนด) ก็ดี การทำนิติกรรมการซื้อขายที่ดินก็ดี จึงไม่ใช่เป็นการกระทำหรือเบียดบังต่อทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1069/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพูดลามกเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 388 แม้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเปลือยร่างกาย
คำว่า "กระทำการถามอย่างอื่น" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 นั้น ไม่ได้หมายเฉพาะแต่เรื่องเกี่ยวกับร่างกายเท่านั้น ย่อมหมายถึงวาจาด้วย
จำเลยกล่าวคำว่า "เย็ดโคตรแม่มึง" ต่อหน้าธารกำนัล จึงเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1069/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพูดลามกเข้าข่ายความผิดประมวลกฎหมายอาญา ม.388 แม้ไม่ได้กระทำต่อร่างกาย
คำว่า"กระทำการลามกอย่างอื่น" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 นั้นไม่ได้หมายเฉพาะแต่เรื่องเกี่ยวกับร่างกายเท่านั้น ย่อมหมายถึงวาจาด้วย
จำเลยกล่าวคำว่า "เย็ดโคตรแม่มึง"ต่อหน้าธารกำนัลจึงเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 972/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำลายเครื่องหมายทะเบียนอาวุธปืน ไม่ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 369 หากไม่ใช่ประกาศหรือเอกสารโฆษณา
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 369 เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการกระทำแก่ประกาศภาพโฆษณาหรือเอกสารของเจ้าพนักงานที่ปิดหรือแสดงไว้อันเป็นทำนองโฆษณาต่อประชาชนให้หลุดฉีกหรือไร้ประโยชน์ หาได้หมายความรวมถึงเอกสารใดๆ ที่มิใช่เป็นลักษณะประกาศหรือโฆษณาด้วยไม่ ฉะนั้น ผู้ที่ทำลายเลขหมายซึ่งเจ้าพนักงานแกะประทับไว้ที่ปืนให้หลุดออก จึงไม่มีความผิดตามมาตรานี้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจริบปืนมีทะเบียน: แม้มีอนุญาตก็ริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371
การที่ผู้ใดพาปืนไปโดยกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 แม้ปืนของกลางจะเป็นปืนมีทะเบียน โดยจำเลยได้รับอนุญาตให้มีไว้ในความครอบครองก็ดี ศาลก็ยังมีอำนาจริบได้ตามมาตรานี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำกัดความ ‘พืชผลของกสิกร’ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 359(4) กรณีต้นไม้ปลูกตามแนวเขต
คำว่าพืชหรือพืชผลของกสิกรซึ่งบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 359(4) นั้น หมายถึงพืชหรือพืชผลที่ปลูกในการกสิกรรมของกสิกรฉะนั้น ต้นนุ่นและต้นมะม่วงหิมพานต์ซึ่งผู้เสียหายผู้เป็นกสิกรด้วยการทำนาปลูกไว้เฉยๆ ตามแนวเขตและจำเลยถอนทำลายเสียนั้นจะฟังว่าเป็นพืชหรือพืชผลในการกสิกรรมของผู้เสียหายตามกฎหมายดังกล่าวยังไม่ได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2505)
of 76