พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,012 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1357/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านการขายทอดตลาดที่ไม่เป็นธรรม ต้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นภายใน 8 วัน หากไม่ทำสิทธิอุทธรณ์ฎีกาจึงไม่รับฟัง
เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดและศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายแล้ว หากจำเลยเห็นว่าการขายทอดตลาดเป็นไปโดยไม่เป็นธรรม เนื่องจากผู้ประมูลมีโจทก์เพียงรายเดียวและทรัพย์ที่ขายมีราคาสูงกว่าราคาที่โจทก์ประมูลได้มาก อันเป็นการอ้างว่าการบังคับคดีได้กระทำโดยไม่ชอบเช่นนี้จำเลยชอบที่จะยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลชั้นต้นก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง แต่ไม่ช้า กว่า 8 วัน นับแต่วันที่ได้ทราบการฝ่าฝืน ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 27 และ 296 เมื่อมิได้ร้องคัดค้านจำเลยจะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1357/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการคัดค้านการขายทอดตลาด: จำเลยต้องยื่นคำคัดค้านตามกฎหมายก่อนการบังคับคดีเสร็จ
เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดและศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายแล้ว เมื่อจำเลยเห็นว่าการขายทอดตลาดดังกล่าวไม่เป็นธรรม เนื่องจากผู้เข้าประมูลมีโจทก์เพียงรายเดียว และทรัพย์ที่ขายมีราคาสูงกว่าราคาที่โจทก์ประมูลได้มาก เท่ากับกล่าวอ้างว่าการบังคับคดีได้กระทำโดยไม่ชอบเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย กรณีต้องบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา27 และมาตรา 296 กล่าวคือจำเลยชอบที่จะยื่นคำร้องขอคัดค้านต่อศาลชั้นต้นก่อนการบังคับคดีเสร็จแต่ไม่ช้ากว่า 8 วันนับแต่วันที่ได้ทราบการฝ่าฝืน เมื่อจำเลยมิได้ร้องคัดค้านตามที่กฎหมายกำหนดไว้จำเลยจะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3139/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์ที่ถูกยึดขายทอดตลาด: ศาลมีอำนาจไต่สวนก่อนสั่ง
ผู้มีกรรมสิทธิ์ร่วมตามส่วนในทรัพย์ที่ถูกยึดมาขายทอดตลาดมีสิทธิร้องขอให้จ่ายเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 การร้องขอไม่มีกำหนดระยะเวลาไว้ ร้องขอภายหลังจากการขายทอดตลาดแล้วได้
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้จ่ายเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินซึ่งผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยให้แก่ผู้ร้องตามส่วน ศาลชั้นต้นสั่งจ่ายเงินให้แก่ผู้ร้องโดยมิได้สอบถามโจทก์ก่อน ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านอ้างว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิร้อง ผู้ร้องไม่มีกรรมสิทธิ์ร่วมและเป็นหนี้ร่วม ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งจ่ายเงินให้แก่ผู้ร้อง การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งโดยมิได้ยกคำร้องของผู้ร้อง แต่ให้ทำการไต่สวนคำร้องต่อไป ถือได้ว่าศาลชั้นต้นรับคำร้องของผู้ร้องไว้พิจารณา และคำร้องของผู้ร้องไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตตามคำร้องโดยไม่ต้องทำการไต่สวนก่อน เมื่อโจทก์คัดค้านคำร้อง ศาลชั้นต้นมีอำนาจทำการไต่สวนก่อนที่จะสั่งคำร้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 21 (4) คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา เมื่อคดีอยู่ระหว่างไต่สวนพิจารณาสั่งคำร้องของผู้ร้อง โจทก์ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ขอให้ยกเลิกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 (1)
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้จ่ายเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินซึ่งผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยให้แก่ผู้ร้องตามส่วน ศาลชั้นต้นสั่งจ่ายเงินให้แก่ผู้ร้องโดยมิได้สอบถามโจทก์ก่อน ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านอ้างว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิร้อง ผู้ร้องไม่มีกรรมสิทธิ์ร่วมและเป็นหนี้ร่วม ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งจ่ายเงินให้แก่ผู้ร้อง การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งโดยมิได้ยกคำร้องของผู้ร้อง แต่ให้ทำการไต่สวนคำร้องต่อไป ถือได้ว่าศาลชั้นต้นรับคำร้องของผู้ร้องไว้พิจารณา และคำร้องของผู้ร้องไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตตามคำร้องโดยไม่ต้องทำการไต่สวนก่อน เมื่อโจทก์คัดค้านคำร้อง ศาลชั้นต้นมีอำนาจทำการไต่สวนก่อนที่จะสั่งคำร้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 21 (4) คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา เมื่อคดีอยู่ระหว่างไต่สวนพิจารณาสั่งคำร้องของผู้ร้อง โจทก์ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ขอให้ยกเลิกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3139/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้มีกรรมสิทธิ์ร่วมในการรับเงินจากการขายทอดตลาด และอำนาจศาลในการไต่สวนคำร้อง
ผู้มีกรรมสิทธิ์ร่วมตามส่วนในทรัพย์ที่ถูกยึดมาขายทอดตลาดมีสิทธิร้องขอให้จ่ายเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา287การร้องขอไม่มีกำหนดระยะเวลาไว้ร้องขอภายหลังจากการขายทอดตลาดแล้วได้ ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้จ่ายเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินซึ่งผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยให้แก่ผู้ร้องตามส่วนศาลชั้นต้นสั่งจ่ายเงินให้แก่ผู้ร้องโดยมิได้สอบถามโจทก์ก่อนต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านอ้างว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องผู้ร้องไม่มีกรรมสิทธิ์ร่วมและเป็นหนี้ร่วมขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งจ่ายเงินให้แก่ผู้ร้องการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งโดยมิได้ยกคำร้องของผู้ร้องแต่ให้ทำการไต่สวนคำร้องต่อไปถือได้ว่าศาลชั้นต้นรับคำร้องของผู้ร้องไว้พิจารณาและคำร้องของผู้ร้องไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตตามคำร้องโดยไม่ต้องทำการไต่สวนก่อนเมื่อโจทก์คัดค้านคำร้องศาลชั้นต้นมีอำนาจทำการไต่สวนก่อนที่จะสั่งคำร้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา21(4)คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาเมื่อคดีอยู่ระหว่างไต่สวนพิจารณาสั่งคำร้องของผู้ร้องโจทก์ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ขอให้ยกเลิกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา226(1).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2962/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาด: กรอบเวลาและวันหยุดราชการ
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยออกขายทอดตลาดมีผู้ให้ราคาสูงสุด เจ้าพนักงานบังคับคดีเสนอต่อศาล ศาลอนุญาตให้ขายได้จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่ อ้างว่าโจทก์กับพวกรู้กันประมูลซื้อทรัพย์โดยไม่สุจริต และเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดทรัพย์ไปในราคาที่ต่ำกว่าราคาปกติ ซึ่งเป็นการอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายแล้ว จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้น ขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง
จำเลยทราบการขายทอดตลาดอันฝ่าฝืนนั้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2527 จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้เป็นวันสุดท้ายในวันที่ 29 มกราคม 2527 แต่วันที่ 29 มกราคม 2527 เป็นวันอาทิตย์หยุดราชการจึงต้องนับวันที่เริ่มทำงานใหม่เข้าด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา161 ดังนั้นวันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องขอได้คือวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2527
จำเลยทราบการขายทอดตลาดอันฝ่าฝืนนั้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2527 จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้เป็นวันสุดท้ายในวันที่ 29 มกราคม 2527 แต่วันที่ 29 มกราคม 2527 เป็นวันอาทิตย์หยุดราชการจึงต้องนับวันที่เริ่มทำงานใหม่เข้าด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา161 ดังนั้นวันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องขอได้คือวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2527
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2962/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดี: การยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดที่เกินกำหนดและวันหยุดราชการ
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยออกขายทอดตลาดมีผู้ให้ราคาสูงสุด เจ้าพนักงานบังคับคดีเสนอต่อศาล ศาลอนุญาตให้ขายได้จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่ อ้างว่าโจทก์กับพวกรู้กันประมูลซื้อทรัพย์โดยไม่สุจริต และเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดทรัพย์ไปในราคาที่ต่ำกว่าราคาปกติ ซึ่งเป็นการอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายแล้ว จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้น ขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา296 วรรคสอง
จำเลยทราบการขายทอดตลาดอันฝ่าฝืนนั้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม2527 จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้เป็นวันสุดท้ายในวันที่ 29 มกราคม 2527 แต่วันที่29 มกราคม 2527 เป็นวันอาทิตย์หยุดราชการจึงต้องนับวันที่เริ่มทำงานใหม่เข้าด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา161 ดังนั้นวันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องขอได้คือวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2527
จำเลยทราบการขายทอดตลาดอันฝ่าฝืนนั้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม2527 จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้เป็นวันสุดท้ายในวันที่ 29 มกราคม 2527 แต่วันที่29 มกราคม 2527 เป็นวันอาทิตย์หยุดราชการจึงต้องนับวันที่เริ่มทำงานใหม่เข้าด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา161 ดังนั้นวันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องขอได้คือวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2527
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2962/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาด: กรอบเวลาและวันหยุดราชการ
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยออกขายทอดตลาดมีผู้ให้ราคาสูงสุดเจ้าพนักงานบังคับคดีเสนอต่อศาลศาลอนุญาตให้ขายได้จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่อ้างว่าโจทก์กับพวกรู้กันประมูลซื้อทรัพย์โดยไม่สุจริตและเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดทรัพย์ไปในราคาที่ต่ำกว่าราคาปกติซึ่งเป็นการอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายแล้วจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้นขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296วรรคสอง จำเลยทราบการขายทอดตลาดอันฝ่าฝืนนั้นเมื่อวันที่21มกราคม2527จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดทรัพย์ได้เป็นวันสุดท้ายในวันที่29มกราคม2527แต่วันที่29มกราคม2527เป็นวันอาทิตย์หยุดราชการจึงต้องนับวันที่เริ่มทำงานใหม่เข้าด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา161ดังนั้นวันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องขอได้คือวันจันทร์ที่30มกราคม2527.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2782/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดบังคับคดี: ศาลอนุญาตขายได้แม้ราคาต่ำกว่าที่จำเลยอ้าง หากเจ้าพนักงานบังคับคดีปฏิบัติตามกฎหมายและสุจริต
เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดทรัพย์สินของจำเลยไว้และได้ประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ครั้งแรกไม่มีผู้เข้าสู้ราคาต้องประกาศขายใหม่ถึง15ครั้งเป็นเวลาเกือบ3ปีไม่มีผู้เข้าสู้ราคาบ้างผู้สู้ราคาสูงสุดให้ราคาต่ำไปบ้างครั้งสุดท้ายผู้สู้ราคาให้ราคาสูงสุดเป็นเงิน340,000บาทซึ่งเป็นราคาสูงกว่าการขายทอดตลาดครั้งก่อนๆและสูงกว่าราคาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินไว้เมื่อศาลเห็นว่าได้ประกาศขายทอดตลาดมาหลายครั้งทั้งเป็นเวลานานแล้วและราคาที่ผู้สู้ราคาสูงสุดก็เป็นราคาพอสมควรศาลอนุญาตให้ขายแก่ผู้สู้ราคาสูงสุดได้ที่จำเลยอ้างว่ามีผู้จะซื้อทรัพย์ที่ขายทอดตลาดในราคา800,000บาทนั้นเป็นแต่เพียงการกล่าวอ้างลอยๆไม่มีเหตุผลสนับสนุนและการขายทอดตลาดได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วโดยไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีกระทำฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และกระทำโดยไม่สุจริตแต่ประการใดจึงไม่มีเหตุผลที่จะยกเลิกการขายทอดตลาดนั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2782/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดบังคับคดี: ศาลอนุญาตขายได้แม้ราคาไม่สูงมากนัก หากมีการประกาศขายหลายครั้งโดยสุจริต
เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดทรัพย์สินของจำเลยไว้และได้ประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ครั้งแรกไม่มีผู้เข้าสู้ราคาต้องประกาศขายใหม่ถึง15ครั้งเป็นเวลาเกือบ3ปีไม่มีผู้เข้าสู้ราคาบ้างผู้สู้ราคาสูงสุดให้ราคาต่ำไปบ้างครั้งสุดท้ายผู้สู้ราคาให้ราคาสูงสุดเป็นเงิน340,000บาทซึ่งเป็นราคาสูงกว่าการขายทอดตลาดครั้งก่อนๆและสูงกว่าราคาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินไว้เมื่อศาลเห็นว่าได้ประกาศขายทอดตลาดมาหลายครั้งทั้งเป็นเวลานานแล้วและราคาที่ผู้สู้ราคาสูงสุดก็เป็นราคาพอสมควรศาลอนุญาตให้ขายแก่ผู้สู้ราคาสูงสุดได้ที่จำเลยอ้างว่ามีผู้จะซื้อทรัพย์ที่ขายทอดตลาดในราคา800,000บาทนั้นเป็นแต่เพียงการกล่าวอ้างลอยๆไม่มีเหตุผลสนับสนุนและการขายทอดตลาดได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วโดยไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีกระทำฝ่าฝืนต่อกฎหมายและกระทำโดยไม่สุจริตแต่ประการใดจึงไม่มีเหตุผลที่จะยกเลิกการขายทอดตลาดนั้น.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2573/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอให้งดการบังคับคดีขายทอดตลาดใหม่เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้อง พิจารณาจากราคาประเมินและราคาขายจริง
เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึด จำเลยยื่น คำร้องขอให้ขายทอดตลาดใหม่ ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องจำเลยอุทธรณ์คำสั่งและยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้สั่งให้ งดดำเนินการเกี่ยวกับการขายทอดตลาดไว้ก่อน ดังนี้ เป็นเรื่องขอให้คุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 ไม่ใช่เรื่องขอทุเลาการบังคับตามมาตรา 231 เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำร้อง เป็นคำสั่งอันเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างพิจารณา จำเลยย่อมมีสิทธิฎีกาได้ตามมาตรา 228(2),247