คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ครอบครองปรปักษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,380 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3232-3233/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ การขอแก้ไขชื่อในโฉนดเป็นอำนาจหน้าที่ของจำเลย
จำเลยได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์จะขอให้เจ้าพนักงานที่ดินจัดการเพิกถอนชื่อโจทก์แล้วใส่ชื่อจำเลยหาได้ไม่ เพราะโจทก์ไม่มีหน้าที่อย่างใดในทางนิติกรรมที่จะต้องโอนที่พิพาทให้แก่จำเลย เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องดำเนินการให้มีชื่อของตนในโฉนดต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3133/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ แม้การนำสืบที่มาของที่ดินจะแตกต่างจากคำร้องเดิม
ผู้ร้องกล่าวในคำร้องว่า ผู้ร้องซื้อที่ดินพิพาทจาก ช. แต่นำสืบว่า จ. มารดาผู้ร้องซื้อที่ดินพิพาทจาก ช. แล้ว ผู้ร้องซื้อที่ดินพิพาทต่อจาก จ. อีกทีหนึ่ง เป็นการนำสืบถึงที่มาของที่ดินพิพาทและการได้ที่ดินพิพาทมา ไม่ถือว่าทางนำสืบต่างกับคำร้องถึงขนาดเป็นเหตุให้รับฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3133/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ แม้รายละเอียดการซื้อขายไม่ตรงกับที่กล่าวอ้างในคำร้อง
ผู้ร้องกล่าวในคำร้องว่า ผู้ร้องซื้อที่ดินพิพาทจาก ช.แต่นำสืบว่า จ. มารดาผู้ร้องซื้อที่ดินพิพาทจาก ช. แล้วผู้ร้องซื้อที่ดินพิพาทต่อจาก จ. อีกทีหนึ่ง เป็นการนำสืบถึงที่มาของที่ดินพิพาทและการได้ที่ดินพิพาทมา ไม่ถือว่าทางนำสืบต่างกับคำร้องถึงขนาดเป็นเหตุให้รับฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3133/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ แม้รายละเอียดการซื้อขายจะแตกต่างจากที่กล่าวอ้าง
ผู้ร้องกล่าวในคำร้องว่า ผู้ร้องซื้อที่ดินพิพาทจาก ช. แต่นำสืบว่า จ. มารดาผู้ร้องซื้อที่ดินพิพาทจาก ช. แล้ว ผู้ร้องซื้อที่ดินพิพาทต่อจาก จ. อีกทีหนึ่ง เป็นการนำสืบถึงที่มาของที่ดินพิพาทและการได้ที่ดินพิพาทมา ไม่ถือว่าทางนำสืบต่างกับคำร้องถึงขนาดเป็นเหตุให้รับฟังไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2869/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ vs. สิทธิของบุคคลภายนอกผู้ได้มาโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน
แม้ผู้ร้องได้ครอบครองปรปักษ์ในที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์แล้ว แต่เมื่อผู้ร้องไม่ได้จดทะเบียนสิทธิของตนไว้ ทั้งไม่ได้กล่าวอ้างว่าโจทก์รับจำนองที่พิพาทไว้โดยไม่สุจริตเพื่อตั้งประเด็นไว้ในคำร้อง จึงฟังได้ว่าโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเป็นผู้ได้มาซึ่งสิทธิจำนองที่พิพาทโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธินั้นแล้วโดยสุจริต โจทก์ย่อมได้รับความคุ้มครองในสิทธิแห่งตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1299 วรรคสอง ผู้ร้องไม่มีสิทธิที่จะขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2561/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความครอบครองปรปักษ์: การครอบครองต่อเนื่องและการโต้แย้งสิทธิเดิม ทำให้สิทธิครอบครองเดิมขาดอายุความ
โจทก์ได้นำเจ้าพนักงานรังวัดที่ดินพิพาทเพื่อออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แม้จำเลยได้ลงชื่อรับรองแนวเขตที่ดินในฐานะเจ้าของที่ดินข้างเคียงซึ่งเป็นการยอมรับสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทของโจทก์แล้วก็ตาม แต่อีกสองเดือนถัดมาจำเลยก็ได้คัดค้าการที่ทางราชการจะออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ อันเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ในที่ดินพิพาท และจำเลยได้เข้าครอบครองทำกินในที่ดินพิพาทตลอดมาเช่นนี้ เมื่อโจทก์ไม่ได้ฟ้องเรียกที่ดินพิพาทคืนภายใน 1 ปีย่อมหมดสิทธิฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2561/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความครอบครองปรปักษ์: การครอบครองต่อเนื่องและการโต้แย้งสิทธิเดิมทำให้เกิดอายุความ
โจทก์ได้นำเจ้าพนักงานรังวัดที่ดินพิพาทเพื่อออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แม้จำเลยได้ลงชื่อรับรองแนวเขตที่ดินในฐานะเจ้าของที่ดินข้างเคียงซึ่งเป็นการยอมรับสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทของโจทก์แล้วก็ตาม แต่อีกสองเดือนถัดมาจำเลยก็ได้คัดค้าการที่ทางราชการจะออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ อันเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ในที่ดินพิพาท และจำเลยได้เข้าครอบครองทำกินในที่ดินพิพาทตลอดมาเช่นนี้ เมื่อโจทก์ไม่ได้ฟ้องเรียกที่ดินพิพาทคืนภายใน 1 ปีย่อมหมดสิทธิฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 24/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์: อำนาจฟ้องคดีมีข้อพิพาท vs. คดีไม่มีข้อพิพาท และการโต้แย้งสิทธิ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันนัดชี้สองสถานว่า คดีพอวินิจฉัยได้แล้ว ให้งดการชี้สองสถาน แล้ววินิจฉัยว่า การได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382 ผู้ได้กรรมสิทธิ์ต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งแสดงกรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 78 โจทก์จึงต้องยื่นคำร้องขออย่างคดีไม่มีข้อพิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 188(1) โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยเช่นนี้เป็นการวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 24 ซึ่งทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่อง แม้โจทก์ไม่ได้โต้แย้งไว้ก็มีสิทธิยกขึ้นอุทธรณืได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24,227
โจทก์ฟ้องอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ ซึ่งได้มาโดยการครอบครองปรปักษ์ จำเลยได้ให้คนงานของจำเลยมารื้อรั้วสังกะสีซึ่งล้อมที่ดินพิพาทออกทั้งสี่ด้านและทำลายลานคอนกรีตในที่พิพาทของโจทก์บางส่วนเสียหาย ดังนี้แม้ขณะโจทก์ฟ้องศาลยังมิได้มีคำสั่งว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาท ก็ถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 แล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2422/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ และสิทธิของบุคคลภายนอกที่ได้มาโดยสุจริต
โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ก่อนที่ ก. จะขายที่ดินพิพาทให้แก่จำเลย แต่เมื่อโจทก์ได้ที่ดินพิพาทมาโดย ทางอื่นนอกจากนิติกรรม และยังมิได้จดทะเบียนการได้ มาต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่ โจทก์จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้ สิทธิมาโดย เสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วไม่ได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1299 วรรคสอง
ก่อนซื้อ ที่ดินพิพาท จำเลยไปดู ที่ดินพบบิดาโจทก์อยู่ในที่ดินพิพาท บิดาโจทก์บอกจำเลยว่าเช่า ที่ดินพิพาทจาก ก. หากจำเลยซื้อ ที่ดินพิพาทจะขอเช่า อยู่ต่อไป พฤติการณ์ดังกล่าวยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยรู้แล้ว ในขณะซื้อ ที่ดินพิพาทว่าโจทก์ครอบครองปรปักษ์ที่ดินพิพาทอยู่และรับโอนที่ดินโดย ไม่สุจริต โจทก์จึงยกการได้ที่ดินพิพาทมาโดย การครอบครองปรปักษ์ขึ้นต่อสู้ จำเลย ซึ่ง เป็นบุคคลภายนอกผู้ได้ สิทธิมาโดยสุจริต เสียค่าตอบแทน และจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วไม่ได้ โจทก์ครอบครองที่ดินพิพาทซึ่ง เป็นของจำเลยยังไม่ถึงสิบปี จึงยังไม่ได้กรรมสิทธิ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2422/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการคุ้มครองบุคคลภายนอกผู้สุจริต ผู้ซื้อที่ดินจากผู้อื่นโดยไม่ทราบว่ามีการครอบครองปรปักษ์
โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ก่อนที่ ก. จะขายที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยแต่เมื่อโจทก์ได้ที่ดินพิพาทมาโดยทางอื่นนอกจากนิติกรรมและยังมิได้จดทะเบียนการได้มาต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โจทก์จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วไม่ได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1299 วรรคสอง.
ก่อนซื้อที่ดินพิพาท จำเลยไปดูที่ดินพบบิดาโจทก์อยู่ในที่ดินพิพาท บิดาโจทก์บอกจำเลยว่าเช่าที่ดินพิพาทจาก ก. หากจำเลยซื้อที่ดินพิพาทจะขอเช่าอยู่ต่อไปพฤติการณ์ดังกล่าวยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยรู้แล้วในขณะซื้อที่ดินพิพาทว่าโจทก์ครอบครองปรปักษ์ที่ดินพิพาทอยู่และรับโอนที่ดินโดยไม่สุจริต โจทก์จึงยกการได้ที่ดินพิพาทมาโดยการครอบครองปรปักษ์ขึ้นต่อสู้จำเลย ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยสุจริต เสียค่าตอบแทน และจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วไม่ได้ เมื่อโจทก์ครอบครองที่ดินพิพาทซึ่งเป็นของจำเลยยังไม่ถึงสิบปี จึงยังไม่ได้กรรมสิทธิ์.
of 138