พบผลลัพธ์ทั้งหมด 790 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1402/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจงใจละทิ้งร้างต้องพิจารณาพฤติการณ์โดยรวม แม้แยกบ้านแต่ยังมีความสัมพันธ์และอุปการะบุตรย่อมไม่ถือเป็นการละทิ้ง
ถึงแม้สามีจะได้แยกไปอยู่กับภริยาใหม่แล้วก็ดี แต่ก็ยังไปมาที่บ้านภริยาเดิม ไปร่วมรับประทานอาหารกับบุตรเกือบทุกวันและทั้งยังเป็นผู้อุปการะบุตรอยู่ด้วย ภริยาเดิมสั่งคนเฝ้าบ้านไม่ให้ใครเข้าห้องนอกจากตนเองกับลูกๆ แม้กระนั้นสามีก็ยังอุตส่าห์ไปมาที่บ้านภริยาเดิมอยู่แทบทุกวัน.สามีไปบ้านภริยาเดิมทีไร ก็ตั้งข้อสังเกตสอบถามคนในบ้านว่ามีใครไปมาหาโจทก์ เป็นการแสดงกิริยาหวงแหนสนใจในความเป็นอยู่ของโจทก์ พฤติการณ์ดังกล่าวนี้ จะถือว่าสามีจงใจละทิ้งภริยาเดิมเพื่ออ้างมาเป็นเหตุฟ้องหย่าหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1304/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดโทษมาตรฐานโดยไม่คำนึงถึงพฤติการณ์อาจไม่เป็นธรรม ศาลสูงกว่ามีอำนาจพิจารณาโทษใหม่ได้
การกำหนดอัตราโทษเป็นมาตรฐาน โดยไม่คำนึงถึงพฤติการณ์ประกอบการกระทำผิดตามหลักวิชาธรรมศาสตร์ อาจก่อให้เกิดความอยุติธรรมได้ง่าย เมื่อศาลที่สูงกว่าไม่เห็นด้วยในดุลพินิจเช่นนั้น ศาลชั้นต้นชอบที่จะรับเป็นข้อควรคำนึงในการอำนวยความยุติธรรมต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1280/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคัดค้านการเลือกตั้งที่ไม่เคลือบคลุม: การแสดงพฤติการณ์ที่เป็นเหตุแห่งข้อหาชัดเจนเพียงพอ
ในคดีที่โจทก์ร้องว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบ เมื่อโจทก์ได้กล่าวในคำร้องถึงพฤติการณ์ต่างๆ เพื่อให้เห็นว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบ ถือได้ว่าโจทก์ได้แสดงแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น ตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง บังคับไว้แล้ว เพราะมีประเด็นที่ศาลจะต้องพิจารณาว่า การเลือกตั้งรายนี้เป็นไปโดยมิชอบหรือไม่ หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1275/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาจากฤทธิ์สุรา: พิจารณาพฤติการณ์และเจตนาของผู้กระทำ
ใช้มีดพกปลายแหลมยาวทั้งด้ามทั้งตัวประมาณ 1 คืบ แทงทะลุเข้าช่องปอด โดยเมาสุราพบกันก็แทงเอา 1 ทีแล้วหนีไป เป็นการฆ่าโดยไม่เจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบคิดฆ่าผู้อื่น: พฤติการณ์ร่วมกระทำความผิดเป็นหลักฐานสำคัญ
จำเลยทั้งสองเดินเข้ามาหานายบุญช่วย (ผู้ตาย) ด้วยกันโดยจำเลยที่ 2 มีสาเหตุเป็นอริอยู่กับนายบุญช่วย และจำเลยที่ 1 ก็ถือมีดปลายแหลมมาด้วย เมื่อจำเลยที่ 2 เข้าเตะนายบุญช่วย ๆ กระโดดหนี จำเลยที่ 1 ถือมีดตามนายบุญช่วยติดไป จำเลยที่ 2ก็ตามไปด้วยจนจำเลยที่ 1 แทงนายบุญช่วยล้มลงขาดใจตายทันที แล้วจำเลยทั้งสองหนีไปด้วยกัน พฤติการณ์ของจำเลยที่ 2 ดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นการสมคบกับจำเลยที่ 1 ฆ่านายบุญช่วยตาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบคิดร่วมกันทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่า โดยมีพฤติการณ์สนับสนุนการกระทำผิด
จำเลยทั้งสามกับพวกได้เข้าไปในส่วนผู้มีชื่อพร้อมกัน ขณะนั้นเป็นเวลาดึกมากไม่ใช่เวลาที่จำเลยกับพวกจะไปปรากฏตัวอยู่,ได้ก่อเหตุระรานผู้เสียหายกล่าวคือพวกของจำเลยคนหนึ่งตีผู้เสียหายอีกคนหนึ่ง ยิงผู้เสียหาย-อีกคนหนึ่งต่อหน้าต่อตาจำเลยทั้งสาม แต่จำเลยทั้งสามไม่มีใครห้ามปรามเลย กลับยังอยู่เป็นกำลังใจให้พรรคพวก แล้วพวกของตนก็ยิงกระหน่ำเข้าไปในใต้ถุนเรือนซึ่งมีผู้เสียหายซ่อนอยู่อีก 6 นัด เมื่อชาวบ้านมาร้องขอ จำเลยทั้งสามกับพวกจึงพากันออกจากบ้านผู้มีชื่อไปพร้อมกันพฤติการณ์เช่นนี้แสดงชัดว่าจำเลยทั้งสามได้สมคบกันกับพวกของจำเลยไปกระทำความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบกันพยายามฆ่าและก่อเหตุรุนแรง: พฤติการณ์สนับสนุนการสมคบเพื่อกระทำผิด
จำเลยทั้งสามกับพวกได้เข้าไปในบ้านผู้มีชื่อพร้อมกันขณะนั้นเป็นเวลาดึกมากไม่ใช่เวลาที่จำเลยกับพวกจะไปปรากฏตัวอยู่ได้ก่อเหตุระรานผู้เสียหายกล่าวคือพวกของจำเลยคนหนึ่งตีผู้เสียหายอีกคนหนึ่งยิงผู้เสียหายอีกคนหนึ่งต่อหน้าต่อตาจำเลยทั้งสามแต่จำเลยทั้งสามไม่มีใครห้ามปรามเลย กลับยังอยู่เป็นกำลังใจให้พรรคพวก แล้วพวกของตนก็ยิงกระหน่ำเข้าไปในใต้ถุนเรือนซึ่งมีผู้เสียหายซ่อนอยู่อีก 6 นัดเมื่อชาวบ้านมาร้องขอจำเลยทั้งสามกับพวกจึงพากันออกจากบ้านผู้มีชื่อไปพร้อมกันพฤติการณ์เช่นนี้แสดงชัดว่าจำเลยทั้งสามได้สมคบกันกับพวกของจำเลยไปกระทำความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 787/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายยาแบบมีเครดิต: พฤติการณ์บ่งชี้การซื้อเชื่อ ไม่ใช่การรับฝากขาย
ในเอกสาร 2 ฉบับเป็นใบรับยามีราคาแจ้งเป็นรายการไปจำเลยลงชื่อรับของไว้ในเอกสารดังกล่าวราคาที่แจ้งนั้นต่ำกว่าราคาตลาดมากทั้งในเอกสารมีบันทึกของจำเลยว่าโนวาซาน(ชื่อยา) ของที่ส่งมาถ้าครบวันที่สิ้นอายุแล้วไม่หมดทางห้างต้องรับคืน
ดังนี้ฟังได้ว่าจำเลยซื้อเชื่อของจากโจทก์ มิใช่รับฝากยาจากโจทก์เอาไว้ขาย
ดังนี้ฟังได้ว่าจำเลยซื้อเชื่อของจากโจทก์ มิใช่รับฝากยาจากโจทก์เอาไว้ขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 556/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุกรุกเคหสถานและการลักทรัพย์: ศาลฎีกาพิจารณาจากพฤติการณ์และเจตนาของผู้กระทำผิด
เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจเข้าไปในเคหะสถานที่อยู่อาศัยของนางสินโดยเจ้าของมิได้อนุญาตให้เข้าไปแล้วลักเอาสร้อยคอ 1 เส้นราคา 600 บาท ของนางสินไปโดยใช้กริยาฉกฉวยพาหนีไปต่หน้า ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม.294,297,60
ดังนี้แม้ข้อเท็จจริงฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยยืนเมาสุราแล้วถือวิสาสะเข้าไปลวนลามเจ้าทรัพย์จำเลยไม่มีเถยยะจิตต์คิดจะเอาทรัพย์แต่อย่างใด แต่จำเลยรับว่าได้เข้าไปในเคหะของเจ้าทรัพย์จริงและไม่ได้ฟังว่าเจ้าทรัพย์เรียกจำเลยเข้าไปคุยด้วย ก็ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตาม ม.329(2) ได้.
ดังนี้แม้ข้อเท็จจริงฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยยืนเมาสุราแล้วถือวิสาสะเข้าไปลวนลามเจ้าทรัพย์จำเลยไม่มีเถยยะจิตต์คิดจะเอาทรัพย์แต่อย่างใด แต่จำเลยรับว่าได้เข้าไปในเคหะของเจ้าทรัพย์จริงและไม่ได้ฟังว่าเจ้าทรัพย์เรียกจำเลยเข้าไปคุยด้วย ก็ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตาม ม.329(2) ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 224/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการกระทำความผิดฐานฆ่าคนตาย: พฤติการณ์และหลักฐานที่ไม่ชัดเจนบ่งชี้ถึงความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
จำเลยเป็นผู้แทงผู้ตาย แต่จับอาวุธที่จำเลยใช้แทงไม่ได้พยานโจทก์ก็ไม่สามารถแลเห็นได้ว่าที่ปลายไม้ที่จำเลยใช้แทงผู้ตายนั้นเป็นอะไร คงเห็นแต่ไม้ยาวสามศอกเศษจำเลยแทงทีเดียวแล้ววิ่งหนีพยานโจทก์ส่องไปมาทางจำเลยๆ ก็แทงไปดังนี้แสงไฟที่ส่องมาที่จำเลยนั้นไม่ทำให้จำเลยเห็นตัวผู้ตายถนัดเพื่อเลือกแทงที่สำคัญๆเพราะผู้ตายห่างจำเลยไปเกือบวา ลักษณะการแทงของจำเลยดังนี้เป็นแต่ขอให้ถูกผู้ตายเท่านั้น ไม่ได้มุ่งหมายแห่งใดแห่งหนึ่งจึงเห็นได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้ตายจำเลยจึงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม มาตรา251