คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ภาษี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 691 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 29/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเสียภาษีของบริษัทเมื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่เสียภาษีในนามบุคคลธรรมดา สิทธิในการหักค่าใช้จ่ายของบริษัท
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีผู้ถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนอยู่เกินกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดตามประมวลรัษฎากรมาตรา 75 ที่บัญญัติว่าให้เสียภาษีในส่วน 2 ว่าด้วยการเก็บภาษีจากบุคคลธรรมดานั้น หมายความว่าบุคคลธรรมดาผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น ๆ จะต้องไปเสียภาษีในส่วน 2 หาได้หมายความว่าให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น ๆ ไปเสียภาษีตามส่วน 2 ไม่ จึงไม่มีอะไรที่จะหักค่าใช้จ่ายให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 47 (1) (ก) ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายของบุคคลธรรมดา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ให้เช่าทรัพย์สินมีหน้าที่เสียภาษีจากค่าเช่า แม้จะโอนค่าเช่าให้ผู้อื่น
ตามบทบัญญัติประมวลรัษฎากร ผู้ใดให้เช่าทรัพย์สินอันเป็นเหตุให้ได้ค่าเช่ามา ผู้นั้นจึงเป็นผู้ต้องเสียภาษีเงินได้ ฉะนั้น เมื่อโจทก์เป็นเจ้าของและผู้ให้เช่าเครื่องเรือน ค่าเช่าที่ได้มาย่อมเป็นเงินได้ การที่โจทก์จำหน่ายเงินได้นี้โดยยกให้บุคคลอื่นหรือใช้จ่ายในเหตุอื่นก็ตาม โจทก์ก็หาพ้นจากหน้าที่ที่จะต้องเสียภาษีเงินได้ในเงินค่าเช่าเครื่องเรือนนั้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขนส่งที่บริษัทจ่ายให้ตัวแทนมิใช่รายได้จากการเป็นนายหน้าและตัวแทน จึงไม่ต้องเสียภาษี
บริษัทจำหน่ายน้ำหวานซึ่งมีหน้าที่ต้องขนส่งน้ำหวานไปให้ตัวแทนของบริษัทในการจำหน่ายน้ำหวานนั้น ได้จ่ายเงินค่าขนส่งให้แก่ตัวแทนเป็นผู้ขนส่งเสียเอง เงินค่าขนส่งนี้มิใช่เป็นรายรับของตัวแทนตามประมวลรัษฎากร มาตรา 78 ที่ตัวแทนจะต้องเสียภาษีการค้าประเภทนายหน้าและตัวแทน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขอให้ชี้ขาดความเห็นทางภาษี ยังไม่เกิดสิทธิหน้าที่โต้แย้งตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้สั่งสินค้าเครื่องอัดสำเนา"เทอร์โมแฟกส์" จากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ย โดยโจทก์เห็ว่ามีใช่เครื่องถ่ายภาพหรือเอกสารอันต้องเสียภาษีการซื้อโภคภัรฑ์ตามกฎหมาย โจทก์ได้มีหนังสือสอบถามไปยังกรมสรรพากรจำเลย ฯ ได้แจ้งมายังโจทก์ว่าเครื่องอัดสำเนาดังกล่าวเป็นโภคภัณฑ์ประเภทที่ 5(ข) ซึ่งต้องเสียภาษีโภคภัณฑ์ตามประมวลรัษฎากร โจทก์ได้มีหนังสือทักท้วงจำเลยไปหลายครั้ง จำเลยก็คงยืนยันความเห็นเดิม จึงขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าเครื่องอัดสำเนาดังกล่าวไม่ใช่โภคภัณฑ์อันจะต้องเสียภาษีการซื้อโภคภัณฑ์ตามประมวลรัษฎากร ฟ้องเช่นนี้ถือไม่ได้ว่ามีมูลโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 เพราะจำเลยยังมิได้เรียกเก็บหรือสั่งให้โจทก์เสียภาษี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคัดค้านการจัดประเภทสินค้าเพื่อเสียภาษี โดยยังไม่มีการเรียกเก็บภาษี
โจทก์ฟ้องอ้างว่า โจทก์ได้สั่งสินค้าเครื่องอัดสำเนา'เทอร์โมแฟกส์' จากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายโดยโจทก์เห็นว่ามิใช่เครื่องถ่ายภาพหรือเอกสารอันต้องเสียภาษีการซื้อโภคภัณฑ์ตามกฎหมาย โจทก์ได้มีหนังสือสอบถามไปยังกรมสรรพากร จำเลยๆ ได้แจ้งมายังโจทก์ว่าเครื่องอัดสำเนาดังกล่าวเป็นโภคภัณฑ์ประเภทที่ 5(ข) ซึ่งต้องเสียภาษีโภคภัณฑ์ตามประมวลรัษฎากร โจทก์ได้มีหนังสือทักท้วงจำเลยไปหลายครั้ง จำเลยก็คงยืนยันความเห็นเดิมโจทก์จึงฟ้องจำเลยขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าเครื่องอัดสำเนาดังกล่าวไม่ใช่โภคภัณฑ์อันจะต้องเสียภาษีการซื้อโภคภัณฑ์ตามประมวลรัษฎากรดังนี้ ถือว่า ฟ้องเช่นนี้ไม่ได้ว่ามีมูลโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 เพราะจำเลยยังมิได้เรียกเก็บหรือสั่งให้โจทก์เสียภาษี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1085/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำแนกความผิดทางภาษี: ลงบัญชีไม่ครบถ้วน (มาตรา 190) กับไม่ทำบัญชีเลย (มาตรา 197) และอำนาจฟ้อง
เจ้าหน้าที่สรรพากรได้มีคำสั่งบังคับให้โจทก์เสียภาษีโภคภัณฑ์และเงินเพิ่มจนถึงกับจะยึดทรัพย์ของโจทก์เพื่อเอาชำระค่าภาษีนั้น นับว่ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของโจทก์แล้ว โจทก์มีอำนาจฟ้องศาลได้
ประมวลรัษฎากรมาตรา 190 เป็นบทความผิดสำหรับผู้ค้าโภคภัณฑ์ที่มีโภคภัณฑ์หรือเกินบัญชี ภ.ภ. 11 คือ ลงบัญชีไว้ไม่ครบถ้วน ส่วนมาตรา 197 เป็นบทความผิดผู้ที่ไม่ทำบัญชี ภ.ภ. 11 หรือทำแล้วไม่เก็บบัญชีไว้ 5 ปี ซึ่งมีโทษทั้งปรับทั้งจำ เป็นการแยกความผิดฐานลงบัญชีไม่ครบถ้วน กับการไม่ทำบัญชีเสียเลยให้มีโทษหนักเบาต่างกัน
โจทก์ได้สั่งโภคภัณฑ์เข้ามาเป็นคราว ๆ และได้ลงบัญชี ภ.ภ. 11 แล้ว แต่คราวสุดท้ายไม่ลงบัญชีเลยดังนี้ ไม่ใช่เรื่องลงบัญชีไม่ครบอันเป็นเหตุให้มีโภคภัณฑ์ขาดหรือเกินจากบัญชีตามประมวลรัษฎากรมาตรา 190 ต้องถือว่าไม่ได้ทำบัญชีตามมาตรา 197 เจ้าพนักงานจึงเรียกเก็บภาษีและเงินเพิ่มจากโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 957/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีนำเข้าของต้องห้ามและหลีกเลี่ยงภาษี โดยไม่จำต้องระบุเจตนา
ฟ้องว่านำของต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร และหลบหนีภาษีศุลกากรนั้น แม้ในฟ้องจะมิได้บรรยายว่า จำเลยมีเจตนาหลีกเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากรก็ตาม ถ้าตามฟ้องเป็นที่เข้าใจได้ในตัวเช่นนั้นแล้ว ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหน่วยงานราชการและข้อยกเว้นภาษีจากการจ้างทำทองรูปพรรณ โดยมิใช่การซื้อขาย
ตำแหน่งสรรพากรจังหวัดมีหน้าที่ตรวจเก็บภาษี ถือเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งมีกฎกระทรวงกำหนดไว้ โจทก์ไม่ปรารถนาจะฟ้องให้รับผิดเป็นส่วนตัว จึงระบุฟ้องสรรพากรจังหวัดฯ ได้ เป็นการฟ้องบุคคลทีมีตัวอยู่แน่นอนเพียงคนเดียวในจังหวัดนั้นอันมีตำแหน่งหน้าที่การงาน
การนำทองมาจ้างให้ทำทองรูปพรรณแล้วเจ้าของมารับคืนไป ไม่ใช่การซื้อ เงินค่าจ้างค่าแรงให้ทำทองเงินรูปพรรณไปใช่เงินค่าซื้อโภคภัณฑ์ ผู้รับจ้างไม่ต้องเสียภาษีโภคภัณฑ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีเงินได้ ภาษีการค้า และภาษีเทศบาลของตัวแทนบริษัทต่างประเทศที่ประกอบกิจการในไทย
ภาษีเงินได้นั้น ประมวลรัษฎากรมิได้บัญญัติมุ่งถึงการรับตัวเงินในที่ใดเลย หากให้พิเคราะห์ถึงผลที่ว่าบริษัทในต่างประเทศนั้นได้รับเงินหรือผลกำไรในประเทศไทยหรือไม่ คำว่าเงินได้หรือผลกำไรนั้น มิใช่ตัวเงินสด บริษัทในต่างประเทศจะได้รับในทางเครดิตหรือทางอื่นใดก็ตาม ถ้าเป็นเงินได้หรือผลกำไรในประเทศไทยแล้วก็ย่อมอยู่ในบังคับของบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากรแล้ว
ข้อความในประมวลรัษฎากรที่ว่าในประเทศไทย นั้น หมายถึงกิจการที่ประกอบอันเป็นเหตุให้ได้รับเงินได้หรือผลกำไรนั้นได้กระทำในประเทศไทย หาใช่เงินได้หรือผลกำไรที่บริษัทต่างประเทศได้รับในประเทศไทยไม่
ภาษีการค้านั้น เมื่อบริษัทที่อยู่ต่างประเทศได้ประกอบหรือดำเนินการค้าในประเทศไทย โจทก์ซึ่งเป็นผู้กระทำการแทนจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ประกอบการค้าตามความหมายของประมวลรัษฎากรด้วย ฉะนั้น ผู้ประกอบการค้ามีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้าอย่างไร โจทก์ก็ต้องมีหน้าที่เสียอย่างนั้น
ภาษีเทศบาลนั้น เมื่อโจทก์มีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากรแล้ว โจทก์ก็มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเทศบาลด้วย
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตภาษีเงินได้ ภาษีการค้า และภาษีเทศบาลสำหรับบริษัทต่างประเทศในไทย
ภาษีเงินได้นั้นประมวลรัษฎากรมิได้บัญญัติมุ่งถึงการรับตัวเงินในที่ใดเลย หากเป็นกรณีบริษัทในต่างประเทศ ก็ให้พิเคราะห์ถึงผลว่าบริษัทในต่างประเทศนั้นได้รับเงิน หรือผลกำไรในประเทศไทยหรือไม่ คำว่า เงินได้หรือผลกำไรนั้น มิใช่ตัวเงินสด บริษัทในต่างประเทศจะได้รับในทางเครดิตหรือทางอื่นใดก็ตาม ถ้าเป็นเงินได้หรือผลกำไรในประเทศไทยแล้วก็ย่อมอยู่ในบังคับของบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร
ภาษีการค้านั้น เมื่อบริษัทที่อยู่ต่างประเทศได้ประกอบหรือดำเนินการค้าในประเทศไทย ผู้กระทำการแทนจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ประกอบการค้าตามความหมายของประมวลรัษฎากรด้วย ฉะนั้นผู้ประกอบการค้ามีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้าอย่างไรผู้กระทำการแทนบริษัทที่อยู่ต่างประเทศก็ต้องมีหน้าที่เสียอย่างนั้น
ภาษีเทศบาลนั้น เมื่อโจทก์มีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากรแล้ว โจทก์ก็มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเทศบาลด้วย
of 70