คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัญญาประนีประนอมยอมความ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 674 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1230/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพันตามกฎหมาย หากข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่ตกลง
ก่อนฟ้องโจทก์จำเลยได้ทำหนังสือตกลงประนีประนอมกันต่อหน้าอำเภอว่า จำเลยยอมให้เงินโจทก์ 1,000 บาท แล้วขอรับเอาที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย ฝ่ายโจทก์ยอมเอาเงิน 1,000บาท และยอมให้ที่ดินพิพาทแก่จำเลยเป็นกรรมสิทธิ์
การตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเช่นนี้จึงต้องบังคับด้วยกฎหมายลักษณะสัญญาประนีประนอมยอมความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความและขอบเขตการบังคับคดี: ศาลอนุญาตบังคับคดีหนี้จากทรัพย์สินอื่นได้หากสัญญาไม่จำกัดเฉพาะทรัพย์จำนอง
เดิมโจทก์ฟ้องบังคับจำนอง ที่สุดโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยยอมชำระให้โจทก์ภายใน 6 เดือน ศาลจึงพิพากษาบังคับให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว จำเลยผิดสัญญาตามยอม โจทก์นำยึดทรัพย์จำเลยได้ไม่พอชำระหนี้ ดังนี้เมื่อในสัญญาประนีประนอมยอมความมิได้กล่าวว่าจะบังคับเอาชำระหนี้ได้แต่เฉพาะทรัพย์สินที่จำนองกันไว้แล้วโจทก์ก็ชอบที่จะบังคับเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาจากทรัพย์ใดๆ ของจำเลยได้
อนึ่งเมื่อจำเลยปล่อยให้มีการบังคับคดีไปตามคำพิพากษาส่วนหนึ่งแล้วจะยกเอาเหตุว่าจำเลยถูกหลอกลวงให้ทำสัญญาประนีประนอมขึ้นในชั้นฎีกาไม่ได้ เหตุดังกล่าวจำเลยชอบที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาตามยอมนั้นเสียในชั้นอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1026/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีและการบังคับคดีโดยไม่ชัดเจนถึงฐานะจำเลยและทรัพย์สินที่พิพาท ทำให้สัญญาประนีประนอมยอมความไม่ผูกพัน
คำฟ้องบรรยายว่าขอยื่นฟ้องนายคลี่มารดาผู้แทนโดยชอบธรรม ด.ญ.ยุพิน กับพวก จำเลยนั้นเมื่อไม่แสดงให้ชัดแจ้งว่า ฟ้องในฐานะอย่างอื่น ก็ต้องว่าฟ้องนาคลี่เป็นส่วนตัว ที่กล่าวว่าเป็นมารดาผู้แทนโดยชอบธรรมก็เพียงระบุว่านางคลี่คนไหนเท่านั้น
การแปลคำฟ้องที่จะให้เป็นผลร้ายแก่ผู้เยาว์ โดยโจทก์ไม่แสดงให้แน่ชัดหาได้ไม่
สัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์และจำเลย ผู้มารดาในฐานะส่วนตัวทำกันไว้หาผูกพันทรัพย์สินของเด็กไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1026/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีและสัญญาประนีประนอมยอมความที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของผู้เยาว์ จำเลยต้องได้รับความยินยอม
คำฟ้องบรรยายว่าขอยื่นฟ้องนางคลี่มารดาผู้แทนโดยชอบธรรมด.ญ.ยุพิน กับพวก จำเลยนั้น เมื่อไม่แสดงให้ชัดแจ้งว่าฟ้องในฐานะอย่างอื่น ก็ต้องว่าฟ้องนางคลี่เป็นส่วนตัว ที่กล่าวว่าเป็นมารดาผู้แทนโดยชอบธรรมก็เพียงระบุว่านางคลี่คนไหนเท่านั้น
การแปลคำฟ้องที่จะให้เป็นผลร้ายแก่ผู้เยาว์ โดยโจทก์ไม่แสดงให้แน่ชัดหาได้ไม่
สัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์และจำเลย ผู้มารดาในฐานะส่วนตัวทำกันไว้หาผูกพันทรัพย์สินของเด็กไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1026/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีและการบังคับตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของผู้เยาว์ โดยการฟ้องต้องระบุฐานะชัดเจน
คำฟ้องบรรยายว่าขอยื่นฟ้องนางคลี่มารดาผู้แทนโดยชอบธรรมด.ญ.ยุพิน กับพวก จำเลยนั้น เมื่อไม่แสดงให้ชัดแจ้งว่าฟ้องในฐานะอย่างอื่น ก็ต้องว่าฟ้องนางคลี่เป็นส่วนตัว ที่กล่าวว่าเป็นมารดาผู้แทนโดยชอบธรรมก็เพียงระบุว่านางคลี่คนไหนเท่านั้น
การแปลคำฟ้องที่จะให้เป็นผลร้ายแก่ผู้เยาว์ โดยโจทก์ไม่แสดงให้แน่ชัดหาได้ไม่
สัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์และจำเลย ผู้มารดาในฐานะส่วนตัวทำกันไว้หาผูกพันทรัพย์สินของเด็กไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1619/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพัน การบังคับคดีตามคำพิพากษาเมื่อครบกำหนดสัญญา
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขับไล่และจำเลยอ้างว่าได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ที่สุดศาลได้พิพากษาให้เป็นไปตามยอมนั้น ข้อตกลงที่โจทก์ยอมให้จำเลยอยู่ในห้องพิพาทต่อไปอีก 3 ปีโดยจำเลยยอมเสียค่าเช่าแก่โจทก์เดือนละ 70 บาทนั้น เป็นสาระสำคัญข้อหนึ่งแห่งสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์จำเลย เมื่อครบกำหนดจำเลยไม่ยอมออก โจทก์ก็ชอบที่จะขอให้บังคับจำเลยได้เพราะเป็นการบังคับคดีตามคำพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 879/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: ความผูกพันและขอบเขตการเพิกถอน
คู่ความทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาล จนศาลพิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประ นีประนอมยอมความนั้น ไม่มีฝ่ายใดอุทธรณ์ฎีกาจนคดีถึงที่สุดเช่นนี้ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะมาฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญา ประนีประนอมยอมความนั้นในภายหลัง โดยอ้างว่าทำไปโดยสำคัญผิดไม่ได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 879/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลเด็ดขาดหลังศาลพิพากษาแล้ว โจทก์ไม่อุทธรณ์แก้ไขมิได้ แม้จะอ้างสำคัญผิด
คู่ความทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาล จนศาลพิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ไม่มีฝ่ายใดอุทธรณ์ฎีกาจนคดีถึงที่สุดเช่นนี้ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะมาฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นในภายหลัง โดยอ้างว่าทำไปโดยสำคัญผิดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงแบ่งแยกโฉนดและการระงับข้อพิพาท: สัญญาประนีประนอมยอมความต้องทำเป็นหนังสือ
เจ้าของร่วมตกลงแบ่งแยกโฉนดกัน ตกลงกำหนดลงไปว่าใครได้ตรงไหนแน่ เช่นนี้ย่อมเป็นการระงับข้อพิพาทอันจะมีขึ้นให้เสร็จไปจึงเข้าลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา850
ข้อตกลงที่เจ้าของร่วมคนหนึ่งยอมให้ เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งผ่านที่ ที่ตนได้รับในการแบ่งแยกนั้น ก็ย่อมเป็นส่วนหนึ่งของการตกลงแบ่งแยกโฉนดดังกล่าวเมื่อไม่ได้ทำเป็นหนังสือ ก็ย่อมจะนำมาฟ้องร้องให้บังคับหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: การระงับข้อพิพาทสัญญาสร้างบนที่เช่า และผลผูกพันตามสัญญา
ชนชาติญี่ปุ่นเช่าที่ดินของคนไทยมีกำหนด 5 ปีเช่าแล้วได้ปลูกอาคารโรงเรือนขึ้นบนที่เช่าต่อมาผู้เช่าตกเป็นบุคคลที่เป็นศัตรูของสหประชาชาติตามประกาศนายกรัฐมนตรีตามความใน พระราชบัญญัติว่าด้วยการกักคุมตัวและการควบคุมกิจการหรือทรัพย์สินของบุคคลที่เป็นศัตรูต่อสหประชาชาติ มาตรา 3 ก.ท.ส.จึงเข้าควบคุมจัดกิจการของผู้เช่า ได้ตกลงกับผู้ให้เช่ามีใจความสำคัญว่า ผู้ให้เช่ายอมใช้เงินค่าเช่าล่วงหน้า 2400 บาท แต่ขอให้หักค่าเสียหาย 1500 บาท ค่าเช่าที่ค้างเป็นอันเลิกกันไปสิ่งปลูกสร้างเป็นของ ก.ท.ส.แต่ขอร้องให้ก.ท.ส.ให้โอกาสรับซื้อก่อนคนอื่นเมื่อคนอื่นให้ราคาเท่ากันดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นข้อตกลงระงับข้อพิพาทระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 แล้วถือได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ
of 68