พบผลลัพธ์ทั้งหมด 846 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 296/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวความผิดเดียว: ใช้ตราปลอม-ใบเบิกทางปลอม เจตนาเดียวกันเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม
การที่จำเลยใช้รอยตราปลอมและใช้ใบเบิกทางปลอมในคราวเดียวกัน และด้วยเจตนาอย่างเดียวกัน คือเพื่อให้การบรรทุกไม้ของกลางของจำเลยรอดพ้นจากการจับกุมของเจ้าพนักงานนั้น เป็นความผิดกรรมเดียวกัน มิใช่เป็นความผิดคนละกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 296/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวความผิดเดียว: ใช้ตราปลอม-ใบเบิกทางปลอมเพื่อเลี่ยงการจับกุมไม้ผิดกฎหมาย
การที่จำเลยใช้รอยตราปลอมและใช้ใบเบิกทางปลอมในคราวเดียวกันและด้วยเจตนาอย่างเดียวกัน คือเพื่อให้การบรรทุกไม้ของกลางของจำเลยรอดพ้นจากการจับกุมของเจ้าพนักงาน นั้น เป็นความผิดกรรมเดียวกัน มิใช่เป็นความผิดคนละกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2249/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพาผู้เสียหายไปกระทำอนาจารและข่มขืนต่อเนื่องกัน ถือเป็นกรรมเดียว
จำเลยมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อกระทำอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา จำเลยกระทำอนาจารและข่มขืนกระทำชำเราทั้งในคืนแรกและคืนที่สอง เป็นการกระทำต่อเนื่องกันจากเจตนาเดิมนั้นเองแยกออกจากกันมิได้ การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2249/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาต่อเนื่องในการกระทำอนาจารและข่มขืน: ถือเป็นกรรมเดียว
จำเลยมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อกระทำอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา จำเลยกระทำอนาจารและข่มขืนกระทำชำเราทั้งในคืนแรกและคืนที่สอง เป็นการกระทำต่อเนื่องกันจากเจตนาเดิมนั่นเองแยกออกจากกันมิได้ การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2245/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวความผิดหลายบท: บุกรุกเพื่อพรากผู้เยาว์
แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องชัดแจ้งว่า จำเลยกระทำผิดฐานบุกรุกฐานหนึ่งและกระทำความผิดฐานพรากผู้เยาว์อีกฐานหนึ่ง เพื่อแสดงว่าจำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกันก็ตาม การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีเหตุอันควร และได้พรากผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดา การกระทำของจำเลยเห็นได้ว่ามีเจตนาประสงค์ต่อผลโดยตรงต่อการที่จะพรากผู้เยาว์ และจำเลยก็ได้พรากผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดาในทันทีทันใดที่เข้าไปในบ้าน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดต่อเนื่องกันเป็นกรรมเดียวไม่ขาดตอน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวแต่เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท มิใช่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2245/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวความผิดหลายบท: การบุกรุกเพื่อพรากผู้เยาว์
แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องชัดแจ้งว่า จำเลยกระทำผิดฐานบุกรุกฐานหนึ่งและกระทำความผิดฐานพรากผู้เยาว์อีกฐานหนึ่ง เพื่อแสดงว่าจำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกันก็ตาม การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในบ้าน โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีเหตุอันควร และได้พรากผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดาการกระทำของจำเลยเห็นได้ว่ามีเจตนาประสงค์ต่อผลโดยตรงต่อการที่จะพรากผู้เยาว์ และจำเลยก็ได้พรากผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดาในทันทีทันใดที่เข้าไปในบ้าน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดต่อเนื่องกันเป็นกรรมเดียวไม่ขาดตอน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวแต่เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท มิใช่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1905/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวความผิดหลายบท: บุกรุกเพื่อกระทำอนาจาร องค์ประกอบความผิดเชื่อมโยงกัน
จำเลยบุกรุกเข้าไปกระทำอนาจารผู้เสียหายซึ่งนอนอยู่ในมุ้งภายในบ้านของ ล. ผู้เสียหายรู้สึกตัวตื่นขึ้นบัดมือจำเลยแล้วเรียกให้คนช่วย จำเลยจึงหลบหนีไป ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฏหมายหลายบท ไม่ใช่หลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1905/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: บุกรุกเพื่อกระทำอนาจาร – ศาลยืนตามบทพิพากษาเดิม
จำเลยบุกรุกเข้าไปกระทำอนาจารผู้เสียหายซึ่งนอนอยู่ในมุ้งภายในบ้านของ ล.ผู้เสียหายรู้สึกตัวตื่นขึ้นปัดมือจำเลยแล้วเรียกให้คนช่วย จำเลยจึงหลบหนีไป ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ไม่ใช่หลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1207/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: การลงโทษฐานฆ่าและพยายามฆ่าในคดีเดียวกัน
ฟ้องว่าจำเลยกับพวกใช้ปืนยิง พ. และ อ. หลายนัดโดยเจตนาฆ่า พ. ถึงแก่กรรม อ. เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกับพวกคนหนึ่งยิงก่อน แล้วพวกของจำเลยอีก 3 คนยิงอีกในทันทีนั้น ดังนี้ เป็นกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท จะเรียงกระทงลงโทษฐานฆ่า พ. กรรมหนึ่งและฐานพยายามฆ่า อ. อีกกรรมหนึ่งไม่ได้ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลยแต่กระทงเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1202/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างพยานในคดีอาญา และการลงโทษกรรมเดียวผิดหลายบท
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 232 ที่บัญญัติห้ามมิให้โจทก์อ้างจำเลยเป็นพยานนั้น หมายถึงห้ามโจทก์อ้างตัวจำเลยเป็นพยานของโจทก์เท่านั้น ฉะนั้นถึ้งแม้ร้อยเอกจุลจะเคยถูกฟ้องร่วมกับจำเลยทั้งสามมาก่อน ศาลก็ได้สั่งให้แยกฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่ต่างหากจากคดีที่ร้อยเอกจุลเคยถูกฟ้องร่วมกับจำเลยทั้งสาม โจทก์จึงอ้างร้อยเอกจุลเป็นพยานได้ โดยขณะที่ร้อยเอกจุลเบิกความเป็นพยานโจทก์ในคดีนี้ ร้อยเอกจุลมิได้อยู่ในฐานะเป็นจำเลย
การที่จำเลยทั้งสามซึ่งเป็นเจ้าพนักงานมีอำนาจสืบสวนสอบสวนและจับกุมผู้กระทำผิด ได้ทราบแล้วว่านายเซ่งเป็นคนยิงนายชาญตาย แต่ไม่ทำการจับกุมอันเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 200 ทั้งยังร่วมกันขนย้ายศพนายชาญผู้ตายไปทิ้งเพื่อปิดบังการตายอันเป็นความผิดตามมาตรา 199 นอกจากนี้ยังร่วมกันโกยเลือดนายชาญไปทิ้งที่อื่นอันเป็นความผิดฐานทำลายพยานหลักฐาานในการกระทำผิดตาม มาตรา 184 เช่นนี้ แม้การกระทำของจำเลยทั้งสามจะเป็นการกระทำหลายอย่าง แต่ก็ด้วยเจตนาอันเดียวกัน คือ เพื่อช่วยเหลือมิให้ผู้กระทำผิดต้องรับโทษและเป็นการกระทำต่อเนื่องกัน การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงเป็นกรรมเดียวกัน แต่เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
การที่จำเลยทั้งสามซึ่งเป็นเจ้าพนักงานมีอำนาจสืบสวนสอบสวนและจับกุมผู้กระทำผิด ได้ทราบแล้วว่านายเซ่งเป็นคนยิงนายชาญตาย แต่ไม่ทำการจับกุมอันเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 200 ทั้งยังร่วมกันขนย้ายศพนายชาญผู้ตายไปทิ้งเพื่อปิดบังการตายอันเป็นความผิดตามมาตรา 199 นอกจากนี้ยังร่วมกันโกยเลือดนายชาญไปทิ้งที่อื่นอันเป็นความผิดฐานทำลายพยานหลักฐาานในการกระทำผิดตาม มาตรา 184 เช่นนี้ แม้การกระทำของจำเลยทั้งสามจะเป็นการกระทำหลายอย่าง แต่ก็ด้วยเจตนาอันเดียวกัน คือ เพื่อช่วยเหลือมิให้ผู้กระทำผิดต้องรับโทษและเป็นการกระทำต่อเนื่องกัน การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงเป็นกรรมเดียวกัน แต่เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90