พบผลลัพธ์ทั้งหมด 990 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 188/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งอุทธรณ์เนื่องจากไม่นำส่งสำเนาอุทธรณ์ตามกำหนดเวลา ศาลมีอำนาจจำหน่ายคดีได้
การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์และกำหนดเวลาให้จำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่โจทก์แต่จำเลยมิได้นำส่งสำเนาอุทธรณ์ภายในกำหนดเวลาที่กำหนดนั้นถือว่าจำเลยทิ้งอุทธรณ์ชอบที่ศาลจะมีคำสั่งจำหน่ายคดี.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1856/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งสำเนาเอกสารภายในกำหนดเวลา
ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์และศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันเดียวกันนั้นว่าให้ผู้ร้องนำส่งสำเนาให้ผู้คัดค้านภายใน15วันผู้ร้องหรือผู้แทนไม่จัดการนำส่งภายในกำหนดเวลาดังกล่าวดังนี้กรณีเป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นมีอำนาจสั่งได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา70วรรคท้ายและกำหนดเวลาดังกล่าวก็เป็นเวลาที่สมควรแล้วการที่ผู้ร้องไม่ดำเนินคดีภายในเวลาดังกล่าวจึงเป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา174(2)ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะจำหน่ายคดีตามมาตรา132(1)ประกอบด้วยมาตรา246แม้ผู้ร้องจะได้เสียค่าใช้จ่ายในการนำส่งสำเนาอุทธรณ์ไว้ล่วงหน้าก็ไม่ทำให้ผู้ร้องหมดหน้าที่ที่จะต้องจัดการนำส่งสำเนาตามคำสั่งของศาลชั้นต้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตพยานเพิ่มเติมหลังขาดนัดพิจารณา และการยื่นบัญชีระบุพยานเกินกำหนด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา แต่ก็อนุญาตให้จำเลยนำพยานที่ได้อ้างอิงไว้ตามบัญชีระบุพยานที่ยื่นต่อศาลไว้โดยถูกต้องตามมาตรา 88 วรรคแรกแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเข้าสืบ ส่วนพยานที่อ้างอิงไว้ตามบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมที่ยื่นต่อศาลโดยฝ่าฝืนต่อมาตรา 88 วรรคสอง ไม่อนุญาตให้จำเลยนำเข้าสืบ โดยอ้างเหตุผลแห่งการไม่รับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมตามเหตุผมที่บัญญัติไว้ในมาตรา 88 วรรคสาม ดังนี้ ศาลชั้นต้นมิได้ดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างคดีขาดนัดพิจารณาตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณาคดีโดยขาดนัด การที่อนุญาตให้จำเลยนำพยานบางปากเข้าสืบก็ดี และการที่ไม่รับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมตลอดจนไม่อนุญาตให้จำเลยนำพยานที่อ้างอิงไว้ ตามบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมดังกล่าวเข้าสืบก็ดี ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและมีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยพยานหลักฐานจำเลยจะอุทธรณ์ฎีกาขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยอ้างว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดพิจารณาไม่ได้
จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมต่อศาลเมื่อล่วงเลยระยะเวลาตามมาตรา 88 วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแล้ว โดยมิได้อ้างเหตุแห่งการที่ไม่อาจยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมภายในระยะเวลาตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 88 วรรคสาม จึงชอบที่จะไม่รับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม ของจำเลย
จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมต่อศาลเมื่อล่วงเลยระยะเวลาตามมาตรา 88 วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแล้ว โดยมิได้อ้างเหตุแห่งการที่ไม่อาจยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมภายในระยะเวลาตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 88 วรรคสาม จึงชอบที่จะไม่รับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม ของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมหลังกำหนด & ผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาแต่ก็อนุญาตให้จำเลยนำพยานที่ได้อ้างไว้ตามบัญชีระบุพยานที่ยื่นต่อศาลไว้โดยถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 88 วรรคแรก เข้าสืบ ส่วนพยานที่อ้างไว้ตามบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมที่ยื่นต่อศาลโดยฝ่าฝืนต่อ มาตรา 88 วรรคสองไม่อนุญาตให้จำเลยนำเข้าสืบโดยอ้างเหตุผลแห่งการไม่รับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมตามเหตุผลที่บัญญัติไว้ในมาตรา 88 วรรคสาม ดังนี้ ศาลชั้นต้นมิได้ดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างคดีขาดนัดพิจารณาตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณาคดีโดยขาดนัด แต่ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและมีคำสั่งตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยพยานหลักฐานจำเลยจะอุทธรณ์ฎีกาขอให้พิจารณาใหม่ โดยอ้างว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดพิจารณาไม่ได้ จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมต่อศาลเมื่อล่วงเลยระยะเวลาตามมาตรา 88 วรรคสองแล้ว โดยมิได้อ้างเหตุแห่งการที่ไม่อาจยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมภายในระยะเวลาตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 88 วรรคสาม จึงชอบที่จะไม่รับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1409/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาคำร้องยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ - นับจากวันศาลยกฟ้อง ไม่ใช่วันที่ทราบคำสั่ง
คำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 นั้นโจทก์จะต้องร้องขอภายใน 15 วัน นับแต่วันศาลยกฟ้องมิใช่วันที่โจทก์ทราบคำสั่ง ศาลยกฟ้องเมื่อวันที่29 มีนาคม 2527 โจทก์มายื่นคำร้องขอเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2527 จึงเป็นการเกินกำหนดเวลา โจทก์ฎีกาว่าการส่งหมายนัดไม่ชอบแต่มิได้อ้างเหตุมาให้เห็นเป็นการชัดเจนว่าไม่ชอบอย่างไร เป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 225 ประกอบด้วย มาตรา 195 ศาลฎีการับวินิจฉัยให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1356/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ส่งสำเนาอุทธรณ์ตามกำหนดเวลา ถือเป็นการทิ้งฟ้อง
ผู้อุทธรณ์ที่ไม่ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งภายในกำหนดเวลาที่ศาลสั่งถือว่าทิ้งฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3275/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีขับไล่: โจทก์ต้องร้องขอให้บังคับคดีสำหรับบริวารจำเลยภายในกำหนดเวลาตามกฎหมาย
เมื่อศาลออกคำบังคับตามคำพิพากษาแล้วโจทก์จะต้องร้องขอบังคับคดีอีกชั้นหนึ่งโดยอาศัยและตามคำบังคับที่ออกตามคำพิพากษาตามบทบัญญัติ มาตรา 271แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งสำหรับคดีฟ้องขับไล่เป็นคดีที่ไม่ต้องดำเนินการทางเจ้าพนักงานบังคับคดีแต่โจทก์ต้องร้องขอต่อศาลดำเนินการจับหรือจำขังจำเลยและบริวารเพื่อให้ปฏิบัติตามคำบังคับซึ่งเป็นการร้องขอให้บังคับคดีตามบทบัญญัติมาตรา 271 นั่นเองในคดีนี้โจทก์ร้องขอให้ศาลออกหมายจับจำเลยแต่ผู้เดียวภายในกำหนด10 ปีส่วนบริวารจำเลยโจทก์มิได้ร้องขอให้ดำเนินการบังคับคดีภายใน 10 ปีนับแต่วันมีคำพิพากษาตามบทบัญญัติดังกล่าวแต่ประการใด จึงเลยระยะเวลาที่โจทก์จะร้องขอบังคับคดีสำหรับบริวารจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3043/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอรับชำระหนี้จำนองหลังการขายทอดตลาด: สิทธิและการปฏิบัติตามกำหนดเวลาตามกฎหมาย
ผู้ร้องขอรับชำระหนี้จำนองจากการขายทอดตลาดทรัพย์จำนองโดยอาศัยอำนาจแห่งการจำนองซึ่งผู้ร้องมีบุริมสิทธิในการที่จะได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้รายอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 หาใช่ร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์จำนองตามมาตรา 287 ไม่ เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องขอเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ตามมาตรา 289 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งศาลชอบที่จะยกคำร้องของผู้ร้องเสีย (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 684/2513)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3019/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเก็บกิน อำนาจฟ้องคดีขับไล่ และสัญญาเช่าที่มีกำหนดเวลา
บ้านและที่ดินพิพาทเป็นของ ส. ซึ่งได้จดทะเบียนให้โจทก์เป็นผู้ทรงสิทธิเก็บกิน โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงสิทธิเก็บกินย่อมมีอำนาจจัดการทรัพย์สินคือบ้านและที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1417 การฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากบ้านและที่ดินพิพาทเป็นการจัดการทรัพย์สินโจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
สัญญาเช่ามีใจความว่า โจทก์ยอมให้จ.เช่าที่ดินพิพาทเพื่อปลูกสร้างอาคารเพื่อทำการค้าขาย เมื่อผู้เช่าเลิกกิจการค้าแล้วผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่าเซ้งได้ภายในกำหนด 10 ปีเมื่อพ้นกำหนด 10 ปี แล้วผู้เช่าจะเซ้งหรือรื้อถอนไม่ได้ อาคารและสิ่งปลูกสร้างต้องเป็นของผู้ให้เช่าเมื่อผู้เช่ายังทำการค้าขายอยู่ ผู้ให้เช่าจะฟ้องขับไล่ผู้เช่าไม่ได้เว้นแต่ผู้เช่าจะบอกเลิกสัญญา ย่อมหมายความว่า โจทก์ยอมให้ จ. เช่าที่ดินพิพาทและโอนสิทธิการเช่าได้ภายในกำหนด 10 ปีเพื่อตอบแทนที่ จ. ปลูกสร้างอาคารในที่ดินพิพาทแล้วยกให้โจทก์เมื่อครบ 10 ปีสัญญาต่างตอบแทนนี้จึงมีกำหนดเวลา 10 ปี และข้อสัญญาที่ว่าเมื่อผู้เช่ายังทำการค้าขายอยู่ผู้ให้เช่าจะฟ้องขับไล่ผู้เช่าไม่ได้จึงใช้บังคับได้ภายใน 10 ปี เช่นกัน
สัญญาต่างตอบแทนสิ้นสุดแล้ว จ.ยังคงอยู่ในบ้านและที่ดินพิพาทต่อมาโดยเสียค่าเช่าเป็นรายเดือนจึงเป็นการเช่าโดยไม่มีกำหนดเวลา เมื่อ จ.ตายสัญญาเช่าจึงระงับ จำเลยทั้งสามเช่าบ้านและที่ดินพิพาทต่อมาโดยไม่ได้กำหนดเวลาเช่าไว้ โจทก์ย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566 เมื่อปรากฏว่านับแต่วันที่จำเลยทั้งสามได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าถึงวันฟ้องเป็นเวลากว่า 2 เดือน โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสามได้
สัญญาเช่ามีใจความว่า โจทก์ยอมให้จ.เช่าที่ดินพิพาทเพื่อปลูกสร้างอาคารเพื่อทำการค้าขาย เมื่อผู้เช่าเลิกกิจการค้าแล้วผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่าเซ้งได้ภายในกำหนด 10 ปีเมื่อพ้นกำหนด 10 ปี แล้วผู้เช่าจะเซ้งหรือรื้อถอนไม่ได้ อาคารและสิ่งปลูกสร้างต้องเป็นของผู้ให้เช่าเมื่อผู้เช่ายังทำการค้าขายอยู่ ผู้ให้เช่าจะฟ้องขับไล่ผู้เช่าไม่ได้เว้นแต่ผู้เช่าจะบอกเลิกสัญญา ย่อมหมายความว่า โจทก์ยอมให้ จ. เช่าที่ดินพิพาทและโอนสิทธิการเช่าได้ภายในกำหนด 10 ปีเพื่อตอบแทนที่ จ. ปลูกสร้างอาคารในที่ดินพิพาทแล้วยกให้โจทก์เมื่อครบ 10 ปีสัญญาต่างตอบแทนนี้จึงมีกำหนดเวลา 10 ปี และข้อสัญญาที่ว่าเมื่อผู้เช่ายังทำการค้าขายอยู่ผู้ให้เช่าจะฟ้องขับไล่ผู้เช่าไม่ได้จึงใช้บังคับได้ภายใน 10 ปี เช่นกัน
สัญญาต่างตอบแทนสิ้นสุดแล้ว จ.ยังคงอยู่ในบ้านและที่ดินพิพาทต่อมาโดยเสียค่าเช่าเป็นรายเดือนจึงเป็นการเช่าโดยไม่มีกำหนดเวลา เมื่อ จ.ตายสัญญาเช่าจึงระงับ จำเลยทั้งสามเช่าบ้านและที่ดินพิพาทต่อมาโดยไม่ได้กำหนดเวลาเช่าไว้ โจทก์ย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566 เมื่อปรากฏว่านับแต่วันที่จำเลยทั้งสามได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าถึงวันฟ้องเป็นเวลากว่า 2 เดือน โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสามได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2392/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้พลาดกำหนดยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ย่อมหมดสิทธิ แม้ไม่ทราบคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์
โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้มิได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน กำหนดเวลาตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 91 โจทก์ย่อมหมดสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ จะอ้างว่าไม่ทราบคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดโดยสุจริตหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่แจ้งคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ให้โจทก์ทราบหาได้ไม่เพราะจะเท่ากับเป็นการขยายระยะเวลา ตามมาตรา 91 ออกไปโดยไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ทำได้