พบผลลัพธ์ทั้งหมด 764 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1525/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทุนทรัพย์คดีแพ่งแต่ละโจทก์, ข้อจำกัดการฎีกา, การนำสืบพยานจำเลย
คดีที่โจทก์แต่ละคนต่างใช้สิทธิเฉพาะตัวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์แต่ละคนชอบที่จะเสนอคดีของตนต่อศาลโดยลำพัง ฉะนั้น แม้โจทก์จะฟ้องมาในคดีเดียวกัน ก็ต้องพิจารณาทุนทรัพย์ของคดีสำหรับโจทก์แต่ละคนแยกกัน เมื่อปรากฏว่าราคาทรัพย์สินที่โจทก์แต่ละคนเรียกร้องมีจำนวนไม่เกิน 5,000 บาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์แต่ละคนจึงฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2511)
การที่จำเลยที่ 2 ไม่เข้าเบิกความเป็นพยาน ไม่มีกฎหมายตัดสิทธิมิให้จำเลยที่ 2 นำพยานเข้าสืบหรือบัญญัติว่าจะเอาคำเบิกความของพยานนั้นหรือคำเบิกความของจำเลยด้วยกันมาฟังเป็นประโยชน์แก่จำเลยที่ 2 ไม่ได้
การที่จำเลยที่ 2 ไม่เข้าเบิกความเป็นพยาน ไม่มีกฎหมายตัดสิทธิมิให้จำเลยที่ 2 นำพยานเข้าสืบหรือบัญญัติว่าจะเอาคำเบิกความของพยานนั้นหรือคำเบิกความของจำเลยด้วยกันมาฟังเป็นประโยชน์แก่จำเลยที่ 2 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1525/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาทุนทรัพย์ของโจทก์แต่ละคนในคดีที่ฟ้องร่วมกัน และสิทธิในการนำสืบพยานของจำเลย
คดีที่โจทก์แต่ละคนต่างใช้สิทธิเฉพาะตัวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์แต่ละคนชอบที่จะเสนอคดีของตนต่อศาลโดยลำพัง ฉะนั้น แม้โจทก์จะฟ้องมาในคดีเดียวกัน ก็ต้องพิจารณาทุนทรัพย์ของคดีสำหรับโจทก์แต่ละคนแยกกัน เมื่อปรากฏว่าราคาทรัพย์สินที่โจทก์แต่ละคนเรียกร้องมีจำนวนไม่เกิน 5,000 บาทและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์แต่ละคนจึงฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2511)
การที่จำเลยที่ 2 ไม่เข้าเบิกความเป็นพยาน ไม่มีกฎหมายตัดสิทธิ มิให้จำเลยที่ 2 นำพยานเข้าสืบหรือบัญญัติว่าจะเอาคำเบิกความของพยานนั้นหรือคำเบิกความของจำเลยด้วยกันมาฟังเป็นประโยชน์แก่จำเลยที่ 2 ไม่ได้
การที่จำเลยที่ 2 ไม่เข้าเบิกความเป็นพยาน ไม่มีกฎหมายตัดสิทธิ มิให้จำเลยที่ 2 นำพยานเข้าสืบหรือบัญญัติว่าจะเอาคำเบิกความของพยานนั้นหรือคำเบิกความของจำเลยด้วยกันมาฟังเป็นประโยชน์แก่จำเลยที่ 2 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1525/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาทุนทรัพย์ของคดีแต่ละโจทก์แยกกัน และการไม่มีผลเสียจากการไม่เบิกความของจำเลย
คดีที่โจทก์แต่ละคนต่างใช้สิทธิเฉพาะตัวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55. โจทก์แต่ละคนชอบที่จะเสนอคดีของตนต่อศาลโดยลำพัง. ฉะนั้น แม้โจทก์จะฟ้องมาในคดีเดียวกัน ก็ต้องพิจารณาทุนทรัพย์ของคดีสำหรับโจทก์แต่ละคนแยกกัน. เมื่อปรากฏว่าราคาทรัพย์สินที่โจทก์แต่ละคนเรียกร้องมีจำนวนไม่เกิน 5,000 บาท.และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น. โจทก์แต่ละคนจึงฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้.(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2511).
การที่จำเลยที่ 2 ไม่เข้าเบิกความเป็นพยาน. ไม่มีกฎหมายตัดสิทธิ.มิให้จำเลยที่ 2 นำพยานเข้าสืบ.หรือบัญญัติว่าจะเอาคำเบิกความของพยานนั้นหรือคำเบิกความของจำเลยด้วยกันมาฟังเป็นประโยชน์แก่จำเลยที่ 2 ไม่ได้.
การที่จำเลยที่ 2 ไม่เข้าเบิกความเป็นพยาน. ไม่มีกฎหมายตัดสิทธิ.มิให้จำเลยที่ 2 นำพยานเข้าสืบ.หรือบัญญัติว่าจะเอาคำเบิกความของพยานนั้นหรือคำเบิกความของจำเลยด้วยกันมาฟังเป็นประโยชน์แก่จำเลยที่ 2 ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเนื่องจากคดีมีทุนทรัพย์น้อยกว่า 5,000 บาท และเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริง
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าพันบาทซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้น ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง แม้ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกามา เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ย่อมพิพากษาให้ยกฎีกาเสีย
ในกรณีพิพากษายกฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจสั่งคืนค่าขึ้นศาลค่าตัดสินและค่าคำบังคับให้แก่ผู้ฎีกาได้
ฎีกาซึ่งโต้เถียงว่า ศาลควรฟังคำเบิกความของพยานปากนั้นปากนี้ เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง
ในกรณีพิพากษายกฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจสั่งคืนค่าขึ้นศาลค่าตัดสินและค่าคำบังคับให้แก่ผู้ฎีกาได้
ฎีกาซึ่งโต้เถียงว่า ศาลควรฟังคำเบิกความของพยานปากนั้นปากนี้ เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาในคดีทุนทรัพย์น้อยกว่า 5,000 บาท และการโต้เถียงข้อเท็จจริง ศาลฎีกายกคำฎีกาและคืนค่าธรรมเนียม
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าพันบาทซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้น ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง แม้ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกามา เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ย่อมพิพากษาให้ยกฎีกาเสีย
ในกรณีพิพากษายกฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจสั่งคืนค่าขึ้นศาลค่าตัดสินและค่าคำบังคับให้แก่ผู้ฎีกาได้
ฎีกาซึ่งโต้เถียงว่า ศาลควรฟังคำเบิกความของพยานปากนั้นปากนี้ เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง
ในกรณีพิพากษายกฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจสั่งคืนค่าขึ้นศาลค่าตัดสินและค่าคำบังคับให้แก่ผู้ฎีกาได้
ฎีกาซึ่งโต้เถียงว่า ศาลควรฟังคำเบิกความของพยานปากนั้นปากนี้ เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้าม - คดีทุนทรัพย์น้อยกว่าห้าพันบาท ศาลฎีกายกคำฎีกาและคืนค่าธรรมเนียม
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าพันบาทซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้น. ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง. แม้ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกามา เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง. ย่อมพิพากษาให้ยกฎีกาเสีย.
ในกรณีพิพากษายกฎีกา. ศาลฎีกามีอำนาจสั่งคืนค่าขึ้นศาลค่าตัดสินและค่าคำบังคับให้แก่ผู้ฎีกาได้.
ฎีกาซึ่งโต้เถียงว่า ศาลควรฟังคำเบิกความของพยานปากนั้นปากนี้. เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง.
ในกรณีพิพากษายกฎีกา. ศาลฎีกามีอำนาจสั่งคืนค่าขึ้นศาลค่าตัดสินและค่าคำบังคับให้แก่ผู้ฎีกาได้.
ฎีกาซึ่งโต้เถียงว่า ศาลควรฟังคำเบิกความของพยานปากนั้นปากนี้. เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดทรัพย์และการพิจารณาคดีที่มีทุนทรัพย์น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด
ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ว่า เรือนที่โจทก์นำยึดมาขายทอดตลาดใช้หนี้ตามคำพิพากษาเป็นของผู้ร้อง ราคา 2,000 บาท ศาลชั้นต้นสั่งให้ยกคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งว่าอุทธรณ์ของผู้ร้องเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์สั่งว่า คดีมีทุนทรัพย์ 2,000 บาท และเรือนในลักษณะถูกยึดมาขายเช่นคดีนี้ย่อมเป็นสังหาริมทรัพย์ ให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ดังนี้ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น คำสั่งศาลอุทธรณ์นี้ให้เป็นที่สุด ผู้ร้องฎีกาไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1374/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทุนทรัพย์ไม่เกิน 5,000 บาท โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
เจ้าพนักงานทีดินทำแผนที่วิวาทตามที่โจทก์จำเลยนำชี้ ปรากฏว่าที่ดินที่โจทก์จำเลยโต้เถียงการครอบครองกัน เป็นที่ดินเฉพาะส่วนทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของที่ดินที่โจทก์ชี้ว่าเป็นของโจทก์ มีเนื้อที่ไม่เกินครึ่งหนึ่งของที่ดินทั้งหมดที่โจทก์ว่าเป็นของโจทก์ดังนี้ ที่ดินที่พิพาทกันจึงไม่ใช่ที่ดินทั้งแปลงที่โจทก์ตีราคาไว้ 4,000 บาท แม้ศาลชั้นต้นจะไม่ได้ให้คู่ความตีราคาส่วนที่พิพาทกันไว้ ก็พอกำหนดได้ว่าที่พิพาทมีราคาไม่เกิน 2,000 บาท โจทก์เรียกค่าเสียหายอีก 1,200 บาท ทุนทรัพย์ในคดีจึงไม่เกิน 5,000 บาท โจทก์จะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1374/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทุนทรัพย์ไม่เกิน 5,000 บาท โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ตามกฎหมาย
เจ้าพนักงานที่ดินทำแผนที่วิวาทตามที่โจทก์จำเลยนำชี้ ปรากฏว่าที่ดินที่โจทก์จำเลยโต้เถียงครอบครองกันเป็นที่ดินเฉพาะส่วนทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของที่ดินที่โจทก์ชี้ว่าเป็นของโจทก์ มีเนื้อที่ไม่เกินครึ่งหนึ่งของที่ดินทั้งหมดที่โจทก์ว่าเป็นของโจทก์ ดังนี้ ที่ดินที่พิพาทกันจึงไม่ใช่ที่ดินทั้งแปลงที่โจทก์ตีราคาไว้ 4,000 บาท แม้ศาลชั้นต้นจะไม่ได้ให้คู่ความตีราคาส่วนที่พิพาทกันไว้ ก็พอกำหนดได้ว่าที่พิพาทมีราคาไม่เกิน 2,000 บาทโจทก์เรียกค่าเสียหายอีก 1,200 บาท ทุนทรัพย์ในคดีจึงไม่เกิน 5,000 บาท โจทก์จะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริงในคดีล้มละลายเมื่อทุนทรัพย์ไม่เกินสองพันบาท
ในคดีล้มละลายที่บุคคลคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ให้ชำระเงินตามสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ หากทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินสองพันบาท ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 153