พบผลลัพธ์ทั้งหมด 74 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1099/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนขายที่ดินที่เคยทำประโยชน์แล้วและไม่มีโฉนด การจดทะเบียนโดยปลัดอำเภอชอบด้วยกฎหมาย
ที่พิพาทเป็นที่ทำประโยชน์แล้ว จนเจ้าพนักงานที่ดินได้ทำใบไต่สวนและทำโฉนดแล้วพร้อมที่จะมอบให้เจ้าของที่เดิม ซึ่งได้ร้องขอออกโฉนดไว้ หากแต่เจ้าของที่เดิมไม่ไปรับใบไต่สวนและโฉนดจนเกิน 10 ปี เจ้าพนักงานจึงได้สั่งทำลายเสีย ที่พิพาทจึงไม่มีใบไต่สวนและไม่มีโฉนด ครั้นที่พิพาทตกมาเป็นของจำเลย โดยเจ้าของเดิมที่ว่านั้นยกให้จำเลย ๆ ก็ได้ครอบครองทำประโยชน์มา จำเลยร้องขอให้ศาลสั่งแสดงสิทธิ ศาลก็สั่งแสดงว่าจำเลยมีสิทธิครอบครองที่พิพาท ที่พิพาทจึงเป็นที่ดินที่อยู่ในความหมายของ พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 6 คือ เป็นที่ดินที่อยู่ในประเภทที่ดินซึ่งเจ้าของมีสิทธิขอรับโฉนดที่ดินตามบทแห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เวลาจะโอนขายไม่ต้องให้นายอำเภอรับรองว่า ได้ทำประโยชน์แล้ว การจดทะเบียนสิทธิและการทำนิติกรรมซื้อขายที่พิพาทรายนี้ ปลัดอำเภอเป็นผู้ทำแทนนายอำเภอ ย่อมเป็นการทำที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 71 (2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1278/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินของคนต่างด้าว: อำนาจฟ้องคดีเมื่อได้กรรมสิทธิ์ก่อนมีกฎหมาย
อำนาจฟ้องคดีที่ดินเนื่องจากโจทก์เป็นคนต่างด้าวนั้น เป็นเรื่องระหว่างพนักงานเจ้าหน้าที่กับคนต่างด้าว ซึ่งจะต้องปฏิบัติต่อกัน คนต่างด้าวจะมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้เพียงใดหรือไม่ ย่อมอยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายที่ดิน (เทียบ ฎีกาที่ 1113/2495)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1841/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักเขตที่ลงโทษได้ตามกฎหมายที่ดิน ต้องเป็นหลักเขตที่เจ้าพนักงานที่ดินจัดทำเพื่อออกโฉนดเท่านั้น
การที่ผู้ใดเคลื่อนย้ายหลักเขตอันจะมีโทษตาม มาตรา 109ได้นั้นจะต้องเป็นหลักเขตซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินได้จัดทำขึ้นเพื่อการออกโฉนดตาม มาตรา 65,66 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1979/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คนต่างด้าวซื้อที่ดินโดยอ้อมหลีกเลี่ยงกฎหมายที่ดิน ศาลไม่บังคับตามสัญญาประนีประนอม
คนต่างด้าวร่วมออกเงินซื้อที่ดินเป็นเจ้าของร่วมกันโดยให้คนไทยลงชื่อเป็นผู้ซื้อแทนแล้ว ให้คนไทยนั้นทำหนังสือมอบอำนาจให้คนต่างด้าวผู้ซื้อคนหนึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจดูแล ภายหลังคนต่างด้าวผู้ซื้อตกลง แบ่งแยกที่ดินกันไม่ได้ จึงตั้นคนกลางชี้ขาด คนกลางชี้ขาดแล้ว แต่คนต่างด้าวผู้ครอบครองที่ดินไม่ยอมมอบที่ดินให้ ดังนี้ คนต่างด้าวอีกคนหนึ่งจะฟ้องศาลขอให้ศาลบังคับให้แบ่งที่ดินให้แก่ตนตามคำชี้ขาดของคนกลางนั้นถือ ว่าเป็นการบังคับในทางให้โจทก์ได้ที่ดินอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว โจทก์จะมาฟ้องขอรับผลในทางฝ่าฝืนกฎหมายไม่ได้ศาลไม่บังคับให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินมีเอกสิทธิ์ตามกฎหมายที่ดิน ไม่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ป่าไม้ การตัดไม้ในที่ดินนั้นจึงไม่เป็นความผิด
ที่ดินที่ได้มีบุคคลได้มาตามกฎหมายที่ดินแล้ว ย่อมไม่เป็นป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 4(1) ผู้ใดตัดไม้ประเภทหวงห้ามในที่ดินนั้น จึงย่อมไม่ติดตามพระราชบัญญัติป่าไม้
พฤติการณ์ที่ถือว่า ได้ที่ดินมาตามกฎหมายที่ดินแล้ว
พฤติการณ์ที่ถือว่า ได้ที่ดินมาตามกฎหมายที่ดินแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินมีเอกสิทธิ์ตามกฎหมายที่ดิน ไม่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายป่าไม้ การตัดไม้ในที่ดินนั้นจึงไม่ผิด
ที่ดินที่ได้มีบุคคลได้มาตามกฎหมายที่ดินแล้ว ย่อมไม่เป็นป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 มาตรา 4(1) ผู้ใดตัดไม้ประเภทหวงห้ามในที่ดินนั้น จึงย่อมไม่ผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้
พฤติการณ์ที่ถือว่า ได้ที่ดินมาตามกฎหมายที่ดินแล้ว
พฤติการณ์ที่ถือว่า ได้ที่ดินมาตามกฎหมายที่ดินแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 812/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินกับชาวต่างชาติที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่ดิน สัญญาเป็นโมฆะ และไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
ผู้รับโอนที่ดินเป็นชาวจีน แต่มิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวแก่คนต่างด้าว พ.ศ. 2485 มาตรา 5, 6 จึงไม่มีสิทธิจะรับโอนที่ดิน สัญญาจะซื้อขายที่ทำขึ้นไว้ ก็ใช้บังคับไม่ได้
โจทก์ได้ทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่จำเลย และได้รับเงินค่าที่ดินไว้จากจำเลยเต็มจำนวนราคาขายแล้ว เมื่อศาลพิพากษาให้ทำลายนิติกรรมการซื้อขายเสีย ตามพฤตติการณ์ดังนี้ โจทก์ไม่ควรได้ค่าเสียหายอีก
โจทก์ได้ทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่จำเลย และได้รับเงินค่าที่ดินไว้จากจำเลยเต็มจำนวนราคาขายแล้ว เมื่อศาลพิพากษาให้ทำลายนิติกรรมการซื้อขายเสีย ตามพฤตติการณ์ดังนี้ โจทก์ไม่ควรได้ค่าเสียหายอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1197/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิในที่ดินสาธารณะต้องเป็นไปตามกฎหมายที่ดินเท่านั้น การครอบครองไม่เพียงพอ
ที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน บุคคลจะได้มาซึ่งกรรมสิทธิได้ก็ฉะเพาะแต่การกระทำตามกฎหมายที่ดิน ดั่งที่ได้มีบทบังคับไว้ในมาตรา 1334 กฎหมายที่ดินดั่งว่านี้ได้มีปรากฎ เป็นบทบัญญัติใน พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดินเป็นลำดับมา จนถึงฉะบับที่ 7 พ.ศ. 2486
การร้องขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ ซึ่งผู้ร้องได้ครอบครองมา 20 ปีเศษเป็นของผู้ร้องนั้น ได้มีมาตรา 13,15 แห่ง พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉะบับที่ 7) 2486 บังคับไว้แล้ว ส่วนการได้กรรมสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา 1382 ป.ม.แพ่งฯ นั้น ต้องเป็นทรัพย์ที่บุคคลมีกรรมสิทธิอยู่ก่อนแล้ว ไม่ใช่ที่รกร้างว่างเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญ.
การร้องขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ ซึ่งผู้ร้องได้ครอบครองมา 20 ปีเศษเป็นของผู้ร้องนั้น ได้มีมาตรา 13,15 แห่ง พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉะบับที่ 7) 2486 บังคับไว้แล้ว ส่วนการได้กรรมสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา 1382 ป.ม.แพ่งฯ นั้น ต้องเป็นทรัพย์ที่บุคคลมีกรรมสิทธิอยู่ก่อนแล้ว ไม่ใช่ที่รกร้างว่างเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1197/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดินสาธารณะต้องได้มาตามกฎหมายที่ดินเท่านั้น การครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ ไม่สามารถใช้ได้
ที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน บุคคลจะได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ได้ก็เฉพาะแต่การกระทำตามกฎหมายที่ดิน ดั่งที่ได้มีบทบังคับไว้ในมาตรา 1334 กฎหมายที่ดินดั่งว่านี้ได้มีปรากฏ เป็นบทบัญญัติใน พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดินเป็นลำดับมาจนถึงฉบับที่ 7 พ.ศ.2486
การร้องขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ ซึ่งผู้ร้องได้ครอบครองมา 20 ปีเศษเป็นของผู้ร้องนั้น ได้มีมาตรา 13,15 แห่ง พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 7)2486บังคับไว้แล้ว ส่วนการได้กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา 1382 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้น ต้องเป็นทรัพย์ที่บุคคลมีกรรมสิทธิ์อยู่ก่อนแล้ว ไม่ใช่ที่รกร้างว่างเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญ
หมายเหตุได้ซ้อมความเข้าใจกับเจ้าของแล้วว่าท่านไม่ได้หมายความว่าการได้กรรมสิทธิ์ที่ดินแต่ก่อนๆ นั้นมีได้เฉพาะตามพ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน 2486
การร้องขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ ซึ่งผู้ร้องได้ครอบครองมา 20 ปีเศษเป็นของผู้ร้องนั้น ได้มีมาตรา 13,15 แห่ง พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 7)2486บังคับไว้แล้ว ส่วนการได้กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา 1382 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้น ต้องเป็นทรัพย์ที่บุคคลมีกรรมสิทธิ์อยู่ก่อนแล้ว ไม่ใช่ที่รกร้างว่างเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญ
หมายเหตุได้ซ้อมความเข้าใจกับเจ้าของแล้วว่าท่านไม่ได้หมายความว่าการได้กรรมสิทธิ์ที่ดินแต่ก่อนๆ นั้นมีได้เฉพาะตามพ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน 2486
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินก่อนพ.ร.บ.ออกโฉนดฯ ไม่ถือเป็นป่า หากมิได้คัดค้านการได้มาตามกฎหมายเดิม
พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2486 ม.13 เพียงแต่บอกระเบียบให้จัดการขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าของที่ดินตามกฎหมาย แต่บุคคลอาจได้ที่ดินมาตามกฎหมายที่ใช้อยู่ก่อนพ.ศ.2486 เมื่อโจทก์มิได้คัดค้านว่า การให้ที่ดินไม่เป็นการได้มาตามกฎหมายที่ดินที่ใช้อยู่ก่อนนั้นแล้วก็ไม่พอฟังว่าที่ดินซึ่งจำเลยตัดต้นไม้ชะนิดหวงห้ามนั้นตกเป็นป่า ตามวิเคราะห์ศัพท์ใน พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา (1) คดีจึงไม่พอลงโทษจำเลยฐานตัดต้นไม้หวงห้ามในที่ป่า