พบผลลัพธ์ทั้งหมด 87 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 790/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบที่มาสิทธิ – หลักความเท่าเทียมกันในกระบวนการ – ศาลไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คู่ความโต้เถียงกันว่าที่พิพาทเป็นของฝ่ายใด แม้ฟ้องของโจทก์จะไม่ได้บรรยายถึงสิทธิของผู้ที่ได้ขายที่พิพาทให้โจทก์ว่าได้มาอย่างไร โจทก์ย่อมมีสิทธินำสืบได้เพราะเป็นการนำสืบถึงที่มาแห่งสิทธิของผู้ขายทั้งความข้อนี้ จำเลยก็ยกเป็นประเด็นขึ้นต่อสู้ด้วย การที่ศาลยอมให้จำเลยนำสืบถึงที่มาแห่งสิทธิของจำเลยฝ่ายเดียวตามข้ออ้าง แล้วพิพากษาให้จำเลยชนะคดีไปตามนั้น เป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 118/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กระบวนการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ไม่สามารถเทียบเคียงกับคดีแพ่งทั่วไปได้
พระราชบัญญัติล้มละลาย ได้บัญญัติกระบวนพิจารณาเรื่องการขอรับชำระหนี้ไว้โดยเฉพาะเพื่อให้เจ้าหน้าได้รับความสดวก รวดเร็ว และเสียค่าใช้จ่ายน้อยมีลักษณะไม่เหมือนกับการฟ้องคดี ฉะนั้น จึงนำบทบัญญัติเกี่ยวกับการทิ้งฟ้องเช่นคดีแพ่ง สามัญมาใช้ไม่ได้
การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หมายนัดให้เจ้าหน้าที่ยื่นคำขอรับชำระหนี้นำพยานหลักฐานไปให้สวบสวนนั้น เมื่อเจ้าหนี้ไม่ไปตามนัด จะถือว่าขาดนัดพิจารณาโดยอนุโลมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งย่อมไม่ได้
การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หมายนัดให้เจ้าหน้าที่ยื่นคำขอรับชำระหนี้นำพยานหลักฐานไปให้สวบสวนนั้น เมื่อเจ้าหนี้ไม่ไปตามนัด จะถือว่าขาดนัดพิจารณาโดยอนุโลมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งย่อมไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 118/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กระบวนการล้มละลาย: การนัดหมายเจ้าหนี้และการขาดนัด
พระราชบัญญัติล้มละลายได้บัญญัติกระบวนพิจารณาเรื่องการขอรับชำระหนี้ไว้โดยเฉพาะเพื่อให้เจ้าหนี้ได้รับความสะดวกรวดเร็วและเสียค่าใช้จ่ายน้อย มีลักษณะไม่เหมือนกับการฟ้องคดีฉะนั้น จะนำบทบัญญัติเกี่ยวกับการทิ้งฟ้องเช่น คดีแพ่งสามัญมาใช้ไม่ได้
การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หมายนัดให้เจ้าหนี้ที่ยื่นคำขอรับชำระหนี้นำพยานหลักฐานไปให้สอบสวนนั้น เมื่อเจ้าหนี้ไม่ไปตามนัด จะถือว่าขาดนัดพิจารณาโดยอนุโลมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งย่อมไม่ได้
การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หมายนัดให้เจ้าหนี้ที่ยื่นคำขอรับชำระหนี้นำพยานหลักฐานไปให้สอบสวนนั้น เมื่อเจ้าหนี้ไม่ไปตามนัด จะถือว่าขาดนัดพิจารณาโดยอนุโลมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งย่อมไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีหลังศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด และกระบวนการอุทธรณ์ที่ไม่ถูกต้อง
เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดในคดีล้มละลายแล้วเจ้าหนี้ต้องไปขอรับชำระหนี้ทางเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะมาดำเนินคดีทางศาลหาได้ไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องไปแล้ว โจทก์จึงยื่นอุทธรณ์แต่เสียค่าธรรมเนียมไม่ครบถ้วน ศาลมีคำสั่งให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมให้ครบ โจทก์ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งโดยทำเป็นคำร้องยื่นไปยังศาลอุทธรณ์ตาม มาตรา 234 หาใช่ยื่นฟ้องอุทธรณ์คำสั่งไม่ เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ เช่นนี้คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตาม มาตรา 236 วรรคต้น โจทก์จะฎีกาหาได้ไม่
อ้างฎีกาที่ 1223/2498
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องไปแล้ว โจทก์จึงยื่นอุทธรณ์แต่เสียค่าธรรมเนียมไม่ครบถ้วน ศาลมีคำสั่งให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมให้ครบ โจทก์ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งโดยทำเป็นคำร้องยื่นไปยังศาลอุทธรณ์ตาม มาตรา 234 หาใช่ยื่นฟ้องอุทธรณ์คำสั่งไม่ เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ เช่นนี้คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตาม มาตรา 236 วรรคต้น โจทก์จะฎีกาหาได้ไม่
อ้างฎีกาที่ 1223/2498
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างคำเบิกความจากคดีอื่นที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการ จึงรับฟังเป็นพยานไม่ได้
ระบุอ้างคำเบิกความของพยานซึ่งเบิกความไว้ในคดีอื่น เป็นพยานแต่มิได้ขอร้องและเสียค่าธรรมเนียนตามกระ บวนวิธีพิจารณาอย่างไร นั้น ศาลย่อมรับฟังคำเบิกความนั้นเป็นพยาน ไม่ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรังวัดที่ดินโดยกำนันนอกกระบวนการตามกฎหมาย และการเรียกเก็บค่าบริการ ไม่เป็นความผิดตามก.ม.ลักษณะอาญา
กฎกระทรวงเกษตราธิการออกตามความใน พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉะบับที่ 6) พ.ศ. 2479 วางระเบียบในเรื่องการขอจับจองที่ดินไว้ว่า ให้ผู้ขอจับจองยื่นเรื่องราวขอจับจองตามแบบฟอร์ม เมื่อกรมการอำเภอได้รับคำขอแล้วให้นายอำเภอ หรือผู้แทนจะเป็นกำนันหรือเจ้าหน้าที่อื่นก็ได้ ไปทำการชัณสูตร
ยังที่ดินพร้อมด้วยผู้ขอฉะนั้นถ้าราษฎรผู้ขอจับจองได้ตรงไปให้กำนันรังวัดที่ดินและออกหนังสือรับรองเสียก่อน แล้ว จึงมายื่นคำขอจับจองต่ออำเภอในภายหลัง ทั้งหนังสือรับรองของกำนันก็มิได้เขียนลงในแบบฟอร์มตามกฎกระทรวง เช่นนี้ ต้องถือว่ากำนันทำขึ้นเป็นส่วนตัว ไม่ใช่ทำตามหน้าที่ ไม่เป็นหนังสือรับรองตามกฎหมาย ฉะนั้นแม้กำนันจะ
เรียกร้องเอาเงินจากราษฎรผู้ขอ เป็นค่าช่วยการของตนคิดตามราคาเนื้อที่ดินรังวัดก็ดี กำนันนั้นก็ยังไม่มีผิด ตาม
ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 137./
ยังที่ดินพร้อมด้วยผู้ขอฉะนั้นถ้าราษฎรผู้ขอจับจองได้ตรงไปให้กำนันรังวัดที่ดินและออกหนังสือรับรองเสียก่อน แล้ว จึงมายื่นคำขอจับจองต่ออำเภอในภายหลัง ทั้งหนังสือรับรองของกำนันก็มิได้เขียนลงในแบบฟอร์มตามกฎกระทรวง เช่นนี้ ต้องถือว่ากำนันทำขึ้นเป็นส่วนตัว ไม่ใช่ทำตามหน้าที่ ไม่เป็นหนังสือรับรองตามกฎหมาย ฉะนั้นแม้กำนันจะ
เรียกร้องเอาเงินจากราษฎรผู้ขอ เป็นค่าช่วยการของตนคิดตามราคาเนื้อที่ดินรังวัดก็ดี กำนันนั้นก็ยังไม่มีผิด ตาม
ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 137./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่เป็นไปตามกระบวนการ เนื่องจากจำเลยไม่สามารถติดตามตัวได้ ศาลสั่งจำหน่ายคดี
ในคดีอาญา เมื่อโจทก์ฎีกา แม้ได้ส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยรับไปแล้ว ถ้าต่อมาไม่ทราบว่าจำเลยอยู่ที่ใด ตามตัวไม่พบ ส่งหมายนัดแถลงการณ์ให้จำเลยไม่ได้ และโจทก์ไม่สามารถจะนำส่งหมายนัดให้จำเลยได้ ย่อมถือว่าไม่ได้ตัวจำเลยมาทำการพิจารณา ศาลฎีกาต้องสั่งจำหน่ายฎีกาของโจทก์./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย – การยกฟ้องเมื่อศาลประทับฟ้องและดำเนินกระบวนการไปแล้ว
ฟ้องที่มิได้ลงชื่อโจทก์นั้นเป็นฟ้องไม่ถูกต้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 (7)
ศาลชั้นต้นได้สั่งประทับฟ้องที่ไม่ถูกต้องไว้ และดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพะยานโจทก์ไปแล้ว คงเหลือแต่พนักงานสอบสวนอีกปากเดียว ความจึงปรากฎจากคำร้องของจำเลยว่าโจทก์ไม่ได้ลงชื่อในฟ้อง ดังนี้จึงมีวิธีที่ศาลจะปฏิบัติตามมาตรา 161 ได้อีกทางเดียวคือให้ยกฟ้องเสีย.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2492)
ศาลชั้นต้นได้สั่งประทับฟ้องที่ไม่ถูกต้องไว้ และดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพะยานโจทก์ไปแล้ว คงเหลือแต่พนักงานสอบสวนอีกปากเดียว ความจึงปรากฎจากคำร้องของจำเลยว่าโจทก์ไม่ได้ลงชื่อในฟ้อง ดังนี้จึงมีวิธีที่ศาลจะปฏิบัติตามมาตรา 161 ได้อีกทางเดียวคือให้ยกฟ้องเสีย.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังและทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพ ต้องพิจารณาพฤติการณ์ครบถ้วนตามกระบวนการ
คดีได้ความจากคำเบิกความของผู้เสียหายว่า จำเลยบอกว่าจะจับตัวไปส่งสถานีตำรวจ แล้วจำเลยก็คุมตัวผู้เสียหายไป และเตะผู้เสียหายในระหว่างทาง แล้วหาส่งตัวผู้เสียหายต่อกำนันหรืออำเภอไม่ เพียงเท่านี้ ศาลจะด่วนยกข้อหาฐานทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 270 เสียโดยไม่พิจารณาให้สิ้นกระแสร์ความตามกระบวนพิจารณาหาชอบไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานประเด็น – การยินยอมของจำเลย – กระบวนการถูกต้องตามกฎหมาย
การส่งประเด็นไปสืบพยานโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 230 จำเลยก็ดีทนายจำเลย ก็ดีจะตามประเด็นไปก็ได้ จะส่งคำถามไปให้ศาลซักถามให้ก็ได้ หรือจะไม่ตามประเด็นไป และไม่ส่งคำถามไปก็ได้ กฎหมายไม่บังคับเด็ดขาด
ศาลที่ได้รับประเด็นไม่แจ้งวันนัดสืบพยานประเด็นของโจทก์ให้ทนายจำเลยทราบ ครั้นเมื่อประเด็นกลับ ศาลได้อ่านให้คู่ความฟัง ทนายจำเลยหาได้คัดค้านถึงการที่ศาลไม่แจ้งวันนัดสืบพยานประเด็นไม่ กลับยินยอมให้สืบพยานโจทก์ต่อไปดังนี้ กระบวนพิจารณาที่ศาลทำไป จึงถูกต้อง
ศาลที่ได้รับประเด็นไม่แจ้งวันนัดสืบพยานประเด็นของโจทก์ให้ทนายจำเลยทราบ ครั้นเมื่อประเด็นกลับ ศาลได้อ่านให้คู่ความฟัง ทนายจำเลยหาได้คัดค้านถึงการที่ศาลไม่แจ้งวันนัดสืบพยานประเด็นไม่ กลับยินยอมให้สืบพยานโจทก์ต่อไปดังนี้ กระบวนพิจารณาที่ศาลทำไป จึงถูกต้อง