คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
การพิพากษา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 80 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อในคดีอาญา: จำเป็นต้องระบุชัดเจนว่าจำเลยได้รับโทษในคดีเดิมแล้ว
ในคำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ไม่ได้บรรยายความว่าจำเลยได้รับโทษในคดีดำที่ 61/2498 แล้ว คงกล่าวเพียงว่า "ขอให้นับโทษจำเลยตามคดีดำที่ 61/2498 ซึ่งบัดนี้คดีดำที่ 61/2498 ของศาลอาญาให้ติดต่อกันด้วย" ความจริงไม่ปรากฏชัดว่าจำเลยต้องรับโทษในคดีนั้นหรือไม่ จึงไม่นับโทษต่อให้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 245/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีป่าไม้: ความถูกต้องของเอกสารอนุญาตตัดไม้ และขอบเขตการริบไม้ของกลาง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 2กรกฎาคม 2496 เวลาใดไม่ปรากฏจำเลยตัดฟันชักลากและมีไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตเจ้าพนักงานจับไม้ของกลางได้เมื่อวันที่ 9 ก.ค.96 ดังนี้แม้ทางพิจารณาจะฟังว่าจับของกลางได้เมื่อวันที่ 2 ก.ค.96 ซึ่งผิดวันกันก็จริง แต่ข้อที่ผิดกันเช่นนี้ยังไม่เรียกว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้องไม่ เพราะข้อที่ผิดกันนี้เป็นแต่เพียงรายละเอียดข้อปลีกย่อยเท่านั้น มิใช่ในข้ออันเป็นมูลฐานแห่งข้อกล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 524/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินงอกต่อ vs. ที่สาธารณะริมน้ำ: การพิพากษาคดีบุกรุกโดยไม่ต้องลงพื้นที่
ที่ห้องทางน้ำซึ่งตื้นเขินขึ้นสูงกว่าที่ของโจทก์ และมีลำรางน้ำฝนไหลคั่นกลางเช่นนี้ หาใช่ที่งอกต่อจากที่โจทก์ไม่ แต่เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน
เมื่อศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงในคดีพอวินิจฉัยได้แล้ว ศาลก็มีอำนาจพิพากษาคดีนั้นได้ โดยไม่ต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการวินิจฉัยตามประเด็นที่ตกลงกัน: การพิพากษาต้องเป็นไปตามประเด็นที่คู่ความตกลงกันเท่านั้น
โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยจับจองทับที่ของโจทก์ขอให้เพิกถอนการจับจองจำเลยต่อสู้ว่า ที่ที่จับจองเป็นที่ว่างเปล่าในที่สุดได้ตกลงท้ากันให้ศาลไปดูและวินิจฉัยเจาะจงข้อเถียงว่าถ้าที่พิพาทเป็นที่ซึ่งปลูกพืชผลธัญชาติ ก็ให้โจทก์ชนะคดีถ้าที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่าไม่ได้ปลูกพืชผลธัญชาติอะไรไปเลยให้จำเลยชนะคดี ดังนี้ เมื่อศาลไปดูแล้วปรากฏว่าที่พิพาทมีสภาพเป็นที่ซึ่งปลูกพืชผลธัญชาติสมจริงแล้วแม้จะมิได้ปลูกเต็มเนื้อที่พิพาท ก็ต้องให้โจทก์ชนะคดีได้ที่พิพาททั้งหมดจะแบ่งให้โจทก์ได้เฉพาะตอนที่ปลูกพืชผล ส่วนตอนที่ไม่ได้ปลูกให้ได้แก่จำเลยนั้นไม่ถูกต้องเพราะมิได้อยู่ในขอบข่ายแห่งประเด็นข้อท้าเป็นการนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1127/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมคบกระทำผิด แม้ผู้ร่วมกระทำผิดบางคนไม่มีความผิด ก็ไม่ทำให้การสมคบกระทำผิดของผู้อื่นเป็นโมฆะ
ฟ้องว่าจำเลยที่ 2 สมคบกับจำเลยที่ 1 ทำการลักทรัพย์ แม้ศาลจะฟังว่าคดีสำหรับจำเลยที่ 1 นั้นหลักฐานยังไม่พอลงโทษจึงปล่อยตัวจำเลยที่ 1 ไปก็ดี แต่จะถือเอาเป็นเหตุให้ฟังว่า จำเลยที่ 2 ไม่ได้สมคบกระทำผิดดังฟ้องหาได้ไม่ เมื่อคดีสำหรับตัวจำเลยที่ 2 มีพยานหลักฐานฟังได้ ศาลก็ย่อมลงโทษจำเลยที่ 2 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1566/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีอาญาที่ขาดหลักฐานยืนยันการกระทำผิด ศาลฎีกายกฟ้องจำเลยเนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายกระทงหนึ่งจำคุก 2 เดือน และฐานบุกรุกสถานที่ราชการอีกกระทงหนึ่งจำคุก 1 เดือน ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์มิได้สืบว่ารถการ์ดที่จำเลยขึ้นไปนั้นเป็นสถานที่สำหรับใช้ในราชการซึ่งผู้หนึ่งผู้ใดจะเข้าไปมิได้ ฉะนั้นจำเลยยังไม่ผิดฐานนี้ พิพากษาแก้ว่าจำเลยไม่ผิดฐานบุกรุกนอกจากนี้ยืน โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตามศาลชั้นต้น ดังนี้เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยมิได้ขึ้นไปบนรถการ์ด ฉะนั้นความผิดในเรื่องบุกรุกจึงไม่ต้องวินิจฉัย และเมื่อฟังไม่ได้ว่าขึ้นไปรถการ์ดข้อหาโจทก์ที่ว่าจำเลยขึ้นไปทำร้ายเขาบนรถการ์ดก็ย่อมตกไปด้วย แม้โจทก์ฝ่ายเดียวจะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกฐานเดียวก็ดี เมื่อคดีฟังไม่ได้ว่า จำเลยมีความผิด ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ศาลฎีกาต้องพิพากษายกฟ้องโจทก์ ปล่อยจำเลยไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 537/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการเนรเทศตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร ไม่ใช่การพิพากษา
การเนรเทศบุคคลไปนอกพระราชอาณาจักรไทยตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควา พ.ศ. 2490 มาตรา 31 นัน ไม่ใช่กรณีที่ให้ศาลพิพากษา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 537/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการสั่งเนรเทศตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร ไม่ใช่การพิพากษา
การเนรเทศบุคคลไปนอกพระราชอาณาจักรไทยตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ.2490 มาตรา 31 นั้น ไม่ใช่กรณีที่ให้ศาลพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 874/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามข่มขืนกระทำชำเรา: การพิพากษาแก้ทั้งโทษและฐานความผิด และการฟังข้อเท็จจริงเรื่องการล่วงล้ำ
ศาลชั้นต้นลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 244 จำคุก 2 ปีศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษตามมาตรา 244,60 จำคุก 1 ปี 4 เดือน ดังนี้ ถือว่า เป็นการแก้ข้อกำหนดโทษและฐานแห่งความผิด เป็นการแก้มากฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
ของลับของชายคงถูไถอยู่แต่ปากช่องคลอดด้านนอกยังไม่เข้าไปข้างใน เป็นผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินทำกินก่อนมีคำสั่งสาธารณะประโยชน์ และเจตนาขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงาน
ในเรื่องขอให้ลงโทษฐานตัดไม้ประเภทหวงห้ามโจทก์จะต้องนำสืบให้เห็นว่า ที่ที่ตัดไม้นั้นเป็นที่ป่า
ในเรื่องความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานนั้น จำเลยจะต้องรู้ว่า คำสั่งนั้นชอบด้วยกฎหมาย และมีเจตนาขัดขืนจึงจะมีความผิด
of 8