คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กู้เงิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 107 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1014/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงจากการอ้างหลักทรัพย์เท็จเพื่อกู้เงิน: การหลอกลวงด้วยเช็คที่ไม่มีเงิน
โจทก์จะให้จำเลยกู้เงินถ้ามีหลักฐานมาประกัน จำเลยจึงพูดอวดอ้างว่าตนมีบัญชีเงินฝากในธนาคารแล้ควักเอาเช็คออกมาเซ็นชื่อให้ โจทก์หลงเชื่อจำเลยในการอวดอ้างแสดงข้อความเท็จนี้ จึงจ่ายเงินให้จำเลยกู้ยืมไปนั้น ดังนี้ เป็นความผิดฐานฉ้อโกงแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1014/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงจากการอ้างเท็จเพื่อขอกู้เงิน - เช็คเป็นเพียงหลักประกัน
โจทก์จะให้จำเลยกู้เงินถ้ามีหลักฐานมาประกัน จำเลยจึงพูดอวดอ้างว่าตนมีบัญชีเงินฝากในธนาคารแล้วควักเอาเช็คออกมาเซ็นชื่อให้ โจทก์หลงเชื่อจำเลยในการอวดอ้างแสดงข้อความเท็จนี้ จึงจ่ายเงินให้จำเลยกู้ยืมไปนั้น ดังนี้ เป็นความผิดฐานฉ้อโกงแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลักษณะการกู้เงินที่มีหลักประกัน (ใบรับของคลังสินค้า) และผลกระทบต่อการเป็นเจ้าหนี้มีประกันในคดีล้มละลาย รวมถึงผลของการย้ายที่อยู่เพื่อเลี่ยงหนี้
ทำหนังสือสัญญากู้เงินโจทก์ และรับเงินไปโดยนำใบรับของคลังสินค้ามามอบไว้ดังนี้ เป็นการกู้เงินโดยมีใบรับของคลังสินค้าเป็นประกัน มิใช่จำนำ และต่อมาจำเลยก็นำสินค้านั้นขายไปหมดแล้วโจทก์จึงมิใช่เจ้าหนี้มีประกันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 10
จำเลยเป็นหนี้โจทก์ แล้วจำเลยย้ายที่อยู่หลายคราวเป็นการถาวรเมื่อจำเลยย้ายไปโดยไม่แจ้งให้เจ้าหนี้ทราบเวลาโจทก์ฟ้องก็ส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องให้ไม่ได้ ต้องประกาศหนังสือพิมพ์ ดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยได้ไปเสียจากเคหสถานที่เคยอยู่ เพื่อประวิงการชำระหนี้ หรือมิให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ ต้องด้วยข้อสันนิษฐานว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัว ตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา8(4)ข.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในค่าเสียหายพิเศษจากการกู้เงินแทนผู้อื่น และการรับช่วงสิทธิของเจ้าหนี้
ศาลพิพากษาตามยอมให้โจทก์จำเลยร่วมกันไถ่จำนองจากเจ้าหนี้ภายในกำหนด 1 เดือนครบกำหนดโจทก์ไม่ไถ่ จำเลยจึงไปกู้เงินผู้อื่นมาไถ่โดยเสียดอกเบี้ยให้แก่ผู้ให้กู้ โจทก์ชำระเงินส่วนที่โจทก์จะต้องไถ่แต่ไม่ยอมชำระดอกเบี้ยที่จำเลยได้เสียให้แก่ผู้ให้กู้ จำเลยจึงฟ้องเรียกจากโจทก์ เงินดอกเบี้ยนั้นถือเป็นค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษ เมื่อโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมด้วยในการกู้เงินนี้ และไม่มีพฤติการณ์แสดงให้เห็นได้ว่าโจทก์ควรจะได้คาดเห็นเช่นนั้นล่วงหน้ามาก่อนแล้ว โจทก์ก็ไม่ต้องรับผิดชดใช้ให้แก่จำเลย
จำเลยฟ้องแย้งเรียกดอกเบี้ยที่จำเลยต้องกู้เงินคนอื่นมาไถ่จำนองแทนโจทก์ มิได้อ้างสิทธิเรียกร้องเอาค่าเสียหายจากโจทก์ในฐานะเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากเจ้าหนี้จำนอง ศาลจะบังคับให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยในฐานะเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากเจ้าหนี้ไม่ได้ เพราะไม่ใช่ค่าเสียหายที่จำเลยฟ้องแย้งเรียกจากโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ส่วนตัวจากการกู้เงินของภริยา: ไม่ผูกพันสินบริคณห์
หญิงมีสามีกู้เงิน ย่อมผูกพันหญิงเป็นส่วนตัว ไม่ใช่ผูกพันสินบริคณห์โดยเฉพาะ เมื่อหญิงถูกฟ้อง หญิงจะยกข้อต่อสู้ว่าสามีบอกล้างแล้วไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้เงินเพื่อดำเนินกิจการย่อมอยู่ในวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วน แม้ไม่ได้ระบุชัดในตราสาร และการใช้ตราปลอมของผู้จัดการทำให้จำเลยต้องรับผิด
การกู้เงินเพื่อให้กิจการดำเนินไปตามวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนจำกัดย่อมนับเนื่องเข้าในวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้นแม้จะไม่ระบุไว้ชัดแจ้งในตราสารจัดตั้งก็ดี
ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดลงชื่อกู้เงินแทนห้างแต่ประทับตราปลอมห้างหุ้นส่วนจำกัดก็ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 449/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อฝากที่ดินและการกู้เงิน: ศาลอนุญาตให้สืบพยานได้หากมูลหนี้เป็นไปได้
โจทย์ฟ้องว่า สามีโจทก์ได้ขายฝากที่นาไว้กับจำเลย แต่มีเงินให้ไม่ครบ จำเลยจึงทำเป็นหนังสือสัญญาขอให้ใช้เงินแก่โจทก์ไว้ ศาลจะสั่งให้งดสืบพยานโจทก์เสียหาชอบไม่ เพราะมูลหนี้ตามฟ้องย่อมเป็นไปได้ ไม่เป็นการฝืนความจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 848/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจผู้ใช้อำนาจปกครองกู้เงินแทนเด็ก: เด็กต้องรับผิดชอบหนี้เมื่อเงินใช้เพื่อประโยชน์ของตน
ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1546 (3) ไม่ได้ห้ามไม่ให้ผู้ใช้อำนาจปกครองไปกู้เงินเขาแทนเด็ก ฉะนั้นเมื่อผู้ใช้อำนาจปกครอง ไปกู้เงินเขาใช้ เพื่อประโยชน์ของเด็กแล้ว เด็กก็ต้องรับผิดต่อผู้ให้กู้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 848/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจผู้ใช้อำนาจปกครองกู้เงินแทนเด็ก: เด็กต้องรับผิดชอบหนี้เมื่อเงินถูกใช้เพื่อประโยชน์ของตน
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1546(3)ไม่ได้ห้ามไม่ให้ผู้ใช้อำนาจปกครองไปกู้เงินเขาแทนเด็ก ฉะนั้นเมื่อผู้ใช้อำนาจปกครองไปกู้เงินเขาใช้ เพื่อประโยชน์ของเด็กแล้ว เด็กก็ต้องรับผิดต่อผู้ให้กู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 160/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนใช้ชื่อบริษัทที่ยังไม่ได้จดทะเบียนกู้เงิน ความรับผิดชอบยังคงเป็นของหุ้นส่วน
สองคนเข้าหุ้นส่วนกันตั้งร้านค้า มีชื่อเป็นบริษัทบริษัทหนึ่งได้ทำสัญญากู้เงินเขา โดยหุ้นส่วนคนหนึ่งลงชื่อเป็นผู้กู้ มีผู้อื่นเป็นผู้ค้ำประกัน ต่อมาผิดนัดไม่ชำระหนี้แก่เขา ผู้ค้ำประกันต้องออกเงินใช้แทนไป ดังนี้ แม้ในสัญญากู้และ
สัญญาค้ำประกันจะใช้คำว่า บริษัทเป็นผู้กู้ก็ดี แต่บริษัทดังว่า ยังมิได้จะทะเบียนเป็นนิติบุคคล จึงไม่ทำให้ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งสองพ้นจากความรับผิดไปได้เพราะชื่อบริษัทที่กล่าวนี้ ผู้เป็นหุ้นส่วนใช้แทนชื่อของตน
นั่นเอง./
of 11