พบผลลัพธ์ทั้งหมด 206 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7066/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์: เหตุสุดวิสัยต้องมีจริง ผู้ถูกกล่าวหาต้องขวนขวายติดตามคดีด้วยตนเอง
ที่จำเลยอ้างว่า ได้มอบคดีและค่าทนายความให้ อ.ทนายความดำเนินการยื่นอุทธรณ์ให้แล้ว แต่ อ.มิได้ ยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดและไม่แจ้งให้จำเลยทราบ ทั้งจำเลยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ด้านคดี แต่จำเลยจบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ มีวุฒิภาวะพอที่จะเข้าใจได้ว่าผลของการคำพิพากษากระทบต่อเสรีภาพของตน จำเลยน่าจะต้องขวนขวายติดตามคดีเพื่อรักษาสิทธิและประโยชน์ของตนแต่กลับมิได้ใส่ใจหรือขวนขวาย ทั้งข้ออ้างว่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ด้านคดีความ ก็มิใช่เหตุที่ยกขึ้นอ้างได้ และการยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์พ้นกำหนดก็เป็นข้อผิดพลาดบกพร่องของทนายความ มิใช่เหตุสุดวิสัยจึงไม่มีเหตุที่จะขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6629/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลาอุทธรณ์: ระยะเวลาเริ่มต้นนับจากวันที่ศาลอ่านคำพิพากษา ไม่ใช่เมื่อเอกสารครบถ้วน
ที่โจทก์ฎีกาว่าสิทธิพื้นฐานในการอุทธรณ์ควรมี 30 วัน เมื่อมีเอกสารครบถ้วนนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 229 กำหนดให้คู่ความยื่นอุทธรณ์ได้ภายในเวลาหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษาหรือคำสั่ง กำหนดเวลาดังกล่าวย่อมหมายความว่าคู่ความที่ประสงค์จะอุทธรณ์ต้องดำเนินการต่าง ๆให้แล้วเสร็จตามกำหนด มิใช่เมื่อมีเอกสารครบถ้วนแล้วจึงเริ่มนับระยะเวลาอุทธรณ์ตามที่โจทก์อ้างซึ่งไม่มีบทกฎหมายบทใดสนับสนุนหากโจทก์ได้รับสำเนาเอกสารในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ตามนัด โจทก์ก็จะมีเวลาสำหรับคำฟ้องอุทธรณ์ 12 วัน ซึ่งก็เป็นไปตามที่โจทก์ขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์และน่าจะเป็นการเพียงพอแล้วสำหรับคดีที่ไม่ได้มีปัญหามากนักดังคดีนี้ การที่โจทก์อ้างว่าได้รับสำเนาเอกสารครบถ้วนในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ช้ากว่ากำหนดนัดไปเพียง 1 วัน จึงไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษที่จะเป็นเหตุสมควรขยายระยะเวลาอุทธรณ์ให้ตามที่โจทก์ขออีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5979/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ต้องมีเหตุผลสมควร การอ้างเหตุเดิมซ้ำๆ โดยไม่ปรับปรุงแก้ไข และไม่ให้ความสำคัญกับคำสั่งศาลถือเป็นความบกพร่องของฝ่ายจำเลย
ทนายจำเลยทราบวันนัดฟังคำพิพากษาของศาลชั้นต้นโดยชอบแล้วไม่มาศาล ต้องถือว่าจำเลยทราบคำพิพากษา ศาลชั้นต้นโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วตั้งแต่วันที่ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษา เมื่อนับแต่วันพิพากษาถึงวันครบกำหนดระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์แก่จำเลยในครั้งที่สองรวมแล้วเป็นเวลาถึง 86 วัน และ เมื่อทนายจำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์เป็นครั้งที่สาม ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเตือนทนายจำเลยในคำร้อง ขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ครั้งที่สามของทนายจำเลยแล้วว่าการยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์โดยอ้าง เหตุเดิมเป็นความเฉื่อยชาของจำเลย ไม่ยุติธรรมแก่ฝ่ายโจทก์ แต่ก็ยังให้โอกาสจำเลยอีกครั้ง ทนายจำเลยกลับมายื่น คำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์อีกเป็นครั้งที่สี่อ้างเหตุเดิมอย่างลอย ๆ ทั้งฎีกาของจำเลยก็ยอมรับว่า การอ้างเหตุเดิม เพื่อขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์เนื่องจากเป็นแบบพิมพ์ของพนักงานอัยการที่ใช้ร่างขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ ซึ่งในบางครั้งอาจมีข้อความที่คลาดเคลื่อนต่อข้อเท็จจริงไปเพราะความพลั้งเผลอในการตรวจสอบข้อความโดยไม่ได้อ้างว่ามีพฤติการณ์พิเศษอย่างไร เห็นได้ว่าฝ่ายจำเลยไม่ได้ให้ความสำคัญต่อคำสั่งของศาลชั้นต้นและระยะเวลายื่นอุทธรณ์ ที่ศาลชั้นต้นขยายให้ การที่จำเลยไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดที่ศาลชั้นต้นขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้ เป็นเพราะความบกพร่องของฝ่ายจำเลย จึงมิใช่พฤติการณ์พิเศษที่จะขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 554/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลาอุทธรณ์และวางค่าธรรมเนียม ศาลควรให้โอกาสชำระค่าธรรมเนียมก่อนสั่งไม่รับอุทธรณ์
โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ไปถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน2541 ต่อมาวันที่ 10 พฤศจิกายน 2541 โจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ และเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่จำเลยทั้งสามตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นออกไปอีก 15 วัน แต่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องและสั่งไม่รับอุทธรณ์ไปพร้อมกันในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2541 ซึ่งยังอยู่ในระยะเวลาอุทธรณ์ตามที่ศาลชั้นต้นขยายระยะเวลาอุทธรณ์ให้ ดังนี้ แม้ศาลชั้นต้นจะเห็นควรยกคำร้องขอขยายระยะเวลาการวางเงินค่าธรรมเนียมของโจทก์ แต่เมื่อยังไม่พ้นกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นควรให้โอกาสแก่โจทก์ทั้งสองชำระหรือวางเงินดังกล่าวให้ถูกต้องครบถ้วนภายในระยะเวลาอุทธรณ์ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2679/2544 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์กรณีคำพิพากษาล่าช้า: พฤติการณ์พิเศษที่ศาลควรพิจารณา
การเรียงอุทธรณ์จะต้องตรวจดูข้อความในคำพิพากษาศาลชั้นต้น เพื่อหาข้อโต้แย้งทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ศาลชั้นต้นหยิบยกขึ้นวินิจฉัย มิฉะนั้นอาจไม่เป็นคำฟ้องอุทธรณ์ตามกฎหมาย ผู้อุทธรณ์จึงจำต้องมีสำเนาคำพิพากษาศาลชั้นต้นไว้ประกอบการเรียงอุทธรณ์ เมื่อคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ของโจทก์ที่ยื่นต่อศาลชั้นต้นในวันสุดท้ายของระยะเวลาอุทธรณ์ได้อ้างเหตุที่โจทก์ไม่อาจยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดว่า โจทก์ได้ขอคัดคำพิพากษาไว้แล้ว เพิ่งพิมพ์แล้วเสร็จและได้รับในวันนั้น จึงเป็นเรื่องนอกเหนือการบังคับของโจทก์ การที่โจทก์เพิ่งได้รับสำเนาคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่เพิ่งพิมพ์แล้วเสร็จ ถือเป็นกรณีที่มีพฤติการณ์พิเศษ ศาลชอบที่จะขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้โจทก์ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 23
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2679/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์: พฤติการณ์พิเศษจากการได้รับสำเนาคำพิพากษาล่าช้า
การเรียงอุทธรณ์จะต้องตรวจดูข้อความในคำพิพากษาศาลชั้นต้น เพื่อหาข้อโต้แย้งทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ศาลชั้นต้นหยิบยกขึ้นวินิจฉัย มิฉะนั้นอาจไม่เป็นคำฟ้องอุทธรณ์ตามกฎหมาย ผู้อุทธรณ์จึงจำต้องมีสำเนาคำพิพากษาศาลชั้นต้นไว้ประกอบการเรียงอุทธรณ์ เมื่อคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ของโจทก์ที่ยื่นต่อศาลชั้นต้นในวันสุดท้ายของระยะเวลาอุทธรณ์ได้อ้างเหตุที่โจทก์ไม่อาจยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดว่าโจทก์ได้ขอคัดคำพิพากษาไว้แล้ว เพิ่งพิมพ์แล้วเสร็จและได้รับในวันนั้น จึงเป็นเรื่องนอกเหนือการบังคับของโจทก์ การที่โจทก์เพิ่งได้รับสำเนาคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่เพิ่งพิมพ์แล้วเสร็จ ถือเป็นกรณีที่มีพฤติการณ์พิเศษ ศาลชอบที่จะขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้โจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2679/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลาอุทธรณ์กรณีคำพิพากษาล่าช้า: เหตุพิเศษนอกเหนือการควบคุมของโจทก์
การเรียงอุทธรณ์จะต้องตรวจดูข้อความในคำพิพากษาศาลชั้นต้นเพื่อหาข้อโต้แย้งทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ศาลชั้นต้นหยิบยกขึ้นวินิจฉัย ผู้อุทธรณ์จึงจำต้องมีสำเนาคำพิพากษาศาลชั้นต้นไว้ประกอบการเรียงอุทธรณ์ เมื่อคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ของโจทก์ที่ยื่นต่อศาลชั้นต้นในวันสุดท้ายของระยะเวลาอุทธรณ์ อ้างเหตุที่โจทก์ไม่อาจยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดว่า โจทก์ได้ขอคัดคำพิพากษาไว้แล้วเพิ่งพิมพ์แล้วเสร็จและได้รับในวันนั้น จึงเป็นเรื่องนอกเหนือการบังคับของโจทก์ ถือเป็นกรณีที่มีพฤติการณ์พิเศษที่จะขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้โจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1845/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมและประกันตามคำสั่งศาล การไม่ยื่นคำร้องภายในกำหนดและการขาดเหตุสุดวิสัย
จำเลยจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของศาลชั้นต้นภายในวันที่ 21 มีนาคม 2544แต่จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาในวันที่ 11 เมษายน 2544 โดยจำเลยแสดงไม่ได้ว่าเป็นกรณีมีเหตุสุดวิสัยแต่อย่างใด โดยเฉพาะใบสำคัญความเห็นแพทย์ท้ายคำร้องก็ระบุว่าพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลถึงวันที่ 18 มีนาคม 2544 เท่านั้นดังนั้น กรณีจึงไม่มีเหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1794/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ต้องเป็นไปตามกฎหมายและเหตุผลที่สมควร มิอาจใช้ความผิดพลาดของผู้ร้องหรือคำสั่งศาลที่ผิดพลาดมาเป็นประโยชน์
จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ครั้งแรกศาลชั้นต้นอนุญาตให้ถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2542 จำเลยไม่ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ภายในเวลาดังกล่าว ครั้นวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2542 จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์เป็นครั้งที่ 2 โดยมิได้อ้างเหตุสุดวิสัยแม้ศาลชั้นต้นได้รับคำร้องของจำเลยไว้พิจารณาและมีคำสั่งอนุญาตแล้วก็เป็นการสั่งไปโดยผิดหลง หาเป็นการถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายไม่ เพราะการใช้ดุลพินิจของศาลนั้นจะต้องใช้ดุลพินิจที่ยืนอยู่บนความถูกต้องตามกฎหมายมิใช่เป็นการสั่งไปโดยผิดหลง จึงถือไม่ได้ว่า ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ให้จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1335/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลาอุทธรณ์: เหตุสุดวิสัยต้องทำให้ไม่อาจยื่นคำขอขยายได้ทัน ไม่ใช่จากความบกพร่องภายใน
การที่โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำพิพากษาเป็นเหตุให้ไม่อาจ ทำอุทธรณ์ยื่นได้ภายในกำหนด ถือได้ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 แต่ต้องยื่นขอก่อนสิ้นระยะเวลาที่กำหนด โจทก์เพิกเฉยมิได้ยื่นคำขอขยายระยะเวลา เสียก่อนสิ้นระยะเวลาโดยอ้างว่าเข้าใจผิดอันเกิดจากความประมาทเลินเล่อในการตรวจดูคำสั่งศาลชั้นต้นของเสมียนทนายโจทก์ เหตุดังกล่าวนี้ เป็นเรื่องความบกพร่องภายในของโจทก์เอง ยังไม่อาจถือได้ว่า เป็นเหตุสุดวิสัยตามความหมายของมาตรา 23