คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ของกลาง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 300 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม: การโต้แย้งดุลพินิจศาลในประเด็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับของกลาง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 6 เดือน ปรับ 5,000 บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี และไม่ริบรถยนต์ของกลาง ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เฉพาะของกลางเป็นให้ริบ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่งฉะนั้น ที่จำเลยฎีกาขอให้ไม่ริบรถยนต์ขอวงกลางเนื่องจากไม้ที่จำเลยรับไว้มีปริมาตรน้อย เป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาลเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3040/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามเนื่องจากโต้เถียงดุลพินิจศาลชั้นต้นและอุทธรณ์เกี่ยวกับข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 เดือนปรับ 4,500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี และไม่ริบของกลางศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะของกลางเป็นให้ริบ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง จำเลยฎีกาขอไม่ให้ไม่ริบของกลาง เป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาล เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2831/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอริบของกลางต้องมีคำขอในฟ้อง ศาลจึงจะริบได้
โจทก์บรรยายฟ้องเกี่ยวกับของกลางไว้ แต่มิได้ขอให้ศาลมีคำสั่งริบของกลาง ศาลย่อมริบของกลางนั้นไม่ได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2234/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานการตรวจพิสูจน์ของกลาง แม้ผู้ตรวจไม่เบิกความ
แม้โจทก์จะมิได้นำผู้ตรวจพิสูจน์ของกลางมาเบิกความประกอบรายงานการตรวจพิสูจน์ของกลางเอกสารหมาย จ.2 ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 243วรรคสอง แต่โจทก์ก็ยังมีพนักงานสอบสวนมาเบิกความยืนยันว่าได้ส่งของกลางไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ ผลปรากฎว่าของกลางเป็นเฮโรอีน ดังนี้การนำสืบพยานโจทก์ดังกล่าวรับฟังได้ว่า ของกลางตามฟ้องเป็นเฮโรอีน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2234/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังผลตรวจพิสูจน์ของกลาง แม้ผู้ตรวจพิสูจน์ไม่ได้เบิกความ พยานประกอบยืนยันผลเพียงพอ
แม้โจทก์จะมิได้นำผู้ตรวจพิสูจน์ของกลางมาเบิกความประกอบรายงานการตรวจพิสูจน์ของกลางเอกสารหมาย จ.2 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 243 วรรคสองแต่โจทก์ก็ยังมีพนักงานสอบสวนมาเบิกความยืนยันว่าได้ส่งของกลางไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ ผลปรากฏว่าของกลางเป็นเฮโรอีน ดังนี้การนำสืบพยานโจทก์ดังกล่าวรับฟังได้ว่าของกลางตามฟ้องเป็นเฮโรอีน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2234/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานการตรวจพิสูจน์ของกลาง แม้ผู้ตรวจไม่เบิกความโดยตรง
แม้โจทก์จะมิได้นำผู้ตรวจพิสูจน์ของกลางมาเบิกความประกอบรายงานการตรวจพิสูจน์ของกลางเอกสารหมายจ.2ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา243วรรคสองแต่โจทก์ก็ยังมีพนักงานสอบสวนมาเบิกความยืนยันว่าได้ส่งของกลางไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ผลปรากฏว่าของกลางเป็นเฮโรอีนดังนี้การนำสืบพยานโจทก์ดังกล่าวรับฟังได้ว่าของกลางตามฟ้องเป็นเฮโรอีน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2234/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานการตรวจพิสูจน์ของกลาง แม้ผู้ตรวจไม่เบิกความโดยตรง
แม้โจทก์จะมิได้นำผู้ตรวจพิสูจน์ของกลางมาเบิกความประกอบรายงานการตรวจพิสูจน์ของกลางเอกสารหมายจ.2ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา243วรรคสองแต่โจทก์ก็ยังมีพนักงานสอบสวนมาเบิกความยืนยันว่าได้ส่งของกลางไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ผลปรากฏว่าของกลางเป็นเฮโรอีนดังนี้การนำสืบพยานโจทก์ดังกล่าวรับฟังได้ว่าของกลางตามฟ้องเป็นเฮโรอีน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1401/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการสั่งคืนของกลาง: เจ้าพนักงานป่าไม้มีอำนาจเฉพาะในการคืนของกลางที่ยึดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์พิพาทซึ่งเป็นของกลางที่เจ้าพนักงาน-ป่าไม้จับกุมพร้อมไม้แปรรูปที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่ปรากฏตัวผู้กระทำผิด รถยนต์พิพาทถูกยึดไว้เป็นของกลางในความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และอยู่ในความดูแลของเจ้าพนักงานป่าไม้ ซึ่งมิใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาของจำเลย จำเลยเป็นหัวหน้าพนักงาน-สอบสวนในคดีดังกล่าว ดังนี้ การที่เจ้าพนักงานป่าไม้เก็บรักษารถยนต์พิพาทไว้เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ที่ให้อำนาจไว้ แม้คดีอาญาดังกล่าวจะยังไม่ถึงที่สุด พนักงานสอบสวนยังมีหน้าที่สืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดต่อไปก็ตามแต่การขอคืนของกลางรถยนต์พิพาทต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484มาตรา 64 ตรี ซึ่งบัญญัติไว้เป็นพิเศษ กล่าวคือ ผู้มีอำนาจสั่งคืนของกลาง คือพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ได้แก่เจ้าพนักงานป่าไม้ จำเลยมิใช่ผู้มีอำนาจหรือหน้าที่ในการคืนของกลางรถยนต์พิพาทแก่โจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1401/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสั่งคืนของกลางในคดีป่าไม้: เจ้าพนักงานป่าไม้มีอำนาจตามกฎหมายเฉพาะ ไม่ใช่พนักงานสอบสวน
การที่เจ้าพนักงานป่าไม้จังหวัดเก็บรักษารถยนต์ของกลางซึ่งเจ้าพนักงานป่าไม้จับกุมได้พร้อมไม้แปรรูปที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายไว้เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา64ทวิวรรคหนึ่งที่ให้อำนาจไว้แม้คดีอาญาจะยังไม่ถึงที่สุดพนักงานสอบสวนยังมีหน้าที่สืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดต่อไปก็ตามแต่การขอคืนรถยนต์ของกลางก็ต้องเป็นไปตามที่พระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ.2484มาตรา64ตรีซึ่งได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้ผู้มีอำนาจสั่งคืนของกลางคือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ได้แก่เจ้าพนักงานป่าไม้จังหวัดโดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จำเลยซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนมิใช่ผู้มีอำนาจหรือหน้าที่ในการคืนรถยนต์ของกลางแก่โจทก์โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1401/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคืนของกลาง: เจ้าของรถยนต์ไม่มีสิทธิฟ้องบังคับเจ้าพนักงานสอบสวนให้คืนของกลางที่ถูกยึดในคดีป่าไม้
โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์พิพาทซึ่งเป็นของกลางที่เจ้าพนักงานป่าไม้จับกุมพร้อมไม้แปรรูปที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่ไม่ปรากฏตัวผู้กระทำผิดรถยนต์พิพาทถูกยึดไว้เป็นของกลางในความผิดตามพระราชบัญญัติ ป่าไม้และอยู่ในความดูแลของเจ้าพนักงานป่าไม้ซึ่งมิใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาของจำเลยจำเลยเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวดังนี้การที่เจ้าพนักงานป่าไม้เก็บรักษารถยนต์พิพาทไว้เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ที่ให้อำนาจไว้แม้คดีอาญาดังกล่าวจะยังไม่ถึงที่สุดพนักงานสอบสวนยังมีหน้าที่สืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดต่อไปก็ตามแต่การขอคืนของกลางรถยนต์พิพาทต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ.2484มาตรา64ตรีซึ่งบัญญัติไว้เป็นพิเศษกล่าวคือผู้มีอำนาจสั่งคืนของกลางคือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ได้แก่เจ้าพนักงานป่าไม้จำเลยมิใช่ผู้มีอำนาจหรือหน้าที่ในการคืนของกลางรถยนต์พิพาทแก่โจทก์โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
of 30