พบผลลัพธ์ทั้งหมด 72 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิเรียกร้องและการขอรับชำระหนี้ซ้ำในคดีล้มละลาย การโอนสิทธิทำให้เจ้าหนี้เดิมหมดสิทธิ
เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ยอมรับเงินจำนวน 20,000 บาทที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด จ่ายทดรองให้ไป แล้วทำสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องตามตั๋วสัญญาใช้เงินซึ่งบริษัทลูกหนี้ออกให้แก่เจ้าหนี้จำนวนเงิน 100,000 บาท ให้แก่ธนาคารกรุงไทยจำกัด เพื่อให้ธนาคารฯเป็นผู้ขอรับเงินส่วนเฉลี่ยที่จะได้รับทั้งหมดจากผู้ชำระบัญชีหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เมื่อหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวเป็นหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้จะโต้เถียงอ้างว่าตนมีสิทธิตามตั๋วสัญญาใช้เงินรายนี้ส่วนที่ยังไม่ได้ชำระฝืนข้อสัญญาที่ทำให้ไว้หาได้ไม่ ทั้งธนาคารกรุงไทย จำกัดได้ใช้สิทธิยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้แล้ว เจ้าหนี้ไม่มีสิทธินำตั๋วสัญญาใช้เงินรายนี้มาขอรับชำระหนี้ซ้ำอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ที่เกิดขึ้นหลังรู้ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่อาจขอรับชำระในคดีล้มละลาย
เช็คที่ลูกหนี้เอาไปขายลดให้เจ้าหนี้เริ่มขาดความเชื่อถือเพราะขึ้นเงินไม่ได้มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2523 ก่อนที่ลูกหนี้ จะนำเช็คพิพาทมาขายลดให้เจ้าหนี้ในเดือนตุลาคม 2523 โดยเช็คเหล่านั้นลูกหนี้เป็นผู้ลงชื่อสลักหลังซึ่งลูกหนี้จะต้องร่วมกับ ผู้สั่งจ่ายรับผิดต่อเจ้าหนี้แต่ลูกหนี้ก็มิได้ชำระ จึงถือได้ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้ว การที่เจ้าหนี้ยินยอมซื้อลดเช็คพิพาทไว้อีก ย่อมเห็นได้ว่าเจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้ก่อหนี้ขึ้นทั้งๆที่เจ้าหนี้รู้ถึง การที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว จึงเป็นหนี้ที่ไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ ตามมาตรา 94(2) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 538/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ที่เกิดจากความรู้ฐานะหนี้สินล้นพ้นตัวของลูกหนี้ ไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้
การที่เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้จ่ายเงินให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเดียวกัน มีจำเลยที่ 2 เป็นประธานกรรมการด้วยกัน และมีสมุหบัญชีคนเดียวกัน ผู้ขอรับชำระหนี้ย่อมต้องทราบถึงฐานะการเงินของจำเลยที่ 1 เป็นอย่างดีว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัว การจ่ายเงินของผู้ขอรับชำระหนี้ไปนั้นเป็นหนี้ซึ่งเจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวเป็นหนี้ที่ไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3365/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ที่เกิดขึ้นเมื่อรู้ถึงการมีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย
การที่ธนาคารเจ้าหนี้ให้ลูกหนี้ (จำเลย) ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีไปในขณะที่ลูกหนี้ยังมิได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมให้แก่ธนาคารเจ้าหนี้และลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้ แม้ธนาคารเจ้าหนี้จะเชื่อถือหลักประกันของลูกหนี้ก็เป็นที่เห็นได้ว่าลำพังเฉพาะตัวของลูกหนี้ไม่อยู่ในฐานะที่จะชำระหนี้ตามสัญญากู้เงินเกินบัญชีให้แก่ธนาคารเจ้าหนี้ได้ หนี้รายนี้จึงเป็นหนี้ที่ธนาคารเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อธนาคารเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ธนาคาร เจ้าหนี้จึงไม่อาจขอรับชำระหนี้รายนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา94(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2254/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: มูลหนี้ตามเช็ค vs. หนี้กู้ยืม
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายโดยอาศัยมูลหนี้ตามเช็คซึ่งจำเลยออกให้โจทก์เพื่อชำระหนี้เงินยืมแล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน และเมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด โจทก์ได้มายื่นคำขอรับชำระหนี้ เห็นได้ว่าโจทก์มีความประสงค์ขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้ตามเช็ค หาใช่ประสงค์ขอรับชำระหนี้ในหนี้กู้ยืมไม่ จึงไม่ต้องมีหลักฐานการกู้ยืมเป็นหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้กู้ยืมที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ: ไม่อาจขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายได้
ผู้ขอรับชำระหนี้ขอรับชำระหนี้เงินที่จำเลยกู้ยืมผู้ขอรับชำระหนี้ไป แต่การกู้เงินนั้นจำเลยมิได้ทำหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือให้ผู้ขอรับชำระหนี้ยึดถือไว้ จำเลยเพียงแต่ออกเช็คให้ผู้ขอรับชำระหนี้ยึดถือไว้เท่านั้นเช็คที่จำเลยออกให้ผู้ขอรับชำระหนี้ยึดถือไว้ไม่มีคำว่ากู้หรือยืม และข้อความในเช็คก็ไม่มีเค้าว่าเป็นการกู้ยืม สภาพของเช็คก็เป็นการใช้เงินไม่ใช่การกู้ยืมเช็คที่จำเลยออกให้ผู้ขอรับชำระหนี้จึงไม่ใช่เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืม เมื่อผู้ขอรับชำระหนี้ไม่มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยผู้กู้มาแสดง หนี้ที่ขอรับชำระจึงเป็นหนี้ที่จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653ดังนั้นผู้ขอรับชำระหนี้จะขอรับชำระหนี้เงินกู้รายนี้ไม่ได้เพราะต้องห้ามตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 94(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1595/2503 และ 997/2510)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2825/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ที่เกิดจากการให้กู้ยืมหลังจากลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว เจ้าหนี้ไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย
การที่จำเลยเป็นหนี้ธนาคารเจ้าหนี้ 691,591.43 บาท จำเลยไม่สามารถชำระหนี้ได้จนธนาคารเจ้าหนี้ต้องหักเงินในบัญชีเงินฝากประจำซึ่งเป็นหลักประกันตามข้อตกลง ทั้งหมดจำนวน 400,118.98 บาท ชำระหนี้แล้วก็ยังขาดอยู่อีกถึง 291,472.54 บาท หลังจากนั้นอีก 7 วัน ธนาคารเจ้าหนี้ให้จำเลยที่ 2 กู้เงินอีกเป็นจำนวนถึง 403,000 บาท โดยเพียงแต่ให้จำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงินทั้งหมดคืนภายใน 2 วันนับแต่วันกู้โดยไม่มีหลักประกันอย่างอื่นนอกจากตั๋วสัญญาใช้เงิน ดังนี้ ถือว่าเป็นหนี้ที่ธนาคารเจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวจึงไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 94(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2825/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ที่เกิดจากการให้กู้ยืมหลังจากรู้ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย
การที่จำเลยเป็นหนี้ธนาคารเจ้าหนี้ 691,591.43 บาทจำเลยไม่สามารถชำระหนี้ได้จนธนาคารเจ้าหนี้ต้องหักเงินในบัญชีเงินฝากประจำซึ่งเป็นหลักประกันตามข้อตกลงทั้งหมดจำนวน 400,118.98 บาท ชำระหนี้แล้วยังขาดอยู่อีกถึง 291,472.54 บาท หลังจากนั้นอีก 7 วัน ธนาคารเจ้าหนี้ให้จำเลยที่ 2 กู้เงินอีกเป็นจำนวนถึง 403,000 บาท โดยเพียงแต่ให้จำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงินทั้งหมดคืนภายใน 2 วันนับแต่วันกู้โดยไม่มีหลักประกันอย่างอื่น นอกจากตั๋วสัญญาใช้เงิน ดังนี้ ถือว่าเป็นหนี้ที่ธนาคารเจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว จึงไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย มาตรา 94(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2229/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดภูมิลำเนาเจ้าหนี้เพื่อขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: สำนักงานใหญ่เป็นหลัก
กำหนดเวลาที่เจ้าหนี้จะขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 91 นั้น ต้องถือเอาที่อยู่ของเจ้าหนี้เป็นสำคัญว่าอยู่นอกหรือในราชอาณาจักร ถ้าอยู่ในราชอาณาจักรต้องยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดเวลาสองเดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ถ้าอยู่นอกราชอาณาจักรเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะขยายกำหนดเวลาให้อีกได้ไม่เกินสองเดือน ส่วนสัญชาติของเจ้าหนี้หรือสถานที่ที่หนี้เกิดขึ้นไม่เป็นข้อสำคัญ
เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้เป็นนิติบุคคลซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพมหานคร ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 71 ให้ถือเอาที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่เป็นภูมิลำเนาของนิติบุคคลนั้น ส่วนที่ตั้งของสำนักงานสาขาจะถือว่าเป็นภูมิลำเนาได้มีเฉพาะแต่กิจการซึ่งจะต้องทำ ณ ที่ตั้งสำนักงานสาขาเท่านั้น เมื่อการขอรับชำระหนี้รายนี้จะต้องทำ ณ ที่สำนักงานใหญ่ เจ้าหนี้ก็ไม่อาจยกภูมิลำเนาของสาขาต่างประเทศขึ้นมากล่าวอ้างเพื่อใช้สิทธิในฐานะเป็นเจ้าหนี้ที่อยู่นอกราชอาณาจักรได้
เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้เป็นนิติบุคคลซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพมหานคร ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 71 ให้ถือเอาที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่เป็นภูมิลำเนาของนิติบุคคลนั้น ส่วนที่ตั้งของสำนักงานสาขาจะถือว่าเป็นภูมิลำเนาได้มีเฉพาะแต่กิจการซึ่งจะต้องทำ ณ ที่ตั้งสำนักงานสาขาเท่านั้น เมื่อการขอรับชำระหนี้รายนี้จะต้องทำ ณ ที่สำนักงานใหญ่ เจ้าหนี้ก็ไม่อาจยกภูมิลำเนาของสาขาต่างประเทศขึ้นมากล่าวอ้างเพื่อใช้สิทธิในฐานะเป็นเจ้าหนี้ที่อยู่นอกราชอาณาจักรได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1318/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภูมิลำเนาบริษัทต่างประเทศในไทยกับการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย
บริษัทต่างประเทศซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่นอกราชอาณาจักร ขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย เมื่อบริษัทนั้นมีสาขาสำนักงานในประเทศไทย และหนี้นั้นเป็นหนี้ที่เกิดแต่การที่จำเลยซื้อสินค้าจากสาขาสำนักงานของบริษัท ซึ่งถือได้ว่าบริษัทนั้นมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทยด้วยตามประมวลกฎฆมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 71 วรรค 2 การขอรับชำระหนี้ในกรณีเช่นนี้ไม่จำต้องพิสูจน์ตามเงื่อนไขในมาตรา 178 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483