พบผลลัพธ์ทั้งหมด 114 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2283/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน: สิทธิครอบครองเกิดขึ้นเมื่อชำระราคาครบถ้วน การครอบครองก่อนชำระราคาครบถ้วนเป็นการครอบครองแทน
โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญจาก ช.โดยสัญญามีข้อความว่า "ตามราคาเงินผู้ซื้อได้ตกลงชำระให้กับผู้ขาย 2,000 บาทถ้วน เหลือค้างอยู่ 6,000 บาท ผู้ซื้อยอมชำระให้กับผู้ขายเมื่อทำการโอนกันให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว" และมีบันทึกในสัญญาว่า "วันที่ 29 ตุลาคม 2507 ให้ไว้อีก 1,500 บาท" ดังนี้สัญญาระหว่าง ช. กับโจทก์ เป็นเพียงสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพิพาทเมื่อโจทก์ยังไม่ได้ชำระราคาที่เหลือให้ ช. แม้โจทก์จะครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทมานานเพียงไรก็ยังไม่ได้สิทธิครอบครอง เพราะการครอบครองของโจทก์เป็นการครอบครองแทน ช. โจทก์จึงไม่มีสิทธิบังคับให้จำเลยซึ่งเป็นทายาทของ ช. จดทะเบียนโอนสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2283/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน: สิทธิครอบครองเกิดขึ้นเมื่อชำระราคาครบถ้วน การครอบครองก่อนชำระราคาครบถ้วนเป็นการครอบครองแทน
โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญจาก ช.โดยสัญญามีข้อความว่า "ตามราคาเงินผู้ซื้อได้ตกลงชำระให้กับผู้ขาย 2,000 บาทถ้วน เหลือค้างอยู่ 6,000 บาท ผู้ซื้อยอมชำระให้กับผู้ขายเมื่อทำการโอนกันให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว" และมีบันทึกในสัญญาว่า "วันที่ 29 ตุลาคม 2507 ให้ไว้อีก 1,500 บาท" ดังนี้สัญญาระหว่าง ช. กับโจทก์ เป็นเพียงสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพิพาทเมื่อโจทก์ยังไม่ได้ชำระราคาที่เหลือให้ ช. แม้โจทก์จะครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทมานานเพียงไรก็ยังไม่ได้สิทธิครอบครองเพราะการครอบครองของโจทก์เป็นการครอบครองแทน ช. โจทก์จึงไม่มีสิทธิบังคับให้จำเลยซึ่งเป็นทายาทของ ช. จดทะเบียนโอนสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของรวม - การครอบครองแทน - สิทธิความเป็นเจ้าของ - อายุความ
โจทก์ซื้อที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์จากผู้มีชื่อซึ่งเป็นเจ้าของร่วมกันกับจำเลยโดยยังมิได้มีการแบ่งแยกกันเป็นส่วนสัด โจทก์ย่อมเข้าเป็นเจ้าของรวมในที่ดินดังกล่าวร่วมกับจำเลย การที่จำเลยครอบครองที่ดินทั้งแปลงจึงเป็นการครอบครองแทนโจทก์ แม้โจทก์จะมิได้เข้าครอบครองที่ดินนั้นเกินกว่า 1 ปีก็ตาม ก็ไม่ขาดสิทธิความเป็นเจ้าของ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของรวม - ครอบครองแทน - อายุความ - สิทธิความเป็นเจ้าของ - ที่ดิน
โจทก์ซื้อที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์จากผู้มีชื่อซึ่งเป็นเจ้าของร่วมกันกับจำเลยโดยยังมิได้มีการแบ่งแยกกันเป็นส่วนสัด โจทก์ย่อมเข้าเป็นเจ้าของรวมในที่ดินดังกล่าวร่วมกับจำเลย การที่จำเลยครอบครองที่ดินทั้งแปลงจึงเป็นการครอบครองแทนโจทก์ แม้โจทก์จะมิได้เข้าครอบครองที่ดินนั้นเกินกว่า 1 ปีก็ตาม ก็ไม่ขาดสิทธิความเป็นเจ้าของ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 80/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองทรัพย์มรดกโดยผู้จัดการมรดกย่อมถือเป็นการครอบครองแทนทายาท ทำให้อายุความไม่เริ่มนับ
โจทก์จำเลยเป็นทั้งทายาทและผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลการที่จำเลยครอบครองทรัพย์มรดกจึงเป็นเรื่องผู้จัดการมรดกครอบครองทรัพย์มรดกแทนโจทก์ที่เป็นทายาทด้วยจำเลยจะอ้างอายุความมรดกมาตัดฟ้องมิให้โจทก์ซึ่งเป็นทายาทฟ้องขอแบ่งมรดกซึ่งจำเลยครอบครองอยู่หาได้ไม่.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950-953/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลคำพิพากษาถึงที่สุดผูกพันคู่ความ การครอบครองแทนผู้ชนะคดี และอายุความครอบครองปรปักษ์
เดิมจำเลยที่ 3 และที่ 5 เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ ว.ออกจากที่พิพาทศาลพิพากษายกฟ้อง โดยฟังข้อเท็จจริงว่าที่พิพาทเป็นของฉ. ภริยา ว.ไม่ใช่ของจำเลย ที่3 และที่ 5 คดีถึงที่สุดแล้วหลังจากนั้นจำเลยทั้งหกว. และ ฉ. ก็ยังคงอาศัยอยู่ในที่พิพาทโดยจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4และที่ 6 อาศัยสิทธิจำเลยที่ 3 และที่ 5 ปลูกสร้างอยู่อาศัยในที่พิพาทด้วย ต่อมาโจทก์ได้รับโอนสิทธิครอบครองที่พิพาทจากฉ. และฟ้องขับไล่จำเลยทั้งหกให้ออกไปจากที่พิพาทเป็นคดีนี้ดังนี้ ผลแห่งคำพิพากษาซึ่งถึงที่สุดในคดีก่อนย่อมผูกพันจำเลยที่ 3 และที่ 5 ในคดีนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 การครอบครองที่พิพาทของจำเลยหลังจากศาลพิพากษาถึงที่สุดถือว่าเป็นการครอบครองแทนผู้ชนะคดี จึงต้องถือว่าจำเลยทั้งหกอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิของ ฉ.
ตามคำให้การจำเลยไม่ปรากฏว่าจำเลยคนใดได้มีการบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือเพื่อตนไปยังผู้ครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381เพื่อการเริ่มต้นนับระยะเวลาแย่งการครอบครองโดยมิชอบตามมาตรา1375 เป็นประเด็นไว้จำเลยที่ 3 และที่ 5 จึงไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ฉ.เจ้าของผู้ครอบครองที่พิพาทคนเดิมและโจทก์ผู้รับโอนซึ่งสิทธิและหน้าที่ในที่พิพาทจากเจ้าของเดิมได้
ตามคำให้การจำเลยไม่ปรากฏว่าจำเลยคนใดได้มีการบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือเพื่อตนไปยังผู้ครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381เพื่อการเริ่มต้นนับระยะเวลาแย่งการครอบครองโดยมิชอบตามมาตรา1375 เป็นประเด็นไว้จำเลยที่ 3 และที่ 5 จึงไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ฉ.เจ้าของผู้ครอบครองที่พิพาทคนเดิมและโจทก์ผู้รับโอนซึ่งสิทธิและหน้าที่ในที่พิพาทจากเจ้าของเดิมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950-953/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลคำพิพากษาผูกพันคู่ความเดิม การครอบครองหลังคำพิพากษาถือเป็นการครอบครองแทนเจ้าของเดิม สิทธิครอบครองและการซื้อขาย
เดิมจำเลยที่ 3 และที่ 5 เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ ว.ออกจากที่พิพาทศาลพิพากษายกฟ้อง โดยฟังข้อเท็จจริงว่าที่พิพาทเป็นของฉ.ภริยาว. ไม่ใช่ของจำเลย ที่3 และที่ 5 คดีถึงที่สุดแล้วหลังจากนั้นจำเลยทั้งหกว.และฉ. ก็ยังคงอาศัยอยู่ในที่พิพาทโดยจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 และที่ 6 อาศัยสิทธิจำเลยที่ 3 และที่ 5 ปลูกสร้างอยู่อาศัยในที่พิพาทด้วยต่อมาโจทก์ได้รับโอนสิทธิครอบครองที่พิพาทจากฉ. และฟ้องขับไล่จำเลยทั้งหกให้ออกไปจากที่พิพาทเป็นคดีนี้ดังนี้ ผลแห่งคำพิพากษาซึ่งถึงที่สุดในคดีก่อนย่อมผูกพันจำเลยที่ 3 และที่ 5 ในคดีนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 การครอบครองที่พิพาทของจำเลยหลังจากศาลพิพากษาถึงที่สุดถือว่าเป็นการครอบครองแทนผู้ชนะคดี จึงต้องถือว่าจำเลยทั้งหกอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิของ ฉ. ตามคำให้การจำเลยไม่ปรากฏว่าจำเลยคนใดได้มีการบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือเพื่อตนไปยังผู้ครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381เพื่อการเริ่มต้นนับระยะเวลาแย่งการครอบครองโดยมิชอบตามมาตรา1375 เป็นประเด็นไว้จำเลยที่ 3 และที่ 5 จึงไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ฉ. เจ้าของผู้ครอบครองที่พิพาทคนเดิมและโจทก์ผู้รับโอนซึ่งสิทธิและหน้าที่ในที่พิพาทจากเจ้าของเดิมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3417/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองแทนโจทก์และการเปลี่ยนลักษณะการครอบครองที่ดิน การยึดถือแทนไม่ทำให้ได้สิทธิครอบครอง
พระภิกษุว. ขอเข้าทำนาพิพาทของโจทก์ ต่อมาพระภิกษุ ว.ให้ พ. และจำเลยทำนาพิพาทแทนการครอบครองนาพิพาทของ พ. และจำเลยเป็นการครอบครองแทนโจทก์ แม้ต่อมาพระภิกษุ ว. และ พ. มรณภาพและตายลง จำเลยทำนาเรื่อยมาก็ถือได้ว่าครอบครองนาพิพาทแทนโจทก์หาได้สิทธิครอบครองไม่
พระภิกษุ ว. ยึดถือนาพิพาทแทนโจทก์ เพียงแต่การที่พระภิกษุ ว. ไปขอออก น.ส.3 ก. ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการบอกกล่าวแสดงเจตนาเปลี่ยนลักษณะแห่งการครอบครองต่อโจทก์แม้พระภิกษุ ว. ทำนาพิพาทมาช้านานเพียงไรก็ไม่ได้สิทธิครอบครอง โจทก์ย่อมเรียกร้องให้คืนนาพิพาทได้
พระภิกษุ ว. ยึดถือนาพิพาทแทนโจทก์ เพียงแต่การที่พระภิกษุ ว. ไปขอออก น.ส.3 ก. ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการบอกกล่าวแสดงเจตนาเปลี่ยนลักษณะแห่งการครอบครองต่อโจทก์แม้พระภิกษุ ว. ทำนาพิพาทมาช้านานเพียงไรก็ไม่ได้สิทธิครอบครอง โจทก์ย่อมเรียกร้องให้คืนนาพิพาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3417/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองแทนเจ้าของ และการเปลี่ยนลักษณะการครอบครองที่ดิน: สิทธิในที่ดินยังคงเป็นของเจ้าของเดิม
พระภิกษุว. ขอเข้าทำนาพิพาทของโจทก์ ต่อมาพระภิกษุ ว.ให้ พ. และจำเลยทำนาพิพาทแทนการครอบครองนาพิพาทของ พ. และจำเลยเป็นการครอบครองแทนโจทก์ แม้ต่อมาพระภิกษุ ว. และ พ. มรณภาพและตายลง จำเลยทำนาเรื่อยมาก็ถือได้ว่าครอบครองนาพิพาทแทนโจทก์หาได้สิทธิครอบครองไม่ พระภิกษุ ว. ยึดถือนาพิพาทแทนโจทก์ เพียงแต่การที่ พระภิกษุ ว. ไปขอออก น.ส.3 ก. ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการบอกกล่าวแสดงเจตนาเปลี่ยนลักษณะแห่งการครอบครองต่อโจทก์แม้พระภิกษุ ว. ทำนาพิพาทมาช้านานเพียงไรก็ไม่ได้สิทธิครอบครองโจทก์ย่อมเรียกร้องให้คืนนาพิพาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3475/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วมและการครอบครองแทน การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยการครอบครอง
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าบุตรของโจทก์มีกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยในที่ดินพิพาท การครอบครองที่ดินพิพาทของจำเลยจึงเป็นการครอบครองแทนบุตรของโจทก์ ทั้งปรากฏจากจดหมายของจำเลยว่าจำเลยลงชื่อในโฉนดที่ดินพิพาทแทนหุ้นส่วนเท่านั้น แสดงว่าจำเลยมิได้มีเจตนาจะครอบครองที่พิพาทอย่างเป็นเจ้าของ จำเลย จึงไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382