คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความผิดต่อส่วนตัว

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 65 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องของโจทก์ร่วมในคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัว ย่อมระงับสิทธิฟ้องของอัยการ
อัยการและผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมกันฟ้องคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวอันยอมความกันได้ เมื่อผู้เสียหายซึ่งร้องทุกข์และเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้ขอถอนคำร้องทุกข์และขอถอนฟ้องสิทธิฟ้องคดีของอัยการย่อมระงับไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(2) ศาลต้องพิพากษายกฟ้องของอัยการเสียด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 66/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดอาญาแผ่นดินตาม ม.247 ผู้เสียหายไม่มีอำนาจถอนคดี แม้เหตุเกิดในที่ส่วนตัว
อาญา ม.243 เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่ใช่ความผิดต่อส่วนตัว ผู้เสียหายไม่มีอำนาจถอนคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวในชั้นศาลฎีกา ทำให้คดีระงับ
ในคดีอาญาที่เป็นความผิดต่อส่วนตัวซึ่งอัยยการเป็นโจทก์ฟ้องคดี เมื่อเจ้าทุกข์มาร้องขอถอนคดีในชั้นศาลฏีกาแสดงการยอมความและจำเลยไม่คัดค้านแล้วศาลฎีกาก็สั่งให้คดีระงับและจำหน่ายคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความความผิดต่อส่วนตัว: มาตรา 80 เป็นบทกำหนดอายุความส่วนตัวที่สั้นกว่ามาตรา 78
คดีความผิดต่อส่วนตัว ถ้าพ้นกำหนดอายุความตามมาตรา 78 แล้ว แม้ปรากฎว่าโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าทุกข์นำคดีมาฟ้องภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้ทำก็ดี ก็ยังต้องถือว่าคดีขาดอายุความกฎหมายอาญา ม.80 เป็นบทอยู่ภายในบังคับของกฎหมายอาญา ม.78 โดยเป็นแต่บทกำหนดอายุความส่วนตัวให้สั้นเข้ามา
อ้างฎีกาที่ 596/2474

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 976/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมความในคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวมีผลระงับสิทธิฟ้องร้องได้ แม้ไม่ทำเป็นหนังสือ
คดีความผิดต่อส่วนตัว+เจ้าทุกข์ผู้เสียหายยอมค่าทำขวัญจากจำเลยจะพูดว่ายอมเลิกคดีแล้ว+ ถือได้ว่าได้มีการยอมความกันโดยชอบแล้วสิทธิฟ้องร้องย่อมระงับไป+ยอมความในคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวนั้นไม่จำต้องทำเป็นหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความความผิดต่อส่วนตัว: การแจ้งความล่าช้าเกิน 3 เดือน ทำให้คดีขาดอายุความ
+ดีความผิดต่อส่วนตัวเมื่อเจ้าทุกข์รู้เรื่องความผิดและรู้จักตัวผู้กระทำผิดแล้วไม่ร้องทุกข์เสียภายในกำหนด 3 เดือนคดีขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องว่าเจ้าทุกข์ทราบเรื่องความผิด และตัวผู้กระทำผิดในเดือนเมษายนในชั้นฎีกาโจทก์จะขอให้ศาลถือตามคำเบิกความของเจ้าทุกข์ว่าเจ้าทุกข์ทราบเรื่องความผิดและรู้ตัวผู้ทำผิดในเดือนสิงหาคม โดยโจทก์มิได้ขออนุญาตแก้ฟ้องเสียแต่ในศาลชั้นต้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาต่อส่วนตัวต้องมีการร้องทุกข์ก่อน หากไม่มี ศาลไม่รับพิจารณา
ในคดีที่หนักงานอัยยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำผิดหลายอย่างทั้งความผิดต่อส่วนตัวและความผิดอาญาแผ่นดิน เมื่อไม่ปรากฎ++ฟ้องโดยชัดเจนว่าความผิดต่อส่วนตัวนั้นผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ขอให้นำคดีขึ้นว่ากล่าวแล้ว แม้จะกล่าวในฟ้องว่าได้มีการสอบสวนแล้วก็ตามศาลจะรับพิจารณาความผิดต่อส่วนตัวนั้นมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6793/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องคดีอาญาหลังศาลอุทธรณ์เปลี่ยนฐานความผิดเป็นความผิดต่อส่วนตัว โจทก์มีสิทธิถอนฟ้องได้ก่อนคดีถึงที่สุด
แม้โจทก์ฟ้องจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์ซึ่งเป็นคดีความผิดต่อแผ่นดิน แต่เมื่อศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วได้ความว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานฉ้อโกงและลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสาม และยังไม่มีคำพิพากษาศาลสูงเปลี่ยนแปลงแก้ไข กรณีย่อมถือว่าคดีนี้เป็นความผิดต่อส่วนตัว ซึ่งโจทก์ชอบที่จะถอนฟ้องในเวลาใดก่อนคดีถึงที่สุดก็ได้ เมื่อโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องโดยจำเลยไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ และสิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5868/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมความระหว่างดำเนินคดีอาญา ส่งผลให้คดีความผิดต่อส่วนตัวระงับตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 265, 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 265, 341 ลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 265 เป็นบทหนักที่สุดตาม ป.อ. มาตรา 90 จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายกฟ้อง ตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาศาลสูงเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาศาลชั้นต้น ถือว่าจำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 341 ซึ่งเป็นความผิดต่อส่วนตัว ระหว่างพิจารณาศาลอุทธรณ์ภาค 5 คดียังไม่ถึงที่สุด โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องอ้างว่า จำเลยได้บรรเทาผลร้ายให้แก่โจทก์แล้ว คณะกรรมการโจทก์มีมติให้ถอนฟ้องจำเลยและไม่ติดใจว่ากล่าวคดีนี้อีก จำเลยไม่คัดค้านและท้ายคำร้องลงลายมือชื่อจำเลยไว้ด้วย คำร้องขอถอนฟ้องโจทก์เป็นการยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมาย สิทธินำคดีอาญาในความผิดตาม ป.อ. มาตรา 341 ระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9213/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำร้องทุกข์ในคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวหลังศาลเปลี่ยนข้อกล่าวหา
แม้ความผิดที่โจทก์ฟ้องคือความผิดฐานปลอมเอกสารและลักทรัพย์จะเป็นความผิดอาญาต่อแผ่นดิน แต่เมื่อศาลพิจารณาแล้วได้ความว่าข้อเท็จจริงคดีนี้เป็นความผิดฐานยักยอกและศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสาม ก็ต้องถือว่าคดีนี้เป็นความผิดฐานยักยอกอันเป็นคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัว โจทก์ร่วมย่อมถอนคำร้องทุกข์ในเวลาใดก่อนคดีถึงที่สุดได้ เมื่อจำเลยไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้โจทก์ร่วมถอนคำร้องทุกข์และสิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (2)
of 7