คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความสุจริต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 83 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2354/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างลูกจ้างหลังศาลอนุญาต: ผลผูกพันตามคำสั่งศาลและความสุจริตของนายจ้าง
ก่อนจำเลยเลิกจ้างโจทก์ซึ่งเป็นกรรมการลูกจ้าง จำเลย ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแรงงานกลางขออนุญาตเลิกจ้างโจทก์ เป็นการปฏิบัติถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการแล้ว เมื่อศาลแรงงานกลางอนุญาตให้จำเลยเลิกจ้างโจทก์ได้จำเลยจึง มีคำสั่งเลิกจ้างโจทก์แม้คำพิพากษาศาลแรงงานกลางที่อนุญาต ให้จำเลยเลิกจ้างโจทก์จะยังไม่ถึงที่สุดคำพิพากษาดังกล่าว ก็ย่อมมีผลใช้บังคับได้และผูกพันคู่ความเพราะยังไม่มีคำพิพากษาของศาลที่สูงกว่ามาเปลี่ยนแปลงการกระทำของจำเลย จึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 786/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในเครื่องหมายการค้า: ผู้ใช้ก่อนมีสิทธิเหนือผู้จดทะเบียนภายหลัง แม้จะจดทะเบียนก่อน
โจทก์เป็นผู้คิดเครื่องหมายการค้าขึ้นใช้กับสินค้าของตนได้ จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวในต่างประเทศไว้หลายประเทศ ทั้งได้โฆษณาและขายสินค้าโดยใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวก่อนจำเลยประมาณ 20 ปี จำเลยจึงไม่อาจอ้างความสุจริตและได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวในประเทศไทยก่อนโจทก์เพื่อแสดงว่าจำเลยมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าดังกล่าวดีกว่าโจทก์ ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 มาตรา 41 (1)
เครื่องหมายการค้า DYNAMO กับ DYNAMIC นั้น เมื่อนำมาใช้กับสินค้าจำพวกเดียวกันสำเนียงสองคำหน้าเหมือนกันและตัวอักษรโรมัน 5 ตัวหน้าเหมือนกัน อักษรตัวสุดท้ายก็คล้ายคลึงกัน ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเครื่องหมายการค้าทั้งสองเกือบเหมือนกันหรือคล้ายคลึงกันอันอาจทำให้สาธารณชนเกิดความสับสนและหลงผิดได้. โจทก์จึงมีสิทธิขอให้ห้ามจำเลยมิให้ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า DYNAMIC ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 390/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิการเช่าที่ชอบด้วยกฎหมายและการเพิกถอนในคดีล้มละลาย พิจารณาความสุจริตและค่าตอบแทน
สิทธิการเช่าเป็นทรัพย์สินซึ่งมีราคาและถือเอาได้
ผู้ให้เช่า ผู้เช่าเดิมกับผู้เช่าใหม่ตกลงยินยอมกันให้มีผู้เช่าคนใหม่ต่อจากสัญญาเช่าตึกแถวเดิม ผู้เช่าเดิมเลิกสัญญา ดังนี้ เป็นการโอนสิทธิการเช่าชอบด้วยกฎหมายแล้ว
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอเพิกถอนการโอนทรัพย์สินที่ลูกหนี้ ทำระหว่าง 3 ปี ก่อนขอให้ล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 114 ผู้รับโอนมีหน้าที่นำสืบว่าได้ทำโดยสุจริต มีค่าตอบแทน ไม่เหมือนการเพิกถอนการโอนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 237 ซึ่งผู้ขอต้องนำสืบว่าโอนโดยไม่สุจริต
คดีเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอเพิกถอนการโอนเป็นคดีคำขอปลดเปลื้องทุกข์คำนวณเป็นราคาเงินไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2420/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจศาลในการอนุญาตให้ถอนฟ้อง พิจารณาความสุจริตและผลกระทบต่อคู่ความ
แม้จำเลยจะไม่ยอมให้โจทก์ถอนฟ้อง แต่การที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล โดยพิจารณาจากพฤติการณ์และเหตุผลอื่นๆ โดยทั่วไปประกอบ เช่น ความสุจริตในการดำเนินคดีของโจทก์ และผลได้ผลเสียของคู่ความเป็นต้น
จำเลยอ้างว่าใบมอบอำนาจตามสำเนาเอกสารท้ายฟ้องไม่สมบูรณ์ หากพิจารณาคดีไปแล้ว ศาลต้องยกฟ้องโจทก์เพราะเหตุนี้ ก็มิใช่เป็นเรื่องที่ศาลยกฟ้องเพราะได้วินิจฉัยในประเด็นข้อพิพาท โจทก์ย่อมนำคดีมาฟ้องใหม่ได้ ทั้งคำฟ้องก็ชอบด้วยกฎหมายแล้ว การที่โจทก์มายื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้อง ขอเพิ่มเอกสารหมายเลข 4 ท้ายฟ้องจากเดิม 1 แผ่น เป็น 24 แผ่น ภายหลังที่มีการชี้สองสถานแล้วนั้น แม้ศาลชั้นต้นจะไม่อนุญาตให้แก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง โจทก์ก็มีสิทธิที่จะอ้างอิงเอกสารเหล่านี้ในชั้นพิจารณาได้ เพราะเป็นเอกสารที่แสดงรายละเอียดประกอบเอกสารหมายเลข 4 ท้ายฟ้อง หากโจทก์จะถอนฟ้องหรือดำเนินคดีนี้ต่อไปโดยไม่ถอนฟ้อง ก็หาทำให้จำเลยได้เปรียบหรือเสียเปรียบแตกต่างจากกันไม่ จึงควรอนุญาตให้ถอนฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2420/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจศาลอนุญาตถอนฟ้อง: พิจารณาความสุจริตและผลกระทบต่อคู่ความ
แม้จำเลยจะไม่ยอมให้โจทก์ถอนฟ้อง แต่การที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล โดยพิจารณาจากพฤติการณ์และเหตุผลอื่น ๆ โดยทั่วไปประกอบเช่น ความสุจริตในการดำเนินคดีของโจทก์. และผลได้ผลเสียของคู่ความเป็นต้น
จำเลยอ้างว่าใบมอบอำนาจตามสำเนาเอกสารท้ายฟ้องไม่สมบูรณ์หากพิจารณาคดีไปแล้ว ศาลต้องยกฟ้องโจทก์เพราะเหตุนี้ก็มิใช่เป็นเรื่องที่ศาลยกฟ้องเพราะได้วินิจฉัยในประเด็นข้อพิพาท โจทก์ย่อมนำคดีมาฟ้องใหม่ได้ ทั้งคำฟ้องก็ชอบด้วยกฎหมายแล้ว การที่โจทก์มายื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้อง ขอเพิ่มเอกสารหมายเลข 4 ท้ายฟ้องจากเดิม 1 แผ่นเป็น 24 แผ่น ภายหลังที่มีการชี้สองสถานแล้วนั้น แม้ศาลชั้นต้นจะไม่อนุญาตให้แก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง โจทก์ก็มีสิทธิที่จะอ้างอิงเอกสารเหล่านี้ในชั้นพิจารณาได้ เพราะเป็นเอกสารที่แสดงรายละเอียดประกอบเอกสารหมายเลข 4ท้ายฟ้อง หากโจทก์จะถอนฟ้องหรือดำเนินคดีนี้ต่อไปโดยไม่ถอนฟ้อง ก็หาทำให้จำเลยได้เปรียบหรือเสียเปรียบแตกต่างจากกันไม่ จึงควรอนุญาตให้ถอนฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับเอกสารซื้อขายโดยรู้ว่าเป็นของผู้อื่น ทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ห้างโจทก์มิใช่ผู้สั่งซื้อสินค้ารายพิพาทและทราบอยู่แล้วว่าบริษัทผู้ขายส่งของมาโดยลงชื่อผู้รับผิดเป็นห้างโจทก์ แท้จริงเจ้าของสินค้าคือจำเลยที่ 2 แต่โจทก์ก็ยังรับใบอินวอยส์ ตั๋วแลกเงิน และใบตราส่งจากธนาคาร ถือได้ว่าโจทก์รับเอกสารต่าง ๆ ดังกล่าวไว้โดยไม่สุจริต โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ที่จะได้รับความคุ้มครองหรือรับประโยชน์จากบทกฎหมายมาตรา 614,615 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ไม่ถือเป็นการกล่าวด้วยความสุจริต
จำเลยชี้หน้าและว่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติการตามหน้าที่ว่า'ปลัดนิกรนี้จะเป็นบ้าหรืออย่างไรมาขัดขวางกลั่นแกล้งจำเลยทำงานไปโดยเลือกที่รักมักที่ชัง ไม่ให้ความเป็นธรรมพยายามกลั่นแกล้งจำเลยคนเดียวพยายามกลั่นแกล้งจำเลยมาหลายครั้งแล้ว' ถ้อยคำและกิริยาเช่นนี้เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 136 การกล่าวเช่นนี้ไม่ใช่เป็นการกล่าวในลักษณะต่อว่าด้วยความสุจริตที่จะยกขึ้นอ้างให้พ้นผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1177/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์บังคับคดี การพิสูจน์ความสุจริตของผู้บังคับคดี และการรับผิดในค่าธรรมเนียม
คู่ความทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาล โดยจำเลยที่ 1 ยอมใช้เงินแก่โจทก์ และจำเลยที่ 2 ยอมรับประกัน ศาลพิพากษาตามยอม คดีถึงที่สุด ต่อมาจำเลยผิดนัด โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์ของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกัน โดยก่อนจะยึดก็ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ขณะทำการยึดเจ้าพนักงานปิดประกาศหมายยึด จำเลยที่ 2 ก็ฉีกทำลายเสีย ทั้งได้ความว่าจำเลยที่ 1 ลูกหนี้ไม่มีทรัพย์ให้ยึดจริง เช่นนี้ คดีจึงยังไม่พอฟังว่าโจทก์แกล้งยึดโดยไม่สุจริต หรือเพราะความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงอย่างใดไม่ ฉะนั้น แม้จะมีการชำระหนี้ภายหลังครบถ้วนแล้วก็ตาม จำเลยที่ 2 ก็ต้องรับผิดในค่าธรรมเนียมการยึดที่ไม่มีการขายนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1019/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดมาตรา 228: การปิดกั้นเหมืองสาธารณโดยสุจริต ไม่เป็นความผิดทางอาญา
จำเลยปิดกั้นเหมืองสาธารณเพราะเชื่อมั่นโดยสุจริตว่าเป็นเหมืองของจำเลยนั้น จำเลยย่อมไม่รู้ว่าเหมืองนั้นเป็นสาธารณูปโภคซึ่งเป็นองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 228 จำเลยจึงไม่มีความผิดตามมาตรานี้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 26/2504)
เมื่อเป็นเช่นนี้ ฎีกาของจำเลยที่ว่าเป็นเหมืองของจำเลยก็ไม่ต้องวินิจฉัย เพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลง หากจำเลยมีข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์ในเหมืองอย่างไร ก็ชอบที่จะว่ากล่าวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กลฉ้อฉลซื้อขายที่ดิน: เพิกถอนนิติกรรม, สิทธิเรียกร้อง, ความสุจริต, การสมคบคิด
น. ทำสัญญาจะขายที่ดินให้ ย. ชำระราคาบางส่วนเกือบครบแล้ว น. กลับไปจดทะเบียนขายที่ดินนั้นให้ อ. เสีย โดย ธ.บิดาอ.เป็นผู้รับมอบฉันทะจากน.แต่ธ. รู้ดีว่า น. ได้ทำสัญญาจะขาย ย.แล้วและอ.นั้นก็แล้วแต่ธ.บิดาจะเชิดไป ธ.และอ. ไม่สุจริต รูปคดีเป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์ไม่มีทางบังคับชำระหนี้ได้น. ได้กระทำทั้งที่รู้ว่าทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ ย. เพิกถอนนิติกรรมระหว่างน. กับ อ. ได้ตาม มาตรา 237
of 9