พบผลลัพธ์ทั้งหมด 86 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 204/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุช่วงเวลาความผิดในฟ้องอาญาที่ไม่ชัดเจนถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม หากไม่มีเหตุผลพิเศษ
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยวางเพลิงเผาเคหะสถานและทรัพย์สมบัติของผู้อื่นโดยกล่าวว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อระหว่างวันที่ 7 ถึงวันที่ 8 กรกฎาคม 2492 เวลากลางวัน ศาลชั้นต้นได้เรียกโจทก์มาสอบถามว่า เหตุใดจึงกล่าวในฟ้องหลายวัน โจทก์แถลงว่าเพราะกลัวจะผิดวัน เช่นนี้นับว่าโจทก์มิได้แสดงเหตุพิเศษอย่างใด ที่จะต้องกล่าวในฟ้องเช่นนี้ ย่อมถือได้ว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 144/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของวันเวลาในฟ้องอาญา: ฟ้องระบุช่วงเวลากว้างถือว่าเคลือบคลุมหรือไม่
ฟ้องที่กล่าวว่า "เมื่อวันใดไม่ปรากฎ ระหว่างเดือนกรกฎาคมกับสิงหาคม 2490 เวลากลางวันจำเลยได้กระทำผิด ฯลฯ" ดังนี้ถือว่าไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดหลายกะทงให้รวมกะทงลงโทษ จำคุก 3 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยมีผิดกะทงเดียวลงโทษจำคุก 2 ปี เป็นแก้ไขมาก
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดหลายกะทงให้รวมกะทงลงโทษ จำคุก 3 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยมีผิดกะทงเดียวลงโทษจำคุก 2 ปี เป็นแก้ไขมาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1915/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีปลอมแปลงเอกสาร: การระบุช่วงเวลาที่กระทำผิด
ฟ้องโจทก์ซึ่งบรรยายเหตุการณ์แห่งข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้ทำการซื้อข้าว เมื่อวันเดือนปีนั้น ต่อมาวันเดือนปีนั้นจำเลยได้ส่งอ้างหนังสือสัญญาซื้อข้าวต่อศาลซึ่งมีลายเซ็นชื่อโจทก์ในช่องผู้ซื้อ จำเลยทั้ง 2 ลงชื่อเป็นพะยาน โจทก์ไม่รู้ว่าจำเลยทำปลอมขึ้นในวันเดือนปีใดเพิ่งมาทราบการทุจจริตของจำเลยเมื่อจำเลยส่งอ้างต่อศาล ดังนี้ พอเข้าใจฟ้องได้แล้วว่า หาว่าจำเลยทำหนังสือปลอมขึ้นระหว่างวันที่โจทก์ซื้อข้าว ถึงวันที่จำเลยส่งอ้างต่อศาล ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1915/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีปลอมแปลงเอกสาร: การระบุช่วงเวลาการกระทำความผิดเพียงพอต่อการฟ้อง
ฟ้องโจทก์ซึ่งบรรยายเหตุการณ์แห่งข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้ทำการซื้อข้าว เมื่อวันเดือนปีนั้น ต่อมาวันเดือนปีนั้นจำเลยได้ส่งอ้างหนังสือสัญญาซื้อข้าวต่อศาลซึ่งมีลายเซ็นชื่อโจทก์ในช่องผู้ซื้อ จำเลยทั้ง 2 ลงชื่อเป็นพยาน โจทก์ไม่รู้ว่าจำเลยทำปลอมขึ้นในวันเดือนปีใดเพิ่งมาทราบการทุจริตของจำเลยเมื่อจำเลยส่งอ้างต่อศาล ดังนี้ พอเข้าใจฟ้องได้แล้วว่า หาว่าจำเลยทำหนังสือปลอมขึ้นระหว่างวันที่โจทก์ซื้อข้าว ถึงวันที่จำเลยส่งอ้างต่อศาลไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1607/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนย้ายข้าวภายหลังได้รับอนุญาต: การกระทำแยกช่วงไม่ถือเป็นการฝ่าฝืนประกาศ
ประกาศข้าหลวงประจำจังหวัดมีใจความว่า ห้ามมิให้ผู้ครอบครองข้าวยักย้ายข้าวจากสถานที่เก็บ เว้นแต่จะได้รับอนุญาต และการยักย้ายดังกล่าวให้ทำได้ฉะเพาะเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้น ถึงพระอาทิตย์ตก ดังนี้ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้ขนย้ายข้าวจากสถานที่เก็บได้แล้ว และเอาข้าวบันทุกรถยนตร์เดินทางไปในเวลากลางวัน แต่ไปค่ำมึดลงในระหว่างทาง ดังนี้ จำเลยย่อมไม่มีผิดฐานขนย้ายข้าวจากสถานที่เก็บในเวลากลางคืนตามประกาศฉะบับนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 812/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุเวลาในฟ้องลักทรัพย์: เวลา 18:00 น. เพียงพอต่อการเข้าใจข้อหา แม้จะเป็นช่วงเปลี่ยนระหว่างวันและคืน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยลักทรัพย์เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2490 เวลา 18.00 น. ขอให้ลงโทษตามมาตรา 294 ก.ม.อาญา โดยไม่ได้ระบุว่า เป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน ดังนี้เป็นฟ้องที่สมบูรณ์
เวลา 18.00 น. อาจเป็นกลางวันหรือกลางคืนก็ได้
เวลา 18.00 น. อาจเป็นกลางวันหรือกลางคืนก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของข้อกล่าวหาในฟ้องอาญา: เหตุเกิดในช่วงเวลาที่ระบุ
ฟ้องโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดระหว่างเวลาพระอาทิตย์ตก วันที่ 28 เมษายน ถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น วันที่ 29 เมษายน ทางพิจารณาได้ความว่า เกิดเหตุเมื่อ 4.00 น. รุ่งเช้าก็เป็นวันที่ 29 เมษายน ดังนี้ ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตาม ทางพิจารณาไม่ต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของช่วงเวลาที่ระบุในฟ้องอาญา หากข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาไม่แตกต่างจากที่กล่าวอ้างในฟ้อง
ฟ้องโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดระหว่างเวลาพระอาทิตย์ตกวันที่ 28 เมษายน ถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น วันที่ 29 เมษายน ทางพิจารณาได้ความว่าเกิดเหตุเมื่อ 4.00 น. รุ่งเช้าก็เป็นวันที่ 29 เมษายน ดังนี้ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาไม่ต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1161/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดเวลาความผิดทางอาญา: การพิจารณาช่วงเวลากลางคืนและก่อนย่ำรุ่ง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดในระหว่างเวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ตกวันที่ 3 สิงหาคม 2490 ถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นวันที่ 4 สิงหาคม 2490 อันเป็นเวลากลางคืนตามกฎหมาย แต่ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2490 เวลา 2.00 น. ซึ่งเป็นเวลาก่อนย่ำรุ่งของวันที่ 3 สิงหาคม 2490 ถือได้ว่าเป็นเวลาคนละคืนกับที่โจทก์ฟ้อง ชอบที่จะยกฟ้องโจทก์เสียได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 192 วรรค 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1161/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดช่วงเวลากระทำผิดในคดีอาญา การพิจารณาช่วงเวลากลางคืนตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดในระหว่างเวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ตกวันที่ 3 สิงหาคม 2490 ถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นวันที่ 4 สิงหาคม 2490 อันเป็นเวลากลางคืนตามกฎหมาย แต่ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2490 เวลา 2.00 น. ซึ่งเป็นเวลาก่อนย่ำรุ่งของวันที่ 3สิงหาคม 2490 ถือได้ว่าเป็นเวลาคนละคืนกับที่โจทก์ฟ้อง ชอบที่จะยกฟ้องโจทก์เสียได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง