พบผลลัพธ์ทั้งหมด 95 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3580/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอทุเลาการบังคับและการเลื่อนการพิจารณาหลักประกัน เป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ การฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์จึงไม่ชอบ
คดีที่จำเลยขอทุเลาการบังคับอยู่ในระหว่างการพิจารณา ของศาลอุทธรณ์ การขอเลื่อนคดีไปเพื่อให้โจทก์ไปตรวจดูหลักทรัพย์ จึงเป็นเรื่องต่อเนื่องกับคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่สั่งเกี่ยวกับการทุเลาการบังคับของจำเลยและเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะ ดังนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้เลื่อนการพิจารณา หลักประกันไป จำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์ดังกล่าวได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3580/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอทุเลาการบังคับและการเลื่อนพิจารณาหลักประกันเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ การฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์จึงไม่ชอบ
คดีที่จำเลยขอทุเลาการบังคับอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ การขอเลื่อนคดีเพื่อให้โจทก์ตรวจดูหลักทรัพย์ จึงเป็นเรื่องต่อเนื่องกับคำสั่งศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการทุเลาการบังคับของจำเลยและเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะ ดังนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาหลักประกันไป จำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์ดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 89/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยเมื่อจำเลยโอนเงินที่รับฝากไปให้ผู้อื่น โจทก์ต้องโต้แย้งประเด็นกฎหมายด้วย
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าเงินที่โจทก์ฝากไว้กับจำเลยย่อมตกเป็นของจำเลย การที่จำเลยโอนเงินที่รับฝากไว้ไปให้บุคคลอื่นจึงเป็นเรื่องที่โจทก์จะเรียกร้องเอาจากจำเลยในทางแพ่ง ไม่เป็นความผิดฐานยักยอกแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ อันเป็นการยกฟ้องโดยอาศัยข้อกฎหมาย ดังนี้ โจทก์จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงแต่เมื่อฎีกาของโจทก์คงโต้เถียงเฉพาะปัญหาข้อเท็จจริงว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่เท่านั้น มิได้คัดค้านคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ดังกล่าว ฎีกาของโจทก์จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1184/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียงฟ้องฎีกาโดยผู้มิได้เป็นทนายความ ทำให้ฎีกาไม่ชอบ ศาลไม่อาจรับพิจารณา
การที่ผู้ซึ่งมิได้จดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นทนายความตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 และมิได้เป็นบุคคลซึ่งอยู่ในข้อยกเว้นตามบทกฎหมายดังกล่าว เรียงหรือแต่งฟ้องฎีกาให้จำเลยนั้น เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาซึ่งเกิดจากการกระทำอันไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่อาจรับพิจารณาให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3016/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบเมื่อไม่โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เรื่องอายุความก่อนอ้างสิทธิในที่ดิน
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องคดีนี้หลังจากจำเลยที่ 1 ได้แย่งการครอบครองของโจทก์ไปเกินกว่า 1 ปีแล้ว โจทก์จึงหมดสิทธิที่จะฟ้องเรียกคืนการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 โจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ดังกล่าวว่าไม่ถูกต้องอย่างไร กลับฎีกาว่าที่นาพิพาทเป็นของโจทก์เพราะพยานหลักฐานและเหตุผลอื่น ดังนี้ ฎีกาของโจทก์มิได้โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ชอบหรือผิดพลาดอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2785/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ที่ซับซ้อน: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ฟ้องให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ร่วมกันคืนรถยนต์พิพาทให้แก่โจทก์ ผู้ร้องสอดยื่นคำร้องสอดว่ารถยนต์พิพาทเป็นของผู้ร้องสอด ขอให้จำเลยทั้งสามคืนให้แก่ผู้ร้องสอด ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 คืนรถยนต์พิพาทให้แก่โจทก์ที่ 2ผู้ร้องสอดอุทธรณ์ว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์พิพาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามคืนหรือใช้ราคารถยนต์พิพาทให้แก่ผู้ร้องสอด ดังนี้ คดีระหว่างผู้ร้องสอดกับจำเลยที่ 1ที่ 2 จึงยังไม่ยุติ
ที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกาว่า ไม่เห็นด้วยกับที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันคืนรถยนต์พิพาทให้แก่ผู้ร้องสอด เพราะเมื่อจำเลยคืนรถยนต์พิพาทให้แก่โจทก์ที่ 2 ไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วจำเลยก็ไม่มีรถที่จะคืนให้ผู้ร้องสอดได้อีก ผู้ร้องสอด ชอบที่จะไปบังคับเอารถยนต์พิพาทคืนจากโจทก์ที่ 2 นั้นมิใช่เป็นการคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกาว่า ไม่เห็นด้วยกับที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันคืนรถยนต์พิพาทให้แก่ผู้ร้องสอด เพราะเมื่อจำเลยคืนรถยนต์พิพาทให้แก่โจทก์ที่ 2 ไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วจำเลยก็ไม่มีรถที่จะคืนให้ผู้ร้องสอดได้อีก ผู้ร้องสอด ชอบที่จะไปบังคับเอารถยนต์พิพาทคืนจากโจทก์ที่ 2 นั้นมิใช่เป็นการคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบ กรณีผู้พิพากษาศาลชั้นต้นรับรองฎีกาโดยไม่ได้พิจารณาว่าเป็นปัญหาสำคัญตามกฎหมาย
คดีห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นรับรองฎีกาของจำเลยว่า แม้ไม่เป็นปัญหาสำคัญ แต่น่าจะให้โอกาสจำเลยเพื่อศาลสูงสุดชี้ขาด ถือไม่ได้ว่าเป็นการอนุญาตให้ฎีกาโดยชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1060/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เนื่องจากมิได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อย่างชัดเจน
ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาที่มิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นโต้แย้งโดยชัดแจ้งว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบ ไม่ถูกต้องในข้อไหน ประเด็นใด จำเลยเห็นว่าที่ถูกควรเป็นอย่างไรมีข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐาน หรือมีข้อกฎหมายใดสนับสนุน เป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 341/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อจำเลยมิได้ระบุข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยกล่าวในฎีกาเพียงว่า 'จำเลยขอให้การกลับคำให้การในชั้นสอบสวน และในชั้นศาลทุกประการและทุกถ้อยกระทงความโดยจำเลยขอให้การว่ามิได้กระทำความผิดตามคำกล่าวหาของพนักงานสอบสวนและคำฟ้องของโจทก์' โดยมิได้ระบุข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จำเลยประสงค์จะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาแต่ประการใด ทั้งมิได้กล่าวอ้างว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีนี้ไม่ถูกต้องในข้อใดอย่างไร ฎีกาเช่นนี้ไม่เป็นการคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรค 2 ประกอบด้วยมาตรา 225 และมาตรา 216
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาโดยทนายลงชื่อแทนโจทก์: ฟ้องไม่ชอบตามกฎหมาย, ฎีกาไม่ชอบด้วยประมวลวิธีพิจารณาความอาญา
ชั้นไต่สวนมูลฟ้องศาลยกฟ้องโจทก์ เพราะเห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูล โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าทนายลงชื่อในฟ้องแทนโจทก์ เป็นฟ้องที่ไม่ชอบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(7) พิพากษายืน โจทก์ฎีกาขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องให้ถูกต้อง โดยให้โจทก์ลงลายมือชื่อในคำฟ้อง และประทับรับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป ดังนี้ เป็นฎีกาที่มิได้ยกเหตุขึ้นคัดค้านข้อชี้ขาดของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ว่าไม่ถูกต้องอย่างใด จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย