คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ตั๋วเงิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 60 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเช็ค: การฟ้องเฉพาะตามเช็ค vs. มูลหนี้เดิม
บรรยายฟ้องว่า "จำเลยได้เซ็นเช็คธนาคารศรีนครจำกัดจ่ายเงินสดเพื่อเป็นการชำระหนี้เป็นเงิน 15,000 บาท" แล้วกล่าวเรื่องนำเช็คไปขึ้นไม่ได้เงิน ในที่สุดว่า "โจทก์ได้นำเช็ครายนี้ไปเรียกเก็บจากจำเลยหลายครั้งจำเลยก็ขอผัดผ่อนเรื่อยมา และได้ให้ทนายบอกกล่าวกำหนดวันให้จำเลยชำระเงินตามเช็ครายนี้จำเลยก็ไม่ชำระให้โจทก์" ดังนี้เป็นการบรรยายฟ้องสำหรับฟ้องเรียกเงินตามเช็คแต่อย่างเดียวเท่านั้น หาใช่เป็นการฟ้องเรียกเงินตามมูลหนี้เดิมไม่
อายุความในการที่ผู้ทรงตั๋วเงิน(เช็คก็เป็นตั๋วเงินชนิดหนึ่ง) ฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คมีเวลาภายใน 1 ปีนับแต่วันที่เช็คถึงกำหนด มาตรา 1002 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารซื้อขายสิทธิเรียกร้องเงินตราต่างประเทศ ไม่ใช่ตั๋วเงิน อายุความ 3 ปีใช้ได้
โจทก์ขายสิทธิเรียกร้องเงินเหรียญฮ่องกง ให้จำเลยโดยโจทก์ออกตั๋วแสดงว่าจำเลยมีสิทธิเรียกร้องจำนวนเงินเหรียญดังกล่าวจากอีกบริษัทหนึ่ง และจำเลยสัญญาจะจ่ายเงินไทยให้โจทก์ตามอัตราแลกเปลี่ยน เมื่อเอกสารนั้นไม่ระบุว่าเป็นตั๋วแลกเงินประเภทใดและไม่มีลักษณะให้เห็นว่าเปลี่ยนมือกันได้จึงไม่มีสภาพเป็นตั๋วเงินแและถืออายุความ 3 ปี อย่างตั่วเงินไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารซื้อขายสิทธิเรียกร้องเงินตราต่างประเทศ ไม่ใช่ตั๋วเงิน อายุความ 3 ปี, การค้า, การรับชำระหนี้
โจทก์ขายสิทธิเรียกร้องเงินเหรียญฮ่องกง ให้จำเลยโดยโจทก์ออกตั๋วแสดงว่าจำเลยมีสิทธิเรียกร้องจำนวนเงินเหรียญดังกล่าวจากอีกบริษัทหนึ่งและจำเลยสัญญาจะจ่ายเงินไทยให้โจทก์ตามอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเอกสารนั้นไม่ระบุว่าเป็นตั๋วแลกเงินประเภทใดและไม่มีลักษณะให้เห็นว่าเปลี่ยนมือกันได้จึงไม่มีสภาพเป็นตั๋วเงินและถืออายุความ3 ปี อย่างตั๋วเงินไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1501/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองเช็คและการผูกพันตามตั๋วเงิน: โจทก์เสียหายจากการรับรองเช็คที่ไม่ถูกต้อง
โจทก์ออกเช็คเพื่อชำระค่าไม้ที่บริษัทจำเลยขายหรือจะขายให้โจทก์ บริษัทจำเลยส่งไม้ให้ไม่ครบจำนวน โจทก์จึงฟ้องเรียกเงินที่จ่ายเกินไปนั้นคืน จากจำเลย และศาลได้พิพากษาให้บริษัทจำเลยรับผิดคืนเงินจำนวนนั้นให้โจทก์แล้ว แม้จะปรากฏว่าจำเลยได้สลักหลังเช็คนั้น ให้ธนาคารผู้เคยค้าของจำเลยรับรองต่อธนาคารผู้จ่ายว่า ได้นำเงินตามเช็ค (ขีดคร่อม) เข้าบัญชีของผู้รับเงิน คือบริษัทจำเลยแล้วและรับรองว่า ลายมือสลักหลังเช็คนั้นเป็นลายมือสลักหลังที่แท้จริงของผู้รับเงิน ธนาคารผู้จ่ายจึงจ่ายเงินตามเช็คนั้นให้แก่ธนาคารผู้เคยค้าของจำเลยไปดังนี้ โจทก์จะฟ้องให้ธนาคารผู้เคยค้าของจำเลยต้องรับผิดอีกด้วยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารต้องรับผิดชอบเช็คปลอม แม้ไม่มีประมาทเลินเล่อ ตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 1008
เช็คที่มีผู้ปลอมลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย แล้วเอาไปขึ้นเงินจากธนาคารไปนั้น เป็นกรณีตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1008 แม้
ธนาคารจะจ่ายเงินไปโดยมิได้ประมาทเลินเล่อ ธนาคารก็ยังต้องรับผิดชอบตามจำนวนเงินที่จ่ายให้ไปนั้น./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คปลอม: ธนาคารต้องรับผิดแม้ไม่มีประมาทเลินเล่อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1008
เช็คที่มีผู้ปลอมลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย แล้วเอาไปขึ้นเงินจากธนาคารไปนั้น เป็นกรณีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1008 แม้ธนาคารจะจ่ายเงินไปโดยมิได้ประมาทเลินเล่อธนาคารก็ยังต้องรับผิดตามจำนวนเงินที่จ่ายให้ไปนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความเฉพาะเรื่องตั๋วเงิน: ศาลต้องยกอายุความตามที่จำเลยต่อสู้เท่านั้น แม้คดีแพ่งไม่จำต้องอ้างตัวบท
ไนคดีแพ่งคู่ความไม่จำเปนต้องยกตัวบทกดหมายขึ้นอ้าง เพียงแต่กล่าวถึงข้อเท็ดจิ่งไห้ชัดเจน สาลกหาตัวบทกดหมายขึ้นปรับคดีเองได้
เมื่อจำเลยยออายุความฉเพาะไนเรื่องตั๋วเงินขึ้นต่อสู้ สาลจะไปยกอายุความเรื่องอื่นมาปรับคดีไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 817/2474

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ตั๋วเงินชำระหนี้และการนำสืบข้อเท็จจริงการชำระเงิน
ยอมให้เจ้าหนี้ผู้รับชำระหนี้ด้วยตั๋วเงิน
นำสืบว่าตั๋วเงินนั้นได้ใช้เงินเท่าใด
สัญญาซื้อขาย
ลักษณะพะยาน
พะยานบุคคลล้างพะยานเอกสาร
คนบังคับเดนมาร์ก เป็นคู่ความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5250/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไถ่ถอนตั๋วเงินก่อนกำหนดและการกระทำโดยมีเจตนาทุจริต กรณีไม่มีสิทธิรับแลกเปลี่ยนตั๋วเป็นบัตรเงินฝาก
โจทก์นำตั๋วแลกเงินของบริษัท น. ที่สั่งจ่ายแก่จำเลยที่ 5 โดยจำเลยที่ 5 เป็นผู้รับอาวัลแก่โจทก์จำนวน 4 ฉบับ ไปไถ่ถอนคืนจากจำเลยที่ 5 ก่อนครบกำหนดอ้างว่าขอรับเป็นเงินสด แต่จำเลยที่ 5 ไม่มีเงินสด จำเลยที่ 5 จึงออกตั๋วแลกเงินตามฟ้องจำนวน 4 ฉบับ ให้แทน หลังจากนั้น 4 วัน จำเลยที่ 5 ถูกระงับการดำเนินกิจการชั่วคราว โจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่า โจทก์เคยไถ่ถอนก่อนครบกำหนดใช้เงินมาก่อนครั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าการไถ่ถอนก่อนกำหนดเป็นประเพณีการค้าปกติ การเปลี่ยนเป็นตั๋วแลกเงินตามฟ้องเป็นผลให้มีเพียงจำเลยที่ 5 ต้องรับผิดต่อโจทก์เท่านั้น โดยบริษัท น. ซึ่งต้องร่วมรับผิดด้วยแต่เดิมหลุดพ้นความรับผิดไป ทั้งเป็นการเร่งรีบออกตั๋วแลกเงินตามฟ้องให้ใหม่ โดยพฤติการณ์เสมือนหนึ่งว่าได้ล่วงรู้ข้อมูลภายในถึงเรื่องที่จำเลยที่ 5 จะต้องถูกทางการสั่งให้ระงับการดำเนินกิจการ และทางการจะให้ความช่วยเหลือเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 5 โดยออกมาตรการให้นำตั๋วแลกเงินซึ่งเป็นของสถาบันการเงินไปแลกเปลี่ยนเป็นบัตรเงินฝากของจำเลยที่ 4 ซึ่งหากยังคงเป็นตั๋วแลกเงิน 4 ฉบับ เดิมซึ่งเป็นของบริษัท น. อยู่ โจทก์ก็ไม่อาจนำไปแลกเปลี่ยนเป็นบัตรเงินฝากของจำเลยที่ 4 ได้ และดอกเบี้ยที่คิดรวมให้ในตั๋วแลกเงินตามฟ้องก็นำสืบให้รับฟังไม่ได้ว่าเป็นอัตราตามตลาดเงิน กรณีจึงฟังได้ว่าโจทก์เป็นผู้ที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางไม่สุจริตหรือไม่เป็นประเพณีการค้าปกติ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องให้รับแลกเปลี่ยนตั๋วแลกเงินตามฟ้องเป็นบัตรเงินฝากของจำเลยที่ 4 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท: ความรับผิดของผู้ลงลายมือชื่อและผู้สลักหลังเช็ค
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า เช็คพิพาทระหว่างโจทก์และจำเลยทั้งสอง หรือจำเลยคนใดคนหนึ่งมีมูลหนี้ต่อกันหรือไม่ และโจทก์ได้เช็คมาไว้ในครอบครองในฐานะผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ 2 ทำสัญญาซื้อขายที่ดินของโจทก์พร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ชำระราคาค่าที่ดินให้แก่จำเลยที่ 2 ครบถ้วนแล้ว แต่จำเลยที่ 2 ยังมิได้นำเงินค่าที่ดินส่วนที่เหลือไปมอบให้แก่โจทก์ จำเลยที่ 2 เสนอขายบ้านพร้อมที่ดินของภริยาจำเลยที่ 2 ให้แก่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ออกเช็คพิพาทให้แก่จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 สลักหลังเช็คพิพาทนำไปมอบให้แก่โจทก์เพื่อชำระค่าที่ดินส่วนที่เหลือซึ่งเท่ากับศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยแล้วว่าเช็คพิพาทระหว่างโจทก์และจำเลยทั้งสอง หรือจำเลยคนใดคนหนึ่งมีมูลหนี้ต่อกัน และโจทก์ได้รับเช็คดังกล่าวมาไว้ในครอบครองในฐานะผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามประเด็นข้อพิพาทแล้ว การที่ศาลอุทธรณ์ได้กำหนดประเด็นขึ้นมาวินิจฉัยต่อไปว่า จำเลยทั้งสองจะต้องร่วมกันรับผิดชำระเงินตามเช็คให้แก่โจทก์หรือไม่ จึงมิได้เป็นการหยิบยกประเด็นขึ้นวินิจฉัยนอกเหนือจากประเด็นข้อพิพาทเพราะเมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมาย ก็ต้องวินิจฉัยต่อไปว่าจำเลยทั้งสองจะต้องร่วมรับผิดชำระเงินตามเช็คให้แก่โจทก์หรือไม่ตาม ป.พ.พ. มาตรา 900
จำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้ของภริยาจำเลยที่ 2 ให้แก่จำเลยที่ 2 เช็คพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับที่ 2 จึงมีมูลหนี้ต่อกัน เมื่อจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คพิพาทส่งมอบให้แก่โจทก์เพื่อชำระค่าที่ดินซึ่งจำเลยที่ 2 เป็นหนี้โจทก์อยู่จริง โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อในเช็คพิพาทย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คพิพาทนั้นและถือว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ถูกฟ้องในมูลเช็ค หาอาจต่อสู้ผู้ทรงด้วยข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันเฉพาะบุคคลระหว่างตนกับผู้สั่งจ่ายหรือกับผู้ทรงคนก่อน ๆ นั้นได้ไม่ เว้นแต่การโอนจะได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล
of 6