พบผลลัพธ์ทั้งหมด 63 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 957-958/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตที่ดินพิพาท - สันนิษฐานเจ้าของร่วม - คูเป็นทรัพย์สินร่วม
โจทก์จำเลยพิพากกันเรื่องคูที่กั้นเขตระหว่างที่ว่าเป็นของตน แต่นำสืบให้เห็นโดยชัดเจนไม่ได้ว่าเป็นของใคร ก็ต้องใช้บทสันนิษฐานของประมวลแพ่ง ฯ ม.1344 คือถือว่าคู่ความเป็นเจ้าของคูร่วมกัน ตัดสินให้เป็นเจ้าของคนละครึ่ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมจำหน่ายทรัพย์สิน: สิทธิจำหน่ายเฉพาะส่วนตน และผลของการซื้อจากเจ้าของร่วมโดยไม่ได้รับความยินยอม
การที่เจ้าของร่วมคนหนึ่งมีชื่อเป็นผู้เสียอากรค่านาหรือเงินค่าบำรุงท้องที่นั้น ต้องถือว่าเสียในนามของเจ้าของร่วม
ผู้ที่ซื้อที่ดินทั้งหมดจากเจ้าของร่วมคนหนึ่ง แม้การซื้อขายจะทำต่ออำเภอและเสียค่าตอบแทนก็ดี ก็ไม่เกิด ภาระติดพันแก่ตัวทรัพย์ เพราะเจ้าของร่วมมีสิทธิ จำหน่ายแต่เฉพาะส่วนของตน.
ผู้ที่ซื้อที่ดินทั้งหมดจากเจ้าของร่วมคนหนึ่ง แม้การซื้อขายจะทำต่ออำเภอและเสียค่าตอบแทนก็ดี ก็ไม่เกิด ภาระติดพันแก่ตัวทรัพย์ เพราะเจ้าของร่วมมีสิทธิ จำหน่ายแต่เฉพาะส่วนของตน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 972/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทรัพย์สินร่วม (ที่ดิน) โดยศาลเมื่อตกลงกันไม่ได้ ศาลมีอำนาจแบ่งตามส่วนโดยมิชักช้า
ที่ดินหลายโฉนดแต่ติดต่อเป็นผืนเดียวกัน แต่ละโฉนดเป็นของเจ้าของร่วมสองคนเมื่อศาลเห็นว่าการแบ่งที่ดินอาจทำได้โดยไม่เสียหายศาลอาจสั่งให้แบ่งให้เจ้าของร่วมคนหนึ่งได้ที่ดินโฉนดหนึ่งทั้งโฉนด และให้อีกคนหนึ่งได้อีกสองโฉนดก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1077/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองทรัพย์สินร่วม การยึดทรัพย์โดยไม่ชอบ และความรับผิดของผู้รู้เห็นเป็นใจ
โจทก์และจำเลยเป็นเจ้าของข้าวร่วมกันจำเลยได้แยกไปอยู่ที่อื่น แต่ข้าวยังอยู่ในความครอบครองของโจทก์ จำเลยได้พาพวกมาขนข้าวไปโดยพลการ โดยโจทก์ไม่ยินยอมดังนี้จำเลยต้องรับผิดและต้องคืนข้าวส่วนที่เกินให้โจทก์ไป
ผู้รับจ้างรู้ว่า ผู้จ้างไม่มีสิทธิในทรัพย์แต่ยังยอมรับจ้างไปขนทรัพย์นั้นมา ต้องรับผิดฐานละเมิดร่วมรับผู้จ้างด้วย
ผู้รับจ้างรู้ว่า ผู้จ้างไม่มีสิทธิในทรัพย์แต่ยังยอมรับจ้างไปขนทรัพย์นั้นมา ต้องรับผิดฐานละเมิดร่วมรับผู้จ้างด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1077/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองทรัพย์สินร่วม การยื้อแย่งทรัพย์โดยไม่ชอบ และความรับผิดของผู้กระทำละเมิดร่วม
โจทก์และจำเลยเป็นเจ้าของข้าวร่วมกัน จำเลยได้แยกไปอยู่ที่อื่น แต่ข้าวยังอยู่ในความครอบครองของโจทก์ จำเลยได้พาพวกมาขนข้าวไปโดยพลการ โดยโจทก์ไม่ยินยอมดังนี้จำเลยต้องรับผิดและต้องคืนข้าวส่วนที่เกินให้โจทก์ไป
ผู้รับจ้างรู้ว่า ผู้จ้างไม่มีสิทธิในทรัพย์แต่ยังยอมรับจ้างไปขนทรัพย์นั้นมา ต้องรับผิดฐานละเมิดร่วมรับผู้จ้างด้วย
ผู้รับจ้างรู้ว่า ผู้จ้างไม่มีสิทธิในทรัพย์แต่ยังยอมรับจ้างไปขนทรัพย์นั้นมา ต้องรับผิดฐานละเมิดร่วมรับผู้จ้างด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดการทรัพย์สินร่วม: การซื้อทอดตลาดแทนเจ้าของร่วม มิใช่การตั้งตัวแทน แต่เป็นการจัดการแทนเจ้าของร่วมด้วยกัน อายุความไม่ตัดสิทธิ
การที่เจ้าของร่วมในหนี้จำนวนหนึ่ง แต่คนเดียวได้เอาเงินจำนวนนั้นไปรับจำนองที่พิพาท และได้ขอพิสูจน์หนี้จำนอง เต็มตามสัญญาจำนองตลอดจนได้ซื้อทอดตลาดที่พิพาทโอนใส่ชื่อเป็นผู้ซื้อแต่คนเดียว ก็ดี ดังนี้ถือว่าเป็นการจัดการแทนเจ้าของร่วมคนอื่นๆด้วย ซึ่งไม่จำต้องมีหลักฐานการตั้งตัวแทนและจะยกอายุความได้สิทธิหรือเสียสิทธิ์ มาต่อสู้ไม่ได้ เจ้าของร่วมคนอื่นฟ้องขอแบ่งแยกส่วนกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1535/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกผลธรรมดา vs. ดอกผลนิตินัย: ข้าวจากนาไม่ใช่ดอกผลธรรมดา แม้ได้จากทรัพย์สินร่วม
ดอกผลธรรมดาตามมาตรา 111(1) นั้นหมายถึงบรรดาสิ่งทั้งปวงซึ่งได้มาเพราะใช้ของนั้น อันเกิดโดยธรรมชาติของมันดังเช่น ผลไม้ น้ำนม ขน และลูกของสัตว์
ส่วนต้นข้าวที่ทำได้จากนานั้นเป็นสังหาริมทรัพย์ต้นข้าวเกิดขึ้นจากแรงงานไม่ใช่ดอกผลของนา ฉะนั้นข้าวเปลือกก็ไม่ใช่ดอกผลของนาเช่นเดียวกัน
(ประชุมใหญ่)
ฟ้องเรียกข้าวฐานเป็นดอกผลธรรมดา เมื่อวินิจฉัยว่าข้าวไม่ใช่ดอกผลธรรมดาโจทก์ไม่มีสิทธิขอแบ่งแล้ว จะเปลี่ยนเป็นให้แบ่งค่าเช่านาอันเป็นดอกผลนิตินัยแก่โจทก์ย่อมไม่ได้ เพราะนอกฟ้องนอกประเด็น
ส่วนต้นข้าวที่ทำได้จากนานั้นเป็นสังหาริมทรัพย์ต้นข้าวเกิดขึ้นจากแรงงานไม่ใช่ดอกผลของนา ฉะนั้นข้าวเปลือกก็ไม่ใช่ดอกผลของนาเช่นเดียวกัน
(ประชุมใหญ่)
ฟ้องเรียกข้าวฐานเป็นดอกผลธรรมดา เมื่อวินิจฉัยว่าข้าวไม่ใช่ดอกผลธรรมดาโจทก์ไม่มีสิทธิขอแบ่งแล้ว จะเปลี่ยนเป็นให้แบ่งค่าเช่านาอันเป็นดอกผลนิตินัยแก่โจทก์ย่อมไม่ได้ เพราะนอกฟ้องนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทรัพย์สินร่วมกัน โดยพิจารณาการครอบครองเป็นส่วนสัดและการใช้ประโยชน์ร่วมกัน
โจทก์ฟ้องว่าเป็นเจ้าของที่พิพาทร่วมกับจำเลย ขอให้ศาลแบ่งครึ่งระหว่างโจทก์, จำเลย ๆ ว่าได้ปกครองเป็นส่วนสัดขอให้แบ่งตามส่วนที่ปกครองมา ศาลฎีกาเห็นว่าในที่พิพาทมีทั้งที่ ๆ ปลูกบ้าน และที่สวน สำหรับที่บ้านโจทก์,จำเลยปกครองเป็นส่วนสัดกันมาต้องแบ่งตามที่ปกครอง โดยถือลำคูเป็นเขตต์ ส่วนที่สวนหลังบ้านต่างยังปกครองร่วมกันอยู่ ฉะนั้นส่วนในการเป็นเจ้าของๆ โจทก์จำเลยยังคงมีอยู่คนละครึ่งในที่ดินพิพาททั้งแปลงนั้น จึงให้แบ่งให้โจทก์,จำเลยคนละเท่า ๆ กัน โดยให้ถือแนวกลางอู่หรือคู จากคลองยืนขึ้นมาทางเหนือแล้วหักมุมตามแนวกลางคู หรือร่องสวนไปทางทิศตะวันออกจนถึงจุด ๆ หนึ่ง ซึ่งเมื่อลากเส้นขนานกับเขตต์ที่ดินด้านทิศตะวันตกจากจุดนั้นไปทางทิศเหนือ จนจดเขตต์ทางด้านทิศเหนือแล้ว ที่ดินทั้งสองจะมีเนื้อที่แปลงละ 3 งาน 46 วา 2 ศอก หรือครึ่งหนึ่งของจำนวนเนื้อที่ทั้งหมดเท่า ๆกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีฉ้อโกงในกรณีทรัพย์สินร่วม สามีมีสิทธิฟ้องแทนภริยา
สามีมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษผู้มาหลอกลวงทรัพย์ระหว่างผัวเมียไปจากภริยาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12250/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายทรัพย์สินร่วมโดยไม่ได้รับความยินยอม และการโกงเจ้าหนี้หลังฟ้องคดีหย่า
โจทก์ร่วมกับจำเลยจดทะเบียนสมรสที่ประเทศออสเตรเลีย และลงทุนทำไร่องุ่น ต่อมาจำเลยย้ายกลับมาอยู่ในประเทศไทย แต่ยังไม่ได้หย่าขาดกับโจทก์ร่วม เงินค่าชดเชยที่รัฐบาลออสเตรเลียจ่ายให้แก่โจทก์ร่วมและจำเลยกรณีเลิกทำไร่องุ่น เป็นเงินที่ได้มาในระหว่างสมรสจึงเป็นสินสมรส การที่โจทก์ร่วมส่งเงินชดเชยมาให้แก่จำเลย แล้วจำเลยนำเงินดังกล่าวไปซื้อทรัพย์พิพาท แม้มีการจดทะเบียนใส่ชื่อจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เพียงผู้เดียว ทรัพย์พิพาทยังคงเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์ร่วมกับจำเลย ต่อมาโจทก์ฟ้องหย่าจำเลยขอแบ่งสินสมรสและขอใช้อำนาจปกครองบุตรที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น ขณะคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น จำเลยจดทะเบียนขายฝากทรัพย์พิพาทไว้แก่พันตำรวจเอก ม. จึงมิใช่การทำสัญญาในลักษณะปกติ แม้คดียังมีข้อโต้เถียงกรรมสิทธิ์และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่นก็ตาม ถือว่าโจทก์ (โจทก์ร่วมในคดีนี้) อยู่ในฐานะเจ้าหนี้ที่มีอำนาจจะฟ้องจำเลยแล้ว จึงเข้าองค์ประกอบของความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตาม ป.อ. มาตรา 350 การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานโกงเจ้าหนี้
ทรัพย์พิพาทเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์ร่วมกับจำเลย โจทก์ร่วมกับจำเลยจึงเป็นเจ้าของรวมในทรัพย์พิพาท การที่จำเลยนำทรัพย์พิพาทไปจดทะเบียนขายฝากไว้แก่พันตำรวจเอก ม. โดยโจทก์ร่วมไม่ทราบและไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ร่วมก่อน และไม่ไถ่ถอนคืนภายในกำหนดเช่นนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเบียดบังเอาทรัพย์พิพาทไปเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต เป็นความผิดฐานยักยอกตาม ป.อ. มาตรา 352 วรรคแรก อีกบทหนึ่งด้วย การกระทำความผิดของจำเลยดังกล่าว เป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
ทรัพย์พิพาทเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์ร่วมกับจำเลย โจทก์ร่วมกับจำเลยจึงเป็นเจ้าของรวมในทรัพย์พิพาท การที่จำเลยนำทรัพย์พิพาทไปจดทะเบียนขายฝากไว้แก่พันตำรวจเอก ม. โดยโจทก์ร่วมไม่ทราบและไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ร่วมก่อน และไม่ไถ่ถอนคืนภายในกำหนดเช่นนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเบียดบังเอาทรัพย์พิพาทไปเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต เป็นความผิดฐานยักยอกตาม ป.อ. มาตรา 352 วรรคแรก อีกบทหนึ่งด้วย การกระทำความผิดของจำเลยดังกล่าว เป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท