คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
นับโทษต่อ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 99 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อเมื่อจำเลยปฏิเสธการเป็นบุคคลเดียวกันในคดีอื่น ศาลไม่นับโทษต่อได้หากไม่มีการรับรอง
เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จ โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาล.ว่าจำเลยเป็นคนๆ เดียวกับจำเลยในคดีอีกคดีหนึ่ง และขอให้นับโทษจำเลยต่อ. ศาลชั้นต้นสั่งให้ส่งสำเนาให้จำเลยไม่ปรากฏว่ามีการสอบถามจำเลยว่าจะเป็นความจริงตามคำร้องของโจทก์หรือไม่. ที่จำเลยให้การเป็นพยานไว้ จำเลยก็ให้การว่าในคดีที่โจทก์ฟ้องเพิ่มเติมนี้. จำเลยไม่ทราบเรื่อง.แสดงว่าจำเลยปฏิเสธคำร้องของโจทก์. โจทก์มิได้สืบให้ปรากฏตามคำร้องขอของโจทก์. เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษา และโจทก์ยื่นฟ้องอุทธรณ์แล้ว โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์อีกว่าศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยในคดีนั้นแล้ว. ถ้าหากศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยคดีนี้ขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีนั้นด้วย. จำเลยรับสำเนาคำร้องของโจทก์แล้ว ก็มิได้แถลงในเรื่องนี้ว่าอย่างไร. คดีจึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้รับตามคำร้องของโจทก์ในข้อนี้. จึงนับโทษจำเลยต่อจากคดีที่โจทก์ขอไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 576/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอให้นับโทษต่อหลังศาลอุทธรณ์แก้พิพากษา โจทก์ต้องฎีกาหรือแก้ฎีกาในข้อนั้นทันที
ฟ้องขอให้ลงโทษและขอให้นับโทษต่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษและให้นับโทษต่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยผิดจริง แต่พิพากษาแก้ไม่นับโทษต่อให้ จำเลยฎีกา โจทก์ไม่ฎีกาหรือแก้ฎีกาในข้อที่ศาลอุทธรณ์ไม่นับโทษต่อครั้นศาลฎีกาวินิจฉัยเสร็จส่งคำพิพากษาพร้อมสำนวนคืน โจทก์เพิ่งยื่นคำร้องขอให้นับโทษต่อในวันเดียวกับที่ศาลชั้นต้นได้รับสำนวน เช่นนี้ไม่ได้ เพราะเป็นคำร้องที่เป็นโทษแก่จำเลยและโจทก์ชอบที่จะฎีกาหรือแก้ฎีกาดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 576/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอให้นับโทษต่อหลังศาลอุทธรณ์แก้พิพากษา โจทก์ต้องฎีกาหรือแก้ฎีกา หากไม่ทำตามสิทธิจะระงับ
ฟ้องขอให้ลงโทษและขอให้นับโทษต่อ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยผิดจริง แต่พิพากษาแก้ไม่นับโทษต่อให้จำเลยฎีกา โจทก์ไม่ฎีกาหรือแก้ฎีกาในข้อที่ศาลอุทธรณ์ไม่นับโทษต่อครั้นศาลฎีกาวินิจฉัยเสร็จส่งคำพิพากษาพร้อมสำนวนคืนโจทก์เพิ่งยื่นคำร้องขอให้นับโทษต่อในวันเดียวกับที่ศาลชั้นต้นได้รับสำนวน เช่นนี้ไม่ได้เพราะเป็นคำร้องที่เป็นโทษแก่จำเลย และโจทก์ชอบที่จะฎีกาหรือแก้ฎีกาดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 62-63/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องผิดจังหวัดไม่ทำให้ฟ้องเสีย และการนับโทษต่อเมื่อศาลพิพากษาภายหลัง
ในการกระทำผิดเรื่องปล้นทรัพย์รายเดียวกัน โจทก์ฟ้องจำเลย 2 คน เป็นสำนวนหนึ่งโดยกล่าวว่า เหตุเกิดที่ตำบลคลองชักพระ อำเภอตลิ่งชัน จังหวัดพระนคร (ซึ่งที่ถูกเป็นจังหวัดธนบุรี) แล้วฟ้องจำเลยอีกคนหนึ่งซึ่งร่วมกระทำผิดด้วยเป็นอีกสำนวนหนึ่ง สำนวนนี้บรรยายฟ้องถูกต้องว่าเหตุเกิดที่จังหวัดธนบุรี ปรากฏว่าจำเลย 2 คนแรกนั้นมีบ้านเรือนอยู่ในอำเภอตลิ่งชันที่เกิดเหตุ ย่อมจะทราบได้ดีกว่าที่เกิดเหตุอยู่จังหวัดธนบุรี ทั้งสถานที่อยู่ที่จำเลยทั้งสองยกขึ้นต่อสู้และนำสืบก็ว่า อยู่ที่บ้านจำเลยซึ่งอยู่ในอำเภอตลิ่งชัน จังหวัดธนบุรี นั่นเอง การที่โจทก์บรรยาย ฟ้องผิดจังหวัดไปไม่เป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่อสู้หรือเสียเปรียบในเชิงคดี การผิดพลาดเพียงเท่านี้ไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เสียไป
การที่จำเลยถูกคุมขังและฝากขังในคดีนี้ก่อนหรือหลังคดีอื่นนั้ไม่เป็นข้อสำคัญ เมื่อศาลพิพากษาคดีนี้ภายหลังที่พิพากษาคดีอื่นไปแล้ ก็ย่อมนับโทษต่อจากคดีที่พิพากษาไปแล้วนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 62-63/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องผิดจังหวัดไม่ทำให้ฟ้องเสีย และการนับโทษต่อจากคดีอื่น
ในการกระทำผิดเรื่องปล้นทรัพย์รายเดียวกัน โจทก์ฟ้องจำเลย 2 คนเป็นสำนวนหนึ่ง โดยกล่าวว่าเหตุเกิดที่ตำบลคลองชักพระ อำเภอตลิ่งชัน จังหวัดพระนคร (ซึ่งที่ถูกเป็นจังหวัดธนบุรี) แล้วฟ้องจำเลยอีกคนหนึ่งซึ่งร่วมกระทำผิดด้วยเป็นอีกสำนวนหนึ่งสำนวนนี้บรรยายฟ้องถูกต้องว่าเหตุเกิดที่จังหวัดธนบุรี ปรากฏว่าจำเลย 2 คนแรกนั้นมีบ้านเรือนอยู่ในอำเภอตลิ่งชันที่เกิดเหตุ ย่อมจะทราบได้ดีว่าที่เกิดเหตุอยู่ในจังหวัดธนบุรีทั้งสถานที่อยู่ที่จำเลยทั้งสองยกขึ้นต่อสู้และนำสืบก็ว่าอยู่ที่บ้านจำเลยซึ่งอยู่ในอำเภอตลิ่งชัน จังหวัดธนบุรีนั่นเองการที่โจทก์บรรยายฟ้องผิดจังหวัดไปไม่เป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่อสู้หรือเสียเปรียบในเชิงคดี การผิดพลาดเพียงเท่านี้ไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เสียไป
การที่จำเลยถูกคุมขังและฝากขังในคดีนี้ก่อนหรือหลังคดีอื่นนั้นไม่เป็นข้อสำคัญเมื่อศาลพิพากษาคดีนี้ภายหลังที่พิพากษาคดีอื่นไปแล้ว ก็ย่อมนับโทษต่อจากคดีที่พิพากษาไปแล้วนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อ: จำเลยต้องยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับในคดีก่อน ศาลต้องสอบถามและจดบันทึกไว้
การสั่งให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีก่อนนั้น จะกระทำได้ต่อเมื่อความปรากฏว่าเป็นคน ๆ เดียวกันกับจำเลยในคดีก่อน ซึ่งศาลลงโทษไปแล้ว การที่จำเลยได้ให้การปฏิเสธความผิด ไม่ได้พูดถึงเรื่องโจทก์ขอให้นับโทษต่อกัน แต่ก็มิได้มีการสอบถามจดบันทึกในเรื่องที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อไว้แต่ประการใด เช่นนี้ ยังไม่มีทางนับโทษต่อให้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อ จำเป็นต้องมีการสอบถามจำเลยและรับรองว่าเป็นคนเดียวกัน
การสั่งให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีก่อนนั้น จะกระทำได้ต่อเมื่อความปรากฏว่าจำเลยเป็นคนๆ เดียวกันกับจำเลยในคดีก่อนซึ่งศาลลงโทษไปแล้วการที่จำเลยได้ให้การปฏิเสธความผิด ไม่ได้พูดถึงเรื่องโจทก์ขอให้นับโทษต่อกันแต่ก็มิได้มีการสอบถามจดบันทึกในเรื่องที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อไว้แต่ประการใดเช่นนี้ ยังไม่มีทางนับโทษต่อให้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อในคดีอาญา: จำเป็นต้องมีเลขคดีแดงที่ชัดเจนของสำนวนที่ศาลเคยลงโทษแล้ว
เมื่อไม่ปรากฏเลขคดีแดงของสำนวนที่ศาลลงโทษ ก็ไม่อาจจะสั่งนับโทษต่อได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อในคดีปล้นทรัพย์: ต้องมีเลขคดีแดงที่ชัดเจน
เมื่อไม่ปรากฏเลขคดีแดงของสำนวนที่ศาลลงโทษ ก็ไม่อาจจะสั่งนับโทษต่อได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1689/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องอาญาต้องระบุเจตนาที่ชัดเจน หากมิได้ระบุเจตนาฆ่า แม้โจทก์อ้างมาตรา 250 ก็ลงโทษไม่ได้ และการนับโทษต่อต้องมีข้อมูลสนับสนุน
ฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยกับพวกได้สมคบกันมีอาวุธปืนและไม้ฆ้อนเป็นศาสตราวุธตียิงทำร้ายร่างกายนายกุ่นและนายมาเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้โดยจำเลยประสงค์จะเอาทรัพย์แล้วจำเลยกับพวกได้ปล้นเอาทรัพย์ของนายกุ่นนายมาไป ฯลฯ นายกุ่นได้ถึงแก่ความตามโดยพิษบาดแผลที่ถูกทำร้าย ฯลฯ ดังนี้เห็นได้ชัดว่าฟ้องโจทก์บรรยายถึงแต่เรื่องปล้นทรัพย์และเจ้าทรัพย์ถูกทำร้ายมีบาดเจ็บสาหัสและถึงตาย มิได้ระบุว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเจ้าทรัพย์เลย จะอ้างว่าโจทก์ได้ใส่หัวเรื่องในข้อหาฐานความผิดว่าสมคบกันทำการปล้นทรัพย์และฆ่าคนตายโดยเจตนามาประกอบฟ้องให้เข้าเกณฑ์ความผิดตาม ม.250 ก็ไม่ได้ เพราะว่าหัวเรื่องนั้นไม่เรียกว่าบรรยายคำฟ้อง ดังนี้แม้โจทก์จะอ้างบทมาตรา 250 มาด้วยก็ดี ก็ลงโทษจำเลยตาม ม.250 ไม่ได้เพราะว่าจำเลยเข้าใจข้อหาแต่เพียงว่าการปล้นทรัพย์ของจำเลยได้ทำให้เจ้าทรัพย์มีบาดเจ็บสาหัส
เมื่อไม่ปรากฎในสำนวนเลยว่าจำเลยเป็นคนๆเดียวกับในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ทั้งไม่ปรากฎว่าได้ต้องโทษอยู่ในคดีดังกล่าว และจำเลยก็มิได้ให้การรับ ดังนี้จึงนับโทษต่อให้ไม่ได้
of 10