คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บทบัญญัติ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 100 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสั่งริบของกลางในคดีการค้าข้าว แม้โจทก์มิได้อ้างบทบัญญัติโดยตรง
พระราชบัญญัติการค้าข้าว พุทธศักราช 2489 มาตรา 21 ทวิพระราชบัญญัติการค้าข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2489 มาตรา 12 เป็นบทบัญญัติให้ริบข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว เมื่อปรากฏตามคำฟ้องของโจทก์มีคำขอให้ศาลสั่งริบข้าวของกลางแล้ว แม้โจทก์จะไม่ได้อ้างบทมาตราของพระราชบัญญัติการค้าข้าวดังกล่าว ที่บัญญัติให้ริบของกลางมาในคำฟ้องด้วย ศาลก็มีอำนาจสั่งริบข้าวของกลางตามบทกฎหมายที่ถูกต้องได้ (อ้างฎีกา 485/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2409/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษความผิดพ.ร.บ.ป่าไม้: ศาลมีอำนาจลงโทษจำคุกสถานเดียวได้ แม้กฎหมายจะกำหนดทั้งจำและปรับ
แม้ความผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 73 ทวิจะมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงห้าหมื่นบาทก็ตาม ถ้าศาลเห็นสมควรจะลงแต่โทษจำคุกสถานเดียวโดยไม่ลงโทษปรับด้วยก็ได้ดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 20

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 130/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยในความผิดเสพยาเสพติด แม้โจทก์มิได้อ้างบทลงโทษโดยตรง ศาลสามารถลงโทษได้ตามบทบัญญัติที่เกี่ยวข้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเสพกัญชา อ้างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 57 อันเป็นบทห้ามแต่มิได้อ้าง มาตรา 92 ซึ่งเป็นบทลงโทษไม่ใช่เรื่องโจทก์ ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ ศาลลงโทษจำเลยตาม มาตรา 92 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1204/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการลงโทษจำคุกอย่างเดียว แม้กฎหมายกำหนดทั้งจำคุกและปรับ
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 20 ทวิ กำหนดโทษจำคุกและปรับ ศาลจำคุกโดยไม่ปรับได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 20

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2862/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นบิดามารดาและการรับบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย: บทบัญญัติใหม่ใช้ไม่ได้กับความสัมพันธ์เดิม
การเป็นบิดากับบุตรระหว่างนาย บ. กับผู้ร้องมีอยู่แล้วในวันที่ 16 ตุลาคม 2519 ซึ่งเป็นวันที่บทบัญญัติ บรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ได้ตรวจชำระใหม่ใช้บังคับ จึงนำบทบัญญัติบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ตรวจชำระใหม่มาใช้บังคับ หาได้ ไม่
ปัญหาว่าการฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรจะต้องฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันที่บุตรบรรลุนิติภาวะนั้นศาลจะหยิบยกขึ้นพิจารณาได้ก็ต่อเมื่อผู้คัดค้านได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้มิฉะนั้นคดีไม่มีประเด็นข้อนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อาวุธปืนเถื่อน การพกพาในที่สาธารณะ และขอบเขตของบทบัญญัติมาตรา 8 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.อาวุธปืน
อาวุธปืนตามมาตรา 8 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนนั้นหมายความรวมถึงอาวุธปืนซึ่งมีหมายเลขทะเบียน และได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนให้มีไว้ในความครอบครองและอาวุธปืนซึ่งไม่มีหมายเลขทะเบียน และไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนให้มีไว้ในความครอบครองด้วย เมื่อจำเลยพาอาวุธปืนซึ่งไม่มีหมายเลขทะเบียนและไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนให้มีไว้ในความครอบครองติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว จำเลยจึงต้องมีความผิดตามบทบัญญัติของกฎหมายมาตรานี้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2370/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องคดีทางปกครองยังไม่เกิดผลเนื่องจากยังไม่มีกฎหมายจัดตั้งศาลปกครอง แม้จะมีบทบัญญัติให้อำนาจไว้แล้ว
แม้ว่าพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2518 มาตรา 107 จะบัญญัติให้ผู้ถูกสั่งลงโทษมีสิทธิที่จะฟ้องคดีต่อศาลปกครองได้ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้รับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้บังคับบัญชา แต่มาตรา120 บัญญัติว่าในระหว่างที่ยังมิได้มีพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครอง สิทธิการฟ้องคดีต่อศาลปกครองของผู้ถูกลงโทษตามความในมาตรา 107 ยังไม่ให้ใช้บังคับ ดังนั้นเมื่อยังไม่มีพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครอง สิทธิการฟ้องคดีตามความในมาตรา 107 จึงยังไม่อาจกระทำได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1143/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำคุก 18 ปี เพิ่มลดโทษตามบทบัญญัติ มาตรา 92, 78 และ 54
ศาลจำคุกจำเลย 18 ปีตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 เพิ่มโทษตามมาตรา 92 หนึ่งในสาม ลดโทษตาม มาตรา 78 หนึ่งในสามอัตราส่วนเท่ากัน ศาลเห็นสมควรไม่เพิ่มไม่ลดตาม มาตรา 54 คง จำคุก 18 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษผู้ร่วมกระทำความผิดปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน: แยกพิจารณาโทษตามบทบัญญัติที่แตกต่างกัน
ข้อความของบทบัญญัติมาตรา 340 ตรี แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งเพิ่มเติมโดยข้อ 15 ของประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 นั้น แสดงความมุ่งหมายที่จะลงโทษให้หนักขึ้นเฉพาะตัวผู้ซึ่งต้องด้วยหลักเกณฑ์ที่บัญญัติไว้เป็นพิเศษนี้เท่านั้น มิใช่ว่าผู้ที่ร่วมกระทำการชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์รายเดียวกันจะต้องระวางโทษหนักขึ้นเช่นนี้ทุกคนเสมอไป จำเลยที่ 1 ที่ 3 กับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์ ขณะทำการปล้น จำเลยที่ 3 ได้ใช้อาวุธปืนยิงขู่ด้วย จำเลยที่ 3 จึงมีความผิดตามมาตรา 340 ตรี ต้องระวางโทษหนักกว่าโทษตามมาตรา 340 วรรคสี่อีกกึ่งหนึ่ง ส่วนจำเลยที่ 1 นั้นไม่ปรากฏว่าเป็นคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนด้วย จึงมีความผิดตามมาตรา 340 วรรคสี่เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2757/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำผิดป่าไม้: ศาลพิจารณาจากบทบัญญัติอาญาควบคู่กับดุลพินิจ
รถยนต์ของกลางที่จำเลยใช้ให้ลูกจ้างของตนนำไปบรรทุกถ่านจากผู้ที่ลักลอบเผา โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นถ่านที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น แม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้จะมีบทบัญญัติเกี่ยวแก่การริบทรัพย์เป็นพิเศษซึ่งไม่อาจใช้บังคับแก่รถยนต์ของกลางคันนี้ได้ แต่ตามพระราชบัญญัติดังกล่าวก็ไม่มีข้อความใดบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นอันจะแสดงให้เห็นว่าไม่ต้องการให้นำบทบัญญัติในภาค 1 แห่งประมวลกฎหมายอาญามาใช้บังคับ ต้องนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 มาใช้บังคับในการที่จะริบรถยนต์ของกลางที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิด(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 531/2510)
of 10