คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บังคับ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 71 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1822/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรโชกต้องมีการบังคับให้สัญญาจะส่งทรัพย์ หากบังคับให้ส่งเงินทันที ไม่เข้าข่ายความผิดฐานกรรโชก
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยใช้กำลังข่มขืนขู่เข็ญขืนใจให้ผู้เสียหายสัญญาจะส่งเงินให้แก่จำเลยกับพวก ขอให้ลงโทษฐานกรรโชก ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้เสียหายถูกบังคับให้เงินทันที จึงมิใช่เป็นเรื่องบังคับให้สัญญาว่าจะส่งทรัพย์ตามความหมายของกรรโชก จึงลงโทษจำเลยฐานกรรโชกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้เช่าช่วงไม่ยินยอมตามคำพิพากษา: ความรับผิดชอบเฉพาะตัวและขอบเขตการบังคับ
ศาลพิพากษาให้ผู้เช่าที่ดินและบริวารออกจากที่ดินที่เช่าและให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในที่ดินดังกล่าวไปให้เสร็จภายในกำหนดเวลา ดังนี้ เมื่อตัวผู้เช่าที่ดินได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของผู้เช่าเองออกไปหมดแล้ว แต่ผู้เช่าช่วงที่ดินรายนี้ ซึ่งการเช่าช่วงไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดินจึงตกเป็นบริวารของผู้เช่าด้วยนั้น ไม่ยอมรื้อสิ่งปลูกสร้างของผู้เช่าช่วงออกไป เช่นนี้โจทก์ควรขอให้ศาลหมายเรียกผู้เช่าช่วงนั้น มาจัดการว่ากล่าวบังคับให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตัวผู้เช่าช่วง ไม่ใช่เรื่องที่ผู้เช่าขัดขืนไม่ทำตามคำบังคับของศาล ฉะนั้นจะถือว่าผู้เช่าฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเงินกู้ที่มีเงื่อนไขโอนที่ดินเป็นสิทธิ: ศาลไม่อนุมัติการบังคับโอน หากผู้กู้ไม่ชำระหนี้
กู้เงินกันแล้วมอบที่ดินให้ผู้ให้กู้ครอบครองโดยมีเงื่อนไขว่าถ้าไม่ชำระเงินกู้ภายใน 1 ปี ผู้กู้ยอมโอนที่ให้เป็นสิทธิแก่ผู้ให้กู้ ดังนี้ เป็นเรื่องตาม ป.ม. แพ่งฯมาตรา 656 วรรค 2 ซึ่งผู้ให้กู้จะเอาที่ดินซึ่งผู้กู้ได้มอบให้ไว้ เพื่อได้ตกลงกันไว้หาได้ไม่เพราะกฎหมายให้คิดเป็นจำนวนเท่ากับราคาห้องตลาดแห่งสิ่งของหรือทรัพย์นั้น ฉะนั้นผู้ให้กู้จะฟ้องขอให้บังคับผู้กู้จัดการโอนที่ดินให้แก่โจทก์ไม่ได้และในกรณีเช่นนี้จะถือว่า ผู้ให้กู้ใด้สละสิทธิครองครองที่ดินที่มอบให้ไว้ก็ไม่ได้ เพราะยังจะต้องดำเนินการในเรื่องที่จะยอมโอนต่อไปอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 817/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าต้องมีข้อตกลงผูกพันทั้งสองฝ่าย เอกสารที่โจทก์อ้างเป็นเพียงการแสดงเจตนาฝ่ายเดียว จึงไม่สามารถบังคับให้จำเลยทำสัญญาได้
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทำสัญญาให้โจทก์ได้เช่าห้องของจำเลยโดยอ้างว่าได้ตกลงกับจำเลยแล้วตามสำเนาหนังสือท้ายฟ้องแต่หนังสือนี้มีข้อความเพียงว่า โจทก์จะรับเช่าห้องพิพาท ไม่มีข้อความว่าจำเลยตกลงจะให้เช่าหรือข้อความอื่นใดที่ผูกมัดจำเลยเลย ดังนี้ จึงไม่มีทางบังคับจำเลยตามฟ้องโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานใช้อำนาจในทางทุจริต บังคับให้ได้ทรัพย์สินโดยมิชอบ ไม่ใช่ปล้นทรัพย์
จำเลยที่ 1-2 เป็นพลตำรวจ ได้สมคบกันไปจับผู้เสียหายมา 2 คน บอกว่าสงสัยว่าลักควายของจำเลยที่ 3 และใส่กุญแจมือพามาบ้านจำเลยที่ 4 ในระหว่างเดินทาง จำเลยที่ 1 ได้เอาปืนยาวตีศีรษะผู้เสียหายให้เอาเงินมาคนละ 300 บาท ถ้าไม่ให้จะฆ่าทิ้งเสียในคืนนี้ ผู้เสียหายยอมรับจะให้คนละ 250 บาท แต่เวลานั้นยังไม่มีเงิน จำเลยจึงบอกให้ผู้เสียหายขายควายและให้เอาเรือน ที่บ้านและไร่ยาสูบขายฝากผู้อื่นไว้แล้วจำเลยที่ 1 ก็รับเอาเงินที่ขายควายและขายฝากเรือน ที่บ้านและไร่ยาสูบไป ดังนี้ การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามมาตรา 270 และมาตรา 136 ฐานใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริต หาใช่เป็นการปล้นทรัพย์ เพราะมิใช่การขู่เข็ญชิงเอาทรัพย์ไปจากความครอบครองของเจ้าทรัพย์ หากแต่เป็นการที่จำเลยบังคับให้เขาให้หรือให้เขาหาทรัพย์ หรือผลประโยชน์อันมิควรจะได้ตามกฎหมายมาให้แก่ตัวมันโดยมันเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่บังคับโดยทางอันมิชอบ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 268,270,301 แต่ข้อเท็จจริงตามฟ้องโจทก์สืบสมว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามมาตรา 270,136 แต่โจทก์อ้างบทหรือมาตราผิด ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ให้สินบลไม่มีสิทธิฟ้องผู้รับสินบล แม้ถูกบังคับให้จ่ายเงิน
ความผิดฐานรับสินบลตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา 138 นั้น ผู้ให้สินบลไม่มีสิทธิจะฟ้องขอให้ลงโทษผู้รับสินบลในฐานะเป็นผู้เสียหายได้.
(อ้างฎีกาที่ 968/2479)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ให้สินบนไม่มีสิทธิฟ้องผู้รับสินบน แม้ถูกบังคับให้ให้เงิน
ความผิดฐานรับสินบนตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 138 นั้นผู้ให้สินบนไม่มีสิทธิจะฟ้องขอให้ลงโทษผู้รับสินบนในฐานะเป็นผู้เสียหายได้(อ้างฎีกาที่ 968/2479)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 760-765/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนใจโดยใช้อำนาจบังคับให้ผู้อื่นกลัวภัยอันตราย เพื่อชิงทรัพย์
จำเลยเป็นตำรวจ ใช้อุบายขู่ว่าเป็นผู้เสียหายให้เงินแก่จำเลยเพื่อเอาไปให้แก่ผู้ร้ายสำคัญ ถ้าไม่ให้ก็จะต้องถูกผู้ร้ายกระทำร้ายในภายหลัง ดังนี้เรียกได้ว่า จำเลยบังคับโดยใช้อำนาจโดยมิชอบด้วย ก.ม. ขู่เข็ญข่มขืนใจให้ผู้เสียหายมีความกลัวต่อภัยอันตรายในอนาคต ซึ่งจะถูกพวกปล้นทำร้าย มีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 268 วรรคสุดท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 760-765/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนใจโดยใช้อำนาจมิชอบ: การบังคับให้ผู้เสียหายให้เงินเพื่อหลีกเลี่ยงภัยอันตรายจากผู้ร้าย
จำเลยเป็นตำรวจใช้อุบายขู่ว่าให้ผู้เสียหายให้เงินแก่จำเลยเพื่อเอาไปให้แก่ผู้ร้ายสำคัญ ถ้าไม่ให้ก็จะต้องถูกผู้ร้ายกระทำร้ายในภายหลัง ดังนี้เรียกได้ว่าจำเลยบังคับโดยใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมายขู่เข็ญข่มขืนใจให้ผู้เสียหายมีความกลัวต่อภัยอันตรายในอนาคตซึ่งจะถูกพวกปล้นทำร้ายมีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 268วรรคสุดท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 201/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานเรียกเก็บเงินที่ไม่ควรเก็บ และการใช้อำนาจหน้าที่บังคับเรียกทรัพย์
เสมียนวิสามัญในสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีหน้าที่เก็บเงินค่าเช่าแผงลอยหาบเร่ส่งต่อสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ย่อมเป็นเจ้าพนักงานท่านใช้ให้มีหน้าที่เก็บทรัพย์อันต้องส่งต่อรัฐบาลเมื่อไปเรียกเก็บแป๊ะเจี๊ยะ จึงได้ชื่อว่าเรียกเก็บเงินหรือทรัพย์ที่ไม่ควรจะเก็บตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 135
ความผิดตามมาตรา 136 นั้นเจ้าพนักงานผู้กระทำผิดจะต้องใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ของตนเองและต้องบังคับให้เขาให้ หรือให้เขาหาทรัพย์หรือผลประโยชน์อย่างใดๆ อันมิควรจะได้ตามกฎหมาย ให้แก่ตัวมันเองหรือแก่ผู้อื่น การบังคับให้เขาให้ทรัพย์ โดยอ้างว่าผู้อื่นให้มาเอาเป็นการอาศัยอำนาจในตำแหน่งหน้าที่ของผู้อื่น ไม่ใช่ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ของตัวเอง ทั้งเงินที่เรียกเอานั้นก็อ้างว่าจะไปส่งต่อองค์การรัฐบาล ไม่ใช่ตัวเอาเองหรือให้แก่ผู้อื่นดังนี้ยังไม่เป็นผิดตามมาตรา 136 ฎีกาโจทก์กล่าววันในฟ้องและจำนวนเงินผิดเพราะการพลั้งเผลอยังไม่พอจะเป็นเหตุให้ยกฎีกาโจทก์ ศาลต้องถือเอาฟ้องเดิมของโจทก์เป็นประมาณ
of 8