คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ปฏิบัติงาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 61 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1656-1659/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อการประมาทของลูกจ้างในการปฏิบัติงาน แม้มีผู้โดยสารนอกเหนือจากหน้าที่
ลูกจ้างมีหน้าที่ขับรถยนต์รับจ้างบรรทุกของ ในระหว่างทางลูกจ้างได้ให้ผู้อื่นอาศัยโดยสารรถยนต์มาด้วย และได้ขับรถโดยประมาททำให้รถคว่ำผู้ที่โดยสารมาได้รับบาดเจ็บ นายจ้างย่อมต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1656-1659/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อการประมาทของลูกจ้างขณะปฏิบัติงาน แม้มีผู้โดยสารมาด้วย
ลูกจ้างมีหน้าที่ขับรถยนต์รับจ้างบรรทุกของ ในระหว่างทางลูกจ้างได้ให้ผู้อื่นอาศัยโดยสารรถยนต์มาด้วย และได้ขับรถโดยประมาททำให้รถคว่ำผู้ที่โดยสารมาได้รับบาดเจ็บ นายจ้างย่อมต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 974/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างและลูกจ้างในความเสียหายจากการประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติงาน
คนขับรถยนต์ของมหาวิทยาลัยมีหน้าที่ขับรถยนต์รับและส่งนักเรียนและข้าราชการของมหาวิทยาลัยระหว่างมหา วิทยาลัยและที่ต่าง ๆ เมื่อขับไปชนรถยนต์อื่นโดยประาทเลินเล่อ ในระหว่างทางที่ไปและกลับนั้นเป็นเหตุให้คน โดยสารในรถที่ถูกชนแขนหัก ดังนี้มหาวิทยาลัยผู้เป็นนายจ้างต้องรับผิดร่วมกับผู้ขับรถยนต์ ซึ่งเป็นลูกจ้างด้วยซ.
ผู้โดยสารถูกรถชนแขนหักพิการก่อนแขนหักพิการ มีอาชีพในการถ่ายภาพยนต์และได้มีผู้ว่าจ้างไว้แล้ว เมื่อแขน หักพิการเขาจึงไม่จ้าง ดังนี้เป็นเรื่องเห็นได้ชัดว่า ต้องขาดประโยชน์ทั้งปัจจุบันและอนาคต อันเป็นประโยชน์ชอบจะ ได้โดยตรง ฉะนั้น ผู้ขับรถยนต์ชนเขาและนายจ้าง ต้องรับผิดในค่าเสียหายดังกล่าวแล้วด้วย./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11-12/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำละเมิดของลูกจ้างระหว่างปฏิบัติงาน
นายจ้างใช้ให้ลูกจ้างนำรถยนต์ของนายจ้างไปรับใช้งานของข้าหลวงประจำจังหวัด ลูกจ้างขับรถยนต์ไประหว่างทางด้วยความประมาท รถยนต์จึงชนคนตายดังนี้ ถือว่าลูกจ้างได้ทำละเมิดในทางการที่จ้าง นายจ้างต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2478

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิบัติตามข้อบังคับภายในของหน่วยงานเพื่อขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน และการคุ้มครองตามมาตรา ๕๒
พนักงานรถไฟไม่ยอมให้ตำรวจทำการตรวจค้นฝิ่นเถื่อนบนรถไฟโดยเชื่อและกระทำตามข้อบังคับของกรมรถไฟนั้น ไม่มีผิดฐานขัดขวางเจ้าพนักงาน ฎีกาอุทธรณ์ ข้อเท็จจริง ข้อที่ว่าจำเลยกระทำโดยสุจริตหรือทุจจริตนั้นเป็นข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 393/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิบัติงานตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาโดยสุจริตและมีเหตุผลสมควร ทำให้ไม่มีความผิด
จำเลยตรอกข้อความในใบเสร็จรับเงินตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยสุจริตและมีเหตุผลสมควรว่า "ได้ตรวจรับของไว้ถูกต้องตามใบสำคัญแล้ว" ดังนี้ จำเลยไม่มีผิดตาม ม.52

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11044/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างทำของ vs. เช่าทรัพย์: ความรับผิดจากความประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติงาน
แม้คู่ความจะรับกันว่า สัญญาระหว่างบริษัท ท. กับจำเลยเป็นการเช่าทรัพย์ตามข้อความที่ระบุในสำเนาหนังสือขอเสนอราคาค่าเช่าและใบรับงานเช่า แต่ ข. คนขับรถเครนคันเกิดเหตุเป็นพนักงานบริษัทจำเลยเป็นผู้ควบคุมปั้นจั่นรถเครนในการยกเครื่องจักรขึ้นลงตามความชำนาญงานของตน ส่วน ก. พนักงานบริษัท ท. เป็นเพียงผู้กำหนดจุดที่ตั้งเครื่องจักร ก. ไม่มีอำนาจกำหนดวิธีการใช้อุปกรณ์หรือปั้นจั่นของรถเครน ดังนี้ การงานที่ทำดังกล่าวมีลักษณะสำคัญเป็นการงานที่จำเลยตกลงรับทำให้บริษัท ท. ผู้ว่าจ้างจนสำเร็จและผู้ว่าจ้างตกลงให้สินจ้างเพื่อผลสำเร็จแห่งการที่ทำนั้น โดยจำเลยเป็นผู้จัดหาเครื่องมือคือรถเครน สัญญาระหว่างบริษัท ท. กับจำเลยมีลักษณะเป็นสัญญาจ้างทำของตาม ป.พ.พ. มาตรา 587 เพราะมุ่งเน้นเอาผลสำเร็จของการงานที่ทำเป็นสำคัญ หาใช่เป็นสัญญาเช่าทรัพย์ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 537 จำเลยรวมทั้งพนักงานของจำเลยมิได้ใช้ความระมัดระวังในการตรวจสอบปั้นจั่นรถเครนคันเกิดเหตุให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยก่อนนำไปใช้ทำการงานที่รับจ้าง เป็นเหตุให้เครื่องจักรรูดตกลงไปกระแทกพื้นได้รับความเสียหาย เป็นผลที่สืบเนื่องมาจากความประมาทเลินเล่อของจำเลยและพนักงานขับรถบริษัทจำเลย จำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บริษัท ฮ. ผู้ซื้อเครื่องจักร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21742/2556

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่โดยชอบ ศาลยกฟ้อง เนื่องจากโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องโดยตรง ต้องฟ้องหน่วยงานของรัฐ
ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฉบับที่ 30 ได้แต่งตั้งจำเลยเป็นกรรมการในคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการและโครงการที่ได้รับอนุมัติหรือเห็นชอบโดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีที่พ้นตำแหน่งโดยผลของการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะเป็นไปโดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบ และคณะกรรมการตรวจสอบดังกล่าวได้แต่งตั้งจำเลยเป็นประธานอนุกรรมการตรวจสอบการให้กู้เงินแก่สหภาพพม่าจำนวน 4,000 ล้านบาทของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย จำเลยจึงเป็น "เจ้าหน้าที่" ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 มาตรา 4
เมื่อพิจารณาข่าวสารทางสำนักข่าวไทยและทางหนังสือพิมพ์แล้ว เนื้อหาของข่าวเป็นเรื่องเกี่ยวกับผลการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการตรวจสอบที่กระทำไปตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เป็นการให้ข้อมูลข่าวสารการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตรวจสอบและคณะอนุกรรมการตรวจสอบแก่ประชาชนทั่วไป การให้ข่าวเกี่ยวกับการปฏิบัติงานย่อมเป็นอำนาจทั่วไปของคณะกรรมการตรวจสอบและคณะอนุกรรมการตรวจสอบ จำเลยจึงมีอำนาจกระทำได้ เมื่อจำเลยเป็นเจ้าหน้าที่และการให้ข่าวของจำเลยเป็นการกระทำในการปฏิบัติหน้าที่ การที่โจทก์อ้างว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการกระทำละเมิดทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์ต้องฟ้องหน่วยงานของรัฐให้รับผิด แต่จะฟ้องจำเลยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ไม่ได้ ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 มาตรา 5 วรรคหนึ่ง และแม้ว่าคณะกรรมการตรวจสอบที่มีจำเลยเป็นกรรมการคนหนึ่งนั้นจะไม่เป็นหน่วยงานของรัฐหรือสังกัดหน่วยงานของรัฐ แต่ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 มาตรา 5 วรรคสอง ให้ถือว่ากระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานของรัฐที่ต้องรับผิดชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10392/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อละเมิดของลูกจ้างขณะปฏิบัติงานตามคำสั่ง แม้หลังเลิกงาน
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างขับรถยนต์บรรทุกไม้ยางให้แก่จำเลยที่ 2 หลังเลิกงานจำเลยที่ 2 ยินยอมให้ลูกจ้างนำรถไปเก็บไว้เอง เพื่อประโยชน์ในการบำรุงรักษารถและนำรถกลับมาบรรทุกไม้ยางให้จำเลยที่ 2 โดยจำเลยที่ 2 ไม่ต้องไปส่งลูกจ้าง การที่จำเลยที่ 1 ขับรถไปในเวลากลางคืนในขณะเกิดเหตุซึ่งเป็นเวลาหลังเลิกงานด้วยความยินยอมของจำเลยที่ 2 และเพื่อนำไปเก็บไว้ยังที่พักของจำเลยที่ 1 เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของจำเลยที่ 2 เพื่อประโยชน์ของนายจ้างเองที่จะนำรถกลับมาใช้งานให้จำเลยที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถชนผู้ตายและบุตรระหว่างขับรถกลับบ้าน ถือว่าเป็นการขับรถไปในทางการที่จ้าง จำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดในเหตุละเมิดกับจำเลยที่ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5607/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม: พิจารณาจากความบกพร่องในการปฏิบัติงานและประวัติการทำงาน
จำเลยมีข้อมูลในการพิจารณาปฏิบัติงานของโจทก์พอสมควรอยู่แล้ว แม้ไม่มีการสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม จำเลยก็สามารถพิจารณาว่ามีเหตุสมควรเลิกจ้างโจทก์หรือไม่ได้ การสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเป็นเพียงแสวงหาข้อเท็จจริงซึ่งทำให้จำเลยมีข้อมูลในการพิจารณามากขึ้นเท่านั้น การตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมแม้จะปฏิบัติไม่ถูกต้องและเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับของจำเลย ก็ไม่เป็นเหตุที่จะมีคำสั่งเลิกจ้างไม่ได้ เพราะการสั่งเลิกจ้างเป็นการใช้อำนาจบริหารโดยอาศัยข้อบังคับจำเลย ว่าด้วยเรื่องการบรรจุ การแต่งตั้ง การเรียกประกัน การเลื่อนเงินเดือนและการถอดถอนสำหรับพนักงานตามข้อบัง 20 (2) ไม่ใช่กรณีมีคำสั่งเกี่ยวกับเรื่องวินัย เมื่อโจทก์บกพร่องในการปฏิบัติงาน ประกอบกับโจทก์เคยมีประวัติถูกตัดเตือนเรื่องการดำเนินงานมาแล้ว การที่จำเลยพิจารณารายงานการสอบสวนโจทก์แล้วเห็นว่าไม่อาจไว้วางใจโจทก์ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ และมีคำสั่งเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยให้จึงไม่ใช่การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม
of 7