คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประนีประนอม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 137 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงประนีประนอมในคดีแพ่ง: การบอกเลิกข้อตกลงและการดำเนินกระบวนการพิจารณาต่อไป
ในชั้นพิจารณาคู่ความแถลงว่าตกลงกันได้ ฝ่ายจำเลยจะหาเงินมาซื้อที่ดินและบ้านพิพาทคืน โดยจำเลยจะชำระเงินให้โจทก์ทั้งหมดภายในเวลา 2 เดือนแล้วโจทก์จะถอนฟ้องคดีนี้ แต่เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินภายในกำหนด และโจทก์แถลงว่าจะไม่ให้เวลาจำเลยอีก ถือได้ว่าโจทก์บอกเลิกข้อตกลงดังกล่าวแล้ว ดังนี้การที่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานและพิพากษาขับไล่จำเลยจึงไม่ชอบ ต้องดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 706/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความการทำงานหลังประนีประนอม: การนับอายุงานใหม่เมื่อสภาพการจ้างเดิมสิ้นสุด
โจทก์เคยทำงานกับจำเลย ต่อมาโจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแรงงานกล่าวหาว่าจำเลยผิดสัญญาเรียกค่าเสียหายและเงินต่าง ๆ หลายประเภท คดีดังกล่าวตกลงกันได้โดยการประนีประนอมยอมความและศาลพิพากษาตามยอมแล้วว่า บริษัทจำเลยยอมจ่ายเงินจำนวนหนึ่งแก่โจทก์ ยอมรับโจทก์กลับเข้าทำงาน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2527 เป็นต้นไป ดังนี้ สภาพการจ้างระหว่างโจทก์จำเลยที่มีอยู่เดิมยุติลงแล้วด้วยการที่โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลแรงงานกลาง เมื่อโจทก์จำเลยยอมความกันก็มิได้กล่าวถึงว่าจะนับอายุการทำงานเดิมต่อกับอายุการทำงานใหม่หรือไม่ ทั้งคดีดังกล่าวโจทก์ก็มิได้ขอให้บังคับจำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงานใหม่ โจทก์จึงจะนับอายุการทำงานที่ตกลงกันใหม่ต่อจากอายุการทำงานเดิมมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2868/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินหลังประนีประนอม: สิทธิในการจดทะเบียนไม่ใช่กรรมสิทธิ์
โจทก์กับจำเลยที่1ที่2ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันให้ที่ดินพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์และศาลพิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามนั้นดังนี้โจทก์ได้แต่สิทธิตามคำพิพากษาที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิได้ก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1300หาได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1299วรรคสองไม่โจทก์จึงไม่มีสิทธิติดตามเอาคืนโฉนดสำหรับที่ดินดังกล่าวจากจำเลยที่3ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1336.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3784/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายประนีประนอม: ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยต้องผูกพันตามสัญญาประนีประนอมที่ทนายทำไป แม้มีข้อตกลงก่อนหน้า
จำเลยแต่งตั้งให้ทนายจำเลยมีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ ทนายจำเลยย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจเต็มที่ขณะทำสัญญาประนีประนอมต่อหน้าศาลว่าข้อความและจำนวนเงินที่จะตกลงกับโจทก์นั้นเหมาะสมไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกัน เมื่อทนายจำเลยใช้ดุลพินิจไตร่ตรองแล้วจึงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ต่อหน้าศาลไปแล้ว แม้จะมีข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเป็นอย่างอื่นก่อนหน้าทำสัญญาประนีประนอมยอมความก็ตามจำเลยจะอ้างว่าเป็นการทำไปโดยโจทก์ฉ้อฉลหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3066/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสัญญากู้เท็จมาฟ้องแล้วทำประนีประนอมยอมความ ไม่ถือว่านำสืบหลักฐานเท็จ
จำเลยได้อาศัยหนังสือสัญญากู้อันเป็นเท็จมาฟ้องผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้กู้ แล้วมีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาล และศาลได้พิพากษาไปตามยอมนั้น ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการนำสืบหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีของศาลจำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3634/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเดิมยังไม่ระงับ สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากการผิดสัญญาคงอยู่ แม้มีการเจรจาประนีประนอม
โจทก์บรรยายฟ้องถึงมูลหนี้ตามสัญญาซึ่งจำเลยมีต่อโจทก์ไว้โดยชัดแจ้ง และต่อมาจำเลยผิดสัญญา แม้โจทก์จะกล่าวอ้างว่าจำเลยได้มาเจรจาประนีประนอมยอมความจะผ่อนชำระเป็นงวด ๆ แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าโจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน มูลหนี้ตามสัญญาเดิมจึงยังไม่ระงับสิ้นไป โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่การที่จำเลยไม่ชำระหนี้ให้ถูกต้องตามสัญญาได้ และไม่เป็นการวินิจฉัยคดีเกินคำขอในฟ้องของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3634/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาไม่ระงับเมื่อไม่มีข้อตกลงประนีประนอม โจทก์มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลยได้
โจทก์บรรยายฟ้องถึงมูลหนี้ตามสัญญาซึ่งจำเลยมีต่อโจทก์ไว้โดยชัดแจ้ง และต่อมาจำเลยผิดสัญญา แม้โจทก์จะกล่าวอ้างว่าจำเลยได้มาเจรจาประนีประนอมยอมความจะผ่อนชำระเป็นงวด ๆ แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าโจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน มูลหนี้ตามสัญญาเดิมจึงยังไม่ระงับสิ้นไป โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่การที่จำเลยไม่ชำระหนี้ให้ถูกต้องตามสัญญาได้ และไม่เป็นการวินิจฉัยคดีเกินคำขอในฟ้องของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3583/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับค่าชดเชยที่เป็นโมฆะ หากขัดต่อประกาศกระทรวงมหาดไทยคุ้มครองแรงงาน
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน มีวัตถุประสงค์ในอันที่จะก่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ลูกจ้างเป็นการคุ้มครองและอำนวยประโยชน์แก่ลูกจ้างจึงเป็นกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนสัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับค่าชดเชยซึ่งทำขึ้นผิดแผกแตกต่างไปจากประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานจึงเป็นโมฆะใช้บังคับมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3417/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีที่ดินหลังมีคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอม ผู้ร้องมีสิทธิขอให้ปล่อยจากการยึด
จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความโอนที่พิพาท ให้ผู้ร้องเป็นการใช้หนี้เงินกู้และศาลพิพากษาให้เป็นไป ตามสัญญาประนีประนอมยอมความจนคดีถึงที่สุดแล้วแม้ จะยัง ไม่มีการแก้ทะเบียนโอนสิทธิครอบครองตาม หนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นชื่อผู้ร้อง ผู้ร้องก็อยู่ในฐานะที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิของตนตามคำพิพากษาได้อยู่ก่อนแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1300 โจทก์จะบังคับคดียึดที่พิพาทเป็นการกระทบกระทั่งสิทธิของผู้ร้องไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 287(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 993/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1962/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาแบ่งที่ดินตามส่วนการครอบครองเดิมสำคัญกว่าเนื้อที่จริง ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
โจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์ส่วนหนึ่งของที่พิพาทมาจาก ข. ผู้ถือกรรมสิทธิ์รวมกับจำเลยแล้ว โจทก์ครอบครองที่พิพาทส่วนทางทิศเหนือตามที่ ข. เจ้าของเดิมครอบครองมา ส่วนจำเลยครอบครองทางทิศใต้โดยถือเอาคันสวนเป็นแนวเขต ต่อมาโจทก์จำเลยได้ทำบันทึกตกลงแบ่งกรรมสิทธิ์รวมมีความว่า โจทก์จำเลยตกลงแบ่งส่วนที่ดินของตนที่มีอยู่ในที่ดินแปลงนี้ออกจากกัน ทางทิศใต้แบ่งเป็นของจำเลยให้ได้เนื้อที่ครึ่งหนึ่ง ส่วนแปลงคงเหลือเป็นของโจทก์ บันทึกดังกล่าวเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความใช้บังคับกันได้
บันทึกดังกล่าวข้อ 1 ระบุว่าให้แบ่งตามส่วนที่แต่ละฝ่ายมีอยู่ กับข้อ 2 ระบุว่า โจทก์จำเลยจะนำช่างแผนที่ไปทำการรับวัดปักหลักเขตให้เป็นการแน่นอนต่อไป เมื่ออ่าน 2 ข้อประกอบกันแล้วเห็นได้ว่า คู่กรณีเจตนาให้แบ่งกันตามส่วนที่ทั้งสองฝ่ายมีอยู่แล้ว ต้องถือตามเจตนาที่แท้จริงของคู่กรณี คือแบ่งครึ่งกันตามที่ทั้งสองฝ่ายนำชี้ที่ซึ่งตนครอบครองอยู่แล้ว หาใช่แบ่งครึ่งกันตามเนื้อที่ที่คำนวณได้ไม่
of 14