คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประเมิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 121 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3761/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินอากรผิดพลาดจากความคลาดเคลื่อนในการแปลเอกสารและการส่งสินค้าผิดชนิด ศาลฎีกาแก้ไขดอกเบี้ยให้เป็นไปตามคำฟ้อง
โจทก์สำแดงรายการสินค้าในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเป็นภาษาไทยว่าสินค้าที่โจทก์นำเข้าคืออุปกรณ์ของปากกา ยี่ห้อ เรโนลด์ ชนิด 094 ความจริงสินค้าที่โจทก์นำเข้าคือปากกาลูกลื่น ยี่ห้อเรโนลด์ ชนิด 093 เมื่อปรากฏว่าเหตุที่ระบุว่าเป็นอุปกรณ์ของปากกาเป็นเพราะผู้ทำใบขนแปลเป็นภาษาไทยผิดพลาด และที่เป็นปากกาลูกลื่นชนิด 093 เพราะผู้ขายส่งมาให้ผิดไปจากที่โจทก์สั่งซื้อ ดังนี้ เมื่อปากกาทั้งสองชนิดมีราคาเท่ากัน การที่ผู้ขายส่งปากกาชนิด 093 มาให้ก็ไม่ทำให้อากรขาเข้าเปลี่ยนแปลงไป การที่จำเลยประเมินให้โจทก์ชำระอากรขาเข้าเพิ่มขึ้น จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำฟ้องของโจทก์ขอให้จำเลยคืนอากรขาเข้าพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องคือวันที่ 23 พฤษภาคม 2531 การที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้จำเลยคืนอากรขาเข้าพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2529 จึงเป็นการพิพากษาให้จำเลยชำระเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้องปัญหานี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1722/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินราคาภาษีอากรที่ถูกต้อง: การเปรียบเทียบราคาต้องคำนึงถึงปริมาณ เวลา และแหล่งที่มาของสินค้า
จำเลยนำสินค้าพิพาทจากประเทศ สิงคโปร์เข้ามา 2 ครั้ง ครั้งแรกแบบ ซีวีโอ 700 จำนวน 150 ชุด ครั้งที่ 2 แบบ ซีวีโอ 500 จำนวน204 ชุด โดยสั่งซื้อ จากบริษัท ช. ราคาสินค้าพิพาทที่จำเลยสำแดงก็เท่ากับที่ผู้นำเข้ารายอื่นนำเข้าทางท่าเรือกรุงเทพในระยะเวลานั้น การที่โจทก์นำราคาสินค้าชนิดเดียวกันซึ่ง ว. สั่งซื้อ จากผู้ขายต่าง รายกัน และนำเข้าในจำนวนน้อยกว่ามาก โดย นำเข้าแบบซีวีโอ 500 จำนวน 100 ชุด และแบบ ซีวีโอ 700 จำนวนเพียง 2 ชุดเพียงรายเดียว มาเปรียบเทียบกับราคาสินค้าของจำเลย โดย ถือว่าเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดแล้วเรียกเก็บภาษีอากรเพิ่มเติมจากจำเลย ทั้ง ๆ ที่ระยะเวลานำเข้าก็ต่างกันเกือบ 1 ปี และต่าง ปีกันจึงไม่ถูกต้อง ถือได้ว่าราคาสินค้าที่จำเลยสำแดงไว้เป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1678/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษี: หลักฐานการซื้อขายดอกฝ้ายไม่น่าเชื่อถือ, การยอมรับการประเมินของตัวแทนโจทก์
โจทก์ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรมทอฝ้าย ปั่นฝ้าย และจำหน่ายฝ้าย โจทก์อ้างว่า ในปี พ.ศ. 2509-2520 โจทก์ซื้อดอกฝ้ายจากพ่อค้า ชาวไร่ และสหกรณ์ในหลายจังหวัดเป็นเงิน 48 ล้านบาทเศษและ 43 ล้านบาทเศษตามลำดับ โดยซื้อในราคาใกล้เคียงกับราคาที่ปรากฏในวารสารฝ้ายและสิ่งทอ แต่ใบเสร็จรับเงินที่โจทก์นำมาแสดงเป็นแบบพิมพ์ที่โจทก์จัดทำขึ้นเอง โจทก์จึงมีโอกาสที่จะกรอกแบบพิมพ์เหล่านี้ให้ผิดไปจากความเป็นจริงได้โดยง่าย เมื่อพยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบเกี่ยวกับราคาดอกฝ้ายไม่มีน้ำหนัก ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าโจทก์ซื้อดอกฝ้ายตามราคาที่อ้าง การที่จำเลยสุ่มตัวอย่างราคาดอกฝ้ายตามใบเสร็จรับเงินในแต่ละเดือนแล้วนำราคามาถัวเฉลี่ยเป็นราคาดอกฝ้ายนั้น ถือเป็นวิธีการที่มีเหตุผล เมื่อปรากฏว่าราคาถัวเฉลี่ยของดอกฝ้ายดังกล่าวมีราคาต่ำกว่าราคาดอกฝ้ายที่โจทก์อ้างข้างต้น จึงถือตามราคาถัวเฉลี่ยดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3307/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าต้องประเมินจากพฤติการณ์การกระทำและบาดแผล การทำร้ายด้วยมีดแต่บาดแผลเล็กน้อยอาจไม่ถึงเจตนาฆ่า
จำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหาย 1 ที ผู้เสียหายใช้มือรับไว้มีดบาดง่ามมือบาดแผลเพียงเล็กน้อยใช้เวลารักษา 7-10 วันแสดงว่าจำเลยมิได้แทงโดยแรงเช่นกริยาของคนที่ต้องการจะฆ่ากัน ทั้งสาเหตุที่แทงก็เกิดจากการที่จำเลยอ้างว่าผู้เสียหายเล่นไพ่โกง มีการพูดปรับความเข้าใจกันแล้วเกิดทำร้ายกันขึ้น ซึ่งไม่ใช่สาเหตุร้ายแรง จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งแจ้งการประเมินภาษีที่ชอบด้วยกฎหมายและการไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรา 30
จำเลยส่งแบบแจ้งการประเมินแก่โจทก์ ไม่มีผู้ใดยอมรับ จำเลยจึงได้นำแบบแจ้งการประเมินไปปิดไว้ที่หน้าประตูสำนักงานโจทก์ตามที่โจทก์ระบุในการยื่นแบบ อ.1 แม้สำนักงานดังกล่าวจะเป็นสำนักงานสาขาของโจทก์ก็รวมอยู่ในความหมายของคำว่าสำนักงานตามที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากรมาตรา 8 ที่ใช้บังคับขณะนั้น การที่เจ้าหน้าที่ของจำเลยปิดแบบแจ้งการประเมิน ณสถานที่ดังกล่าวจึงเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ตามมาตรา 30 แห่งพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่14) พ.ศ. 2529 มาตรา 30 วรรคหก (2) กำหนดไว้มิให้ใช้บทบัญญัติมาตรา 30 บังคับแก่บุคคลที่เจ้าพนักงานประเมินได้ทำการประเมินหรือสั่งให้เสีย.....โดยได้ทำการประเมินหรือสั่งก่อนวันที่พระราชกำหนดนี้ใช้บังคับ คดีนี้เจ้าพนักงานประเมินแจ้งการประเมินให้โจทก์ทราบก่อนวันที่พระราชกำหนดใช้บังคับโจทก์จึงไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 30 ทั้งการประเมินของจำเลยเป็นการประเมินภาษีการค้า ส่วนที่โจทก์ยื่นคำขอเสียภาษีอากรตามมาตรา 30 เป็นเรื่องภาษีเงินได้นิติบุคคลแม้โจทก์จะเสียภาษีส่วนนี้ไปแล้วก็เป็นภาษีคนละประเภทกันโจทก์จึงไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรา 30 แห่งพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2529 โดยนัยนี้ด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3071/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษี: หลักฐานการซื้อขายยางไม่ชัดเจน ศาลฎีกาพิพากษากลับ สนับสนุนการประเมินของเจ้าพนักงาน
ใบรับเงินซึ่งเป็นหลักฐานการจ่ายเงินของโจทก์มีแต่ชื่อตัวผู้รับเงินซึ่งเป็นผู้ขาย โดยไม่ระบุนามสกุลและบ้านเลขที่ของผู้รับเงินหรือผู้ขายแสดงว่าโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ตัวผู้ขายยางและรับเงินไปจากโจทก์ได้ น่าเชื่อว่าโจทก์ทำใบรับเงินเหล่านี้ขึ้นเอง ต้องถือว่ารายจ่ายของโจทก์ตามใบรับเงินที่โจทก์นำมาให้ตรวจสอบนั้นเป็นรายจ่ายที่พิสูจน์ไม่ได้ว่าใครเป็นผู้รับเงินจึงไม่ให้ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิตามประมวลรัษฎากรมาตรา 65 ตรี(18) เมื่อใบรับเงินที่โจทก์กล่าวอ้างทั้งหมดรับฟังไม่ได้ ราคายางที่โจทก์ซื้อตามที่ระบุในใบรับเงินย่อมรับฟังไม่ได้ตามไปด้วย การที่จำเลยกำหนดราคายางขึ้นมาโดยอาศัยประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหลัก ย่อมเป็นการกำหนดราคาที่มีเหตุผลทั้งราคายางตามประกาศดังกล่าวก็ระบุไว้โดยละเอียดเป็นรายเดือนทุกเดือนตามประเภทของยาง การกำหนดราคายางที่จำเลยกระทำจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2860/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินเพื่อหากำไรและการหักค่าใช้จ่ายทางภาษี ศาลยืนตามประเมินเจ้าพนักงาน
โจทก์ทั้งสองเป็นสามีภรรยากันซื้อที่ดินมาแล้วแบ่งแยกที่ดินออกเป็นแปลงย่อยเนื้อที่เพียงเล็กน้อย มีลักษณะเพื่อที่จะปลูกสร้างตึกแถว และต่อมาหลังจากโจทก์ซื้อที่ดินดังกล่าวแล้วไม่ถึง3 ปี ได้ขายไปในช่วงระยะเวลาอันสั้น ส่อแสดงให้เห็นว่าโจทก์ซื้อที่ดินมาแล้วขายไปในทางการค้าหรือหากำไร เพราะคำว่าการขายโดยมุ่งในทางการค้าหรือหากำไรหมายความว่าหากมีการซื้อที่ดินมาเพื่อจะขายเพื่อเอากำไรก็เรียกว่าเป็นการค้า แม้จะกระทำเพียงครั้งเดียวก็ถือได้ว่าเป็นการขายโดยมุ่งในทางการค้าหรือหากำไรแล้ว การคำนวณเงินได้สุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และการคำนวณภาษีการค้านั้นมีหลักเกณฑ์ไม่เหมือนกัน ไม่เป็นผลผูกมัดถึงกันอย่างใด การขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไรจะต้องเสียภาษีการค้า และเมื่อโจทก์ขายที่ดินที่ได้มาโดยมุ่งทางการค้าหรือหากำไรแล้ว ดังนั้น ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โจทก์จึงไม่มีสิทธิหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้ร้อยละ 80 ของเงินได้พึงประเมิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2403/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าต้องประเมินจากพฤติการณ์ยิง แม้ใช้ปืนประสิทธิภาพสูง แต่หากกระสุนไม่ตรงเป้าหรือไม่รัวยิงต่อเนื่อง อาจฟังได้แค่ขู่
ผู้เสียหายมาพบเห็นจำเลยกำลังลักสังกะสีบนหลังคาจึงร้องถามจำเลย จำเลยกระโดดลงมาจากหลังคาคว้าเอาอาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงมายังผู้เสียหาย 2 นัด ขณะอยู่ห่างผู้เสียหายประมาณ 3 วา กระสุนปืนถูกดินห่างจากผู้เสียหายประมาณครึ่งเมตร ผู้เสียหายคลานหลบหนีมาได้ 5 วา ก็ได้ยินเสียงปืนดังมาจากจำเลยอีก 2 นัด และ 3 นัดตามลำดับ การที่จำเลยใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงใช้ยิงทีละนัดก็ได้หรือจะยิงทีละหลายนัดก็ได้ยิงมายังผู้เสียหายครั้งแรก 2 นัด โดยไม่ปรากฏสิ่งกำบังระหว่างจำเลยกับผู้เสียหาย หากจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายก็อาจยิงรัวไปที่ผู้เสียหายโดยไม่ต้องเล็ง กระสุนปืนย่อมจะถูกผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้โดยง่าย แต่การที่จำเลยยิงไปที่ผู้เสียหายกระสุนปืนตกห่างผู้เสียหายเพียงครึ่งเมตร และยิงครั้งต่อไปกระสุนปืนไม่ถูกผู้ใดเลย แสดงว่าจำเลยยิงขู่เพื่อการพาทรัพย์ที่ลักไป ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยยิงผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่า จำเลยไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2353/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ส่งบัญชีและเอกสารประกอบการลงบัญชีตามหมายเรียก ทำให้เจ้าพนักงานประเมินภาษีตามอัตราที่กฎหมายกำหนดได้
โจทก์มีบัญชีทั้งหมด 3 เล่ม คือ บัญชีเงินสด บัญชีแยกประเภทและบัญชีรายรับทั่วไป เมื่อเจ้าพนักงานประเมินออกหมายเรียกให้โจทก์นำบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชีและเอกสารประกอบการลงบัญชีไปเพื่อตรวจสอบ โจทก์คงส่งแต่เพียงบัญชีเงินสด เอกสารใบสำคัญคู่จ่าย สัญญารับเหมาก่อสร้าง สำเนาแบบเสียภาษีการค้าและสำเนาใบเสร็จรับเงิน โดยไม่ยอมส่งบัญชีพร้อมทั้งหลักฐานและเอกสารประกอบการลงบัญชีอย่างอื่นให้เจ้าพนักงานประเมินทำการตรวจสอบไต่สวนซึ่งไม่เพียงพอแก่การตรวจสอบ เจ้าพนักงานประเมินจึงมีอำนาจประเมินภาษีเงินได้นิติบุคคลของโจทก์ในอัตราร้อยละ 5 ของยอดรายรับก่อนหักรายจ่ายตามมาตรา 71 (1) แห่งประมวลรัษฎากรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1914/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิยกเว้นการประเมินภาษีหลังยื่นคำขอเสียภาษีเพิ่มเติม แม้ข้อมูลในแบบแสดงรายการไม่ถูกต้อง
พระราชกำหนด กำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 14)พ.ศ. 2529 เปิดโอกาสให้ผู้ที่ยังไม่ได้เสียภาษีหรือเสียไว้ไม่ถูกต้อง ยื่นคำขอเสียภาษีภายในระยะเวลาและตามแบบที่อธิบดีกำหนดเมื่อผู้ยื่นคำขอเสียภาษีได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว ก็เป็นอันให้ผู้นั้นได้รับยกเว้นจากการเรียกตรวจสอบไต่สวนประเมิน ผู้ยื่นคำขอจะหมดสิทธิที่จะได้รับยกเว้นตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 30 วรรคแรก คงมีเฉพาะเพียงกรณีตามมาตรา30 วรรคห้าเท่านั้น ดังนี้ เมื่อ อ. ยื่นคำขอเสียภาษีอากรตามแบบ อ.1 และได้ชำระภาษีอากรแล้ว แม้ภายหลังจะปรากฏว่าอ.ได้แสดงรายการทรัพย์สินหนี้สินรายได้ไม่ถูกต้องในแบบอ.1ก็เป็นเพียงคำขอเสียภาษีมีข้อบกพร่องเท่านั้น หาทำให้ อ.ไม่ได้รับสิทธิยกเว้นจากการเรียกตรวจสอบ ไต่สวน ประเมินหรือสั่งให้เสียภาษีอากรไม่
of 13