คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ป้องกันตัว

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: ผู้ถูกทำร้ายมีสิทธิป้องกันตนเองเมื่อถูกทำร้ายก่อน
ฝ่ายผู้เสียหายเป็นฝ่ายหาเหตุ และเป็นฝ่ายเข้าตีทำร้ายร่างกายฝ่ายจำเลยทั้งสี่ก่อน เมื่อผู้เสียหายกับพวกเข้าทำร้ายก่อนโดยละเมิดต่อกฎหมายเช่นนี้ จำเลยทั้งสี่ย่อมมีสิทธิที่จะป้องกันตัวให้พ้นภยันตรายที่เกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายอันเป็นภัยที่ใกล้จะถึงเช่นนั้นได้ เมื่อฝ่ายจำเลยทั้งสี่มีจำนวนคนน้อยกว่าฝ่ายผู้เสียหาย ประกอบกับอาวุธที่ใช้กันก็เป็นพลั่ว จอบเสียม และมีด อันมีสภาพเป็นเครื่องมือสำหรับชาวนาใช้ในการทำนา ซึ่งปกติมีติดตัวอยู่ และบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับก็ไม่ร้ายแรงมากนัก จึงถือได้ว่าจำเลยทั้งสี่กระทำไปพอสมควรแก่เหตุ จำเลยทั้งสี่จึงไม่มีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 295และ 297
ปรากฎตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นว่าจำเลยทั้งสี่แถลงหมดพยานบุคคล คงติดใจที่จะขอให้นำสำนวนคดีอาญาหมายเลขแดงที่2558-2559/2533 ของศาลชั้นต้นมาผูกรวมติดเข้ากับสำนวนคดีนี้ ศาลชั้นต้นอนุญาต ดังนี้ เมื่อจำเลยทั้งสี่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้วและยังสืบพยานจำเลยทั้งสี่ไม่เสร็จ จำเลยทั้งสี่ย่อมมีสิทธิต่อสู้คดีอย่างเต็มที่โดยอ้างพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้อีกแม้จำเลยทั้งสี่จะมิได้ระบุอ้างสำนวนคดีอาญาดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานโดยยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมไว้ แต่การที่จำเลยทั้งสี่แถลงดังกล่าวย่อมแสดงให้เห็นถึงเจตนาของจำเลยทั้งสี่อย่างแจ้งชัดว่าประสงค์จะอ้างสำนวนคดีอาญานั้นทั้งสำนวนเป็นพยานหลักฐานของจำเลยในคดีนี้ด้วย เมื่อศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้นำสำนวนคดีอาญาดังกล่าวมาผูกติดกับสำนวนคดีนี้ สำนวนคดีอาญานั้นจึงเป็นพยานหลักฐานในคดีนี้แล้ว เมื่อคำเบิกความของ พ. อยู่ในสำนวนคดีอาญานั้นด้วย คำเบิกความของ พ.คดีดังกล่าวจึงเป็นพยานหลักฐานในคดีนี้ ชอบที่ศาลจะนำมาฟังประกอบการวินิจฉัยคดีนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ เมื่อฝ่ายผู้เสียหายเป็นผู้เริ่มทำร้ายและมีจำนวนมากกว่า
ผู้เสียหายกับพวกมีเครื่องหมายแสดงให้เห็นว่าเป็นพวกเดียวกันร้องรำทำเพลงอันมีลักษณะเตรียมการล่วงหน้ากันมาก่อนแล้วปลูกต้นกล้วยในทางที่รู้ว่าจำเลยกับพวกจะต้องผ่านเมื่อจำเลยกับพวกขอผ่านเพื่อกลับบ้านผู้เสียหายกับพวกไม่ยอมหลีกทางให้และเข้าทำร้ายจำเลยกับพวกซึ่งมีจำนวนน้อยกว่าก่อนจึงเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงจำเลยย่อมมีสิทธิที่จะป้องกันตัวให้พ้นภยันตรายที่เกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายได้ทั้งอาวุธที่จำเลยกับพวกใช้ก็เป็นเพียงเครื่องใช้ปกติในการประกอบอาชีพและบาดแผลที่ผู้เสียหายกับพวกได้รับไม่ร้ายแรงมากนักถือว่าจำเลยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุจำเลยจึงไม่มีความผิด จำเลยได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้วและยังสืบพยานไม่เสร็จได้ขอให้นำสำนวนคดีอาญาอื่นมาผูกรวมกับสำนวนโดยจำเลยมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานส่วนนี้เพิ่มเติมศาลอนุญาตดังนี้สำนวนคดีอาญาดังกล่าวจึงเป็นพยานหลักฐานในคดีนี้แล้วศาลชอบที่จะนำคำเบิกความของพยานบุคคลในสำนวนนั้นมาฟังประกอบวินิจฉัยคดีนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายหลังวิวาท ไม่ถือเป็นป้องกันตัว และเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
จำเลยกับผู้ตายวิวาทชกต่อยกัน แล้วจำเลยแยกกลับห้องพักและย้อนกลับมาใช้อาวุธมีดแทงผู้ตาย หลังจากเกิดเหตุชกต่อยกันแล้วประมาณ 10 นาทีการกระทำดังกล่าวของจำเลยจึงมิใช่เป็นการกระทำโดยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ เพราะไม่มีเหตุภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายที่จำต้องกระทำเพื่อป้องกันตัว แต่การกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ไม่เข้าข้อยกเว้นการป้องกันตัว
จำเลยกับผู้ตายวิวาทชกต่อยกันแล้วจำเลยแยกกลับห้องพักและย้อนกลับมาใช้อาวุธมีดแทงผู้ตายหลังจากเกิดเหตุชกต่อยกันแล้วประมาณ10นาทีการกระทำดังกล่าวของจำเลยจึงมิใช่เป็นการกระทำโดยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุเพราะไม่มีเหตุภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายที่จำต้องกระทำเพื่อป้องกันตัวแต่การกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6476/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดทางอาญา: การท้าทายวิวาทและการป้องกันตัวที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
หลังจากจำเลยและพวกวิ่งหลบหนีเข้าบ้านแล้วประมาณ 10 นาทีจำเลยจึงวิ่งขึ้นไปบนบ้านของ ม. และนำอาวุธปืนออกมายืนหน้าบ้านเพื่อจะขู่กลุ่มของผู้เสียหายให้กลับไป เมื่อผู้เสียหายถือมีดดาบและขวดจะเข้าทำร้ายจำเลยห่างประมาณ3 เมตร จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงกลุ่มของผู้เสียหาย พฤติการณ์ของจำเลย เช่นนี้แสดงว่าจำเลยสมัครใจทะเลาะวิวาทกับกลุ่มของผู้เสียหาย เพราะขณะจำเลยกับพวกวิ่งหลบหนีเข้าบ้าน ภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายหมดสิ้นไปแล้ว หากจำเลยไม่ประสงค์จะทะเลาะวิวาทอีกต่อไป จำเลยก็ไม่น่าจะนำอาวุธปืนออกมายืนอยู่หน้าบ้าน อันเป็นการท้าทายกลุ่มของผู้เสียหายซึ่งเป็นวัยรุ่น จำเลยย่อมไม่อาจยกเอาการป้องกันตัวขึ้นมาอ้างเพื่อให้การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6476/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การกระทำหลังหลบหนีและการท้าทายคู่กรณี
หลังจากจำเลยและพวกวิ่งหลบหนีเข้าบ้านแล้วประมาณ 10 นาทีจำเลยจึงวิ่งขึ้นไปบนบ้านของ ม. และนำอาวุธปืนออกมายืนหน้าบ้านเพื่อจะขู่กลุ่มของผู้เสียหายให้กลับไป เมื่อผู้เสียหายถือมีดดาบและขวดจะเข้าทำร้ายจำเลยห่างประมาณ 3 เมตร จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงกลุ่มของผู้เสียหาย พฤติการณ์ของจำเลย เช่นนี้แสดงว่าจำเลยสมัครใจทะเลาะวิวาทกับกลุ่มของผู้เสียหาย เพราะขณะจำเลยกับพวกวิ่งหลบหนีเข้าบ้าน ภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายหมดสิ้นไปแล้ว หากจำเลยไม่ประสงค์จะทะเลาะวิวาทอีกต่อไปจำเลยก็ไม่น่าจะนำอาวุธปืนออกมายืนอยู่หน้าบ้าน อันเป็นการท้าทายกลุ่มของผู้เสียหายซึ่งเป็นวัยรุ่น จำเลยย่อมไม่อาจยกเอาการป้องกันตัวขึ้นมาอ้างเพื่อให้การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5334/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวที่พอสมควรแก่เหตุ เมื่อถูกทำร้ายก่อนและภัยยังคงมีอยู่
จำเลยไม่มีสาเหตุกับผู้ตายเมื่อ อ. ซึ่งถูกผู้ตาย ไล่ฟันวิ่งมาหลบอยู่หลังจำเลยและผู้ตายตามมาฟัน อ. จำเลยพูดกับผู้ตายว่าจำเลยไม่เกี่ยวข้องนั้นเป็นการแสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่ได้เข้าช่วยเหลือ อ.ไม่ได้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ระหว่างอ.กับผู้ตาย ทั้งไม่ได้สมัครใจเข้าต่อสู้กับผู้ตายแต่อย่างใด ผู้ตายตามมาฟัน อ.ซึ่งวิ่งมาหลบอยู่หลังจำเลยเมื่ออ.หลบหนีไปแล้ว ผู้ตายใช้มีดฟันถูกบริเวณแก้มซ้ายของจำเลย แสดงว่าผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อนโดยใช้มีดฟันถูกจำเลย จำเลยเข้าแย่งมีดได้จากผู้ตาย ผู้ตายกับพวกจะเข้ามาทำร้ายจำเลยอีก จำเลยจึงใช้มีดแทงผู้ตายหนึ่งครั้งแล้ววิ่งหนีไป เช่นนี้ฟังได้ว่าภัยที่เกิดขึ้นแก่จำเลยยังมีอยู่ การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายไปเพียงหนึ่งครั้ง จึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5252/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวตามกฎหมายอาญา: จำเลยยิงผู้ตายในสถานการณ์ที่ไม่มีภัยอันตรายใกล้ถึง
ผู้ตายไปถามหาจำเลยกับบุตรและมารดาจำเลย บุตรจำเลยวิ่งหนีส่วนมารดาจำเลยแจ้งว่าจำเลยไม่อยู่บ้าน ผู้ตายเดินไปห่างบ้านจำเลยประมาณ 2 วา แล้วยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อระบายอารมณ์ การที่จำเลยยิงผู้ตาย ขณะที่จำเลยแอบอยู่ในครัวโดยที่ไม่ปรากฏว่าผู้ตายได้ก่อภัยอันใดขึ้นที่จำเลยจำต้องกระทำเพื่อป้องกันตัว การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการป้องกันเพื่อให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าผู้ตายตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวและการกระทำโดยบันดาลโทสะ กรณีถูกข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม
ขณะที่จำเลยใช้มีดโต้ของกลางฟันผู้ตาย อาวุธปืนได้หลุดไปจากมือผู้ตายแล้ว ภยันตรายที่จำเลยจำต้องป้องกันผ่านพ้นไปแล้วไม่มีภยันตรายที่ใกล้จะถึงอันจะต้องป้องกันอีก การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกัน แต่การที่ผู้ตายพยายามจะใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายจำเลยก่อนจนจำเลยต้องเข้าแย่งอาวุธปืนกับผู้ตายและฟันผู้ตายถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3759/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การใช้กำลังป้องกันภัยต้องสมส่วนกับภยันตรายที่เกิดขึ้น
จำเลยและผู้ตายรู้จักและเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน ไม่ปรากฏว่าจำเลยกับผู้ตายมีสาเหตุโกรธเคืองกันอย่างร้ายแรงจนถึงกับเป็นเหตุให้ผู้ตายคิดจะฆ่าจำเลย และการที่ผู้ตายใช้ไม้ยาว 1 ศอก ตีจำเลย 1 ที แต่ไม่ถูก เพราะจำเลยยกเก้าอี้ขึ้นรับไว้ แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งชักมีดปลายแหลมยาว 1 คืบ จากเอวแทงถูกบริเวณหน้าอกซ้ายของผู้ตายโดยแรง 1 ที แสดงว่าก่อนที่จำเลยจะใช้มีดแทง จำเลยสามารถป้องกันภยันตรายอันเกิดจากการประทุษร้ายของผู้ตายได้ในระดับหนึ่งแล้ว หากจำเลยใช้เก้าอี้ป้องกันตัวต่อไปก็สามารถป้องกันภยันตรายได้ ดังนั้น การที่จำเลยชักมีดออกแทงผู้ตายบริเวณหน้าอกด้านซ้ายซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญและแทงโดยแรงจนมีดเข้าไปถึงช่องหัวใจ เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย จึงเป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน
of 89