พบผลลัพธ์ทั้งหมด 77 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกเงินตามเช็ค ผู้สั่งจ่ายไม่ต้องรับผิดหากผู้ทรงไม่นำเช็คไปขึ้นเงิน
ตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 914 และ 959 ผู้สั่งจ่ายเช็คจะต้องรับผิดใช้เงินแก่ผู้ทรงก็ต่อเมื่อได้มีการนำเช็คนั้นไปยื่นแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินแล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเสียก่อน เมื่อข้อเท็จจริงตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ฟังได้ว่าโจทก์มิได้นำเช็คพิพาทไปยื่นต่อธนาคารเพื่อให้ใช้เงิน และธนาคารก็ยังมิได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์จึงจะนำคดีมาฟ้องจำเลยผู้สั่งจ่ายให้รับผิดชำระเงินตามเช็คนั้นทีเดียวมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2133/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้สลักหลังเช็คที่ไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินจากเช็ค ไม่เป็นผู้เสียหายตาม พ.ร.บ. เช็ค
โจทก์สลักหลังเช็คโอนไปแล้ว เช็คนั้นธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินในขณะนั้นโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรง แม้โจทก์ต้องรับผิดต่อผู้ทรง โจทก์ก็ไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะฟ้องจำเลยผู้สั่งจ่ายตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 99/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสัมพันธ์คดีอาญาและคดีแพ่งเรื่องเช็ค, ผู้ทรงเช็ค
ศาลในคดีอาญาเรื่องความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยออกเช็คประกันหนี้ ในคดีแพ่งเรื่องความรับผิดตามเช็คไม่ต้องอาศัยมูลคดีอาญานั้นแต่ประการใดจึงไม่ต้องฟังข้อเท็จจริงตามคดีอาญา
จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินแก่ ก. แต่มิได้ขีดฆ่าคำว่าผู้ถือโจทก์เป็นผู้ครอบครองเช็ค จึงเป็นผู้ทรงตามมาตรา 904
จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินแก่ ก. แต่มิได้ขีดฆ่าคำว่าผู้ถือโจทก์เป็นผู้ครอบครองเช็ค จึงเป็นผู้ทรงตามมาตรา 904
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละการครอบครองเช็คและการมีอำนาจฟ้องเรียกร้องเงินตามเช็ค
โจทก์รับเช็คพิพาทตามฟ้องจากจำเลยที่ 2 เช็คดังกล่าวมีจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่าย และจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลัง เมื่อเช็คถึงกำหนด โจทก์นำเช็คไปเข้าบัญชีธนาคารเพื่อเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์จึงได้คืนเช็คพร้อมใบคืนเช็คให้จำเลยที่ 2 และรับเช็คที่จำเลยที่ 2 ออกให้ใหม่แทนเช็คพิพาทดังนี้ ถือว่าโจทก์สละการครอบครองเช็คพิพาทรวมทั้งสิทธิเรียกร้องตามเช็คนั้นแล้วโจทก์จึงไม่เป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกเงินตามเช็คดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 860/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับผิดตามเช็ค: แม้จะพิพาทเรื่องที่มาของหนี้ แต่จำเลยผู้สั่งจ่ายยังต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คที่ออก
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ แม้โจทก์นำสืบว่าจำเลยไม่เคยสั่งซื้อสินค้าพิพาทจากโจทก์หรือเป็นหนี้โจทก์ เช็คพิพาทนั้นไม่ได้สั่งจ่ายเพื่อชำระหนี้ส่วนตัว แต่เป็นเช็คที่จำเลยออกให้โจทก์เพื่อชำระหนี้บางส่วนแทนบุคคลอื่น การนำสืบดังกล่าวเป็นเพียงรายละเอียดเพื่อแสดงให้เห็นว่าโจทก์ได้เช็คมาอย่างไร และเหตุใดโจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบเท่านั้น เมื่อปรากฏว่าเช็คพิพาทนั้นเป็นเช็คที่จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายและโจทก์เป็นผู้ทรง จำเลยในฐานะผู้สั่งจ่ายย่อมต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คแก่โจทก์
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ แม้จำเลยจะตั้งทนายมาถามค้านพยานโจทก์ก็ตาม ข้อต่อสู้ของจำเลยเรื่องโจทก์ใช้สิทธิไม่สุจริตนั้น ไม่ได้เป็นประเด็นมาแต่แรก จำเลยจะยกข้อเท็จจริงเรื่องนี้ขึ้นอ้างในศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาเพื่อให้วินิจฉัยนั้น ไม่ได้ ทั้งมิใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ฎีกาจำเลยต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ แม้จำเลยจะตั้งทนายมาถามค้านพยานโจทก์ก็ตาม ข้อต่อสู้ของจำเลยเรื่องโจทก์ใช้สิทธิไม่สุจริตนั้น ไม่ได้เป็นประเด็นมาแต่แรก จำเลยจะยกข้อเท็จจริงเรื่องนี้ขึ้นอ้างในศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาเพื่อให้วินิจฉัยนั้น ไม่ได้ ทั้งมิใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ฎีกาจำเลยต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1756/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คผู้ถือ: ผู้โอนเช็คไม่มีสิทธิเรียกร้องเมื่อเช็คไม่มีเงิน
เช็คผู้ถือนั้นผู้ถือเป็นผู้ทรง ผู้ที่รับเช็คผู้ถือจากผู้สั่งจ่ายแล้วโอนต่อไปโดยไม่ได้สลักหลังเช็คนั้น ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อผู้ทรงคนสุดท้ายนำไปเข้าบัญชีเพราะไม่มีเงินจ่ายตามเช็ค ผู้โอนไม่ใช่ผู้เสียหายร้องทุกข์ในความผิดฐานออกเช็คไม่มีเงินไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2576/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้สั่งจ่าย ผู้สลักหลัง และผู้รับประกันเช็คต่อผู้ทรง ผู้ทรงมีสิทธิฟ้องเรียกร้องได้ทั้งสองคนหรือคนใดคนหนึ่ง
ผู้สั่งจ่ายเช็ค ผู้สลักหลัง หรือผู้รับประกันด้วยอาวัล ต้องร่วมกันรับผิดต่อผู้ทรง และผู้ทรงก็มีสิทธิตามฟ้องหรือเรียกร้องจากบุคคลดังกล่าวเรียงตัวหรือรวมกันก็ได้ โดยมิพักต้องดำเนินการตามลำดับที่บุคคลดังกล่าวมาผูกพัน
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังเช็คจะต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงเช็ค การที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลยทั้งสองแล้วถอนฟ้องจำเลยที่ 1 ไปนั้น ไม่ทำให้จำเลยที่ 2 หลุดพ้นความรับผิด
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังเช็คจะต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงเช็ค การที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลยทั้งสองแล้วถอนฟ้องจำเลยที่ 1 ไปนั้น ไม่ทำให้จำเลยที่ 2 หลุดพ้นความรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2576/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดร่วมกันของผู้สั่งจ่าย, ผู้สลักหลัง, และผู้รับประกันเช็คต่อผู้ทรง
ผู้สั่งจ่ายเช็ค ผู้สลักหลัง หรือผู้รับประกันด้วยอาวัล ต้องร่วมรับผิดต่อผู้ทรงและผู้ทรงก็มีสิทธิฟ้องหรือเรียกร้องจากบุคคลดังกล่าวเรียงตัวหรือรวมกันก็ได้ โดยมิได้พักต้องดำเนินการตามลำดับที่บุคคลดังกล่าวมาผูกพัน
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังเช็คจะต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงเช็ค การที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลยทั้งสองแล้ว ถอนฟ้องจำเลยที่ 1 ไปนั้น ไม่ทำให้จำเลยที่ 2 หลุดพ้นความรับผิด
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังเช็คจะต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงเช็ค การที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลยทั้งสองแล้ว ถอนฟ้องจำเลยที่ 1 ไปนั้น ไม่ทำให้จำเลยที่ 2 หลุดพ้นความรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีเช็คและการคิดดอกเบี้ยผิดนัดตามประเพณีธนาคาร
การสลักหลังเช็คซึ่งสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือย่อมเป็นการประกัน (อาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่ายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 921, 989 และตามมาตรา 940 วรรคแรกผู้รับอาวัลย่อมต้องผูกพันเป็นอย่างเดียวกับบุคคลซึ่งตนประกันซึ่งมีความหมายว่าผู้สั่งจ่ายมีความรับผิดต่อผู้ทรงอย่างใดผู้รับอาวัลย่อมต้องมีความรับผิดต่อผู้ทรงเช่นเดียวกันดังนั้นอายุความที่ผู้สลักหลังดังกล่าวจะยกขึ้นต่อสู้ผู้ทรงจึงมีกำหนด 1 ปี นับแต่เช็คถึงกำหนดตามมาตรา 1002 หาใช่ต้องใช้อายุความทั่วไปไม่
จำเลยนำเช็คที่จำเลยลงชื่อสลักหลังมาขายให้ธนาคารโจทก์ โดยจำเลยต้องเสียค่าธรรมเนียมให้แก่ธนาคารโจทก์คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 14 ต่อปีนับแต่วันที่จำเลยรับเงินค่าขายเช็คไปจากธนาคารโจทก์จนถึงวันที่เช็คถึงกำหนด และธนาคารโจทก์ได้หักดอกเบี้ยนี้ไว้แล้วดังนี้เป็นค่าตอบแทนที่ธนาคารโจทก์รับซื้อเช็คไว้เท่านั้น ส่วนดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดในกรณีธนาคารโจทก์ขึ้นเงินตามเช็คไม่ได้เมื่อไม่ปรากฏว่าได้มีข้อตกลงไว้โดยชัดแจ้งธนาคารผู้ทรงย่อมเรียกร้องจากจำเลยได้เพียงร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 7 จะนำประเพณีธนาคารในการคิดดอกเบี้ยมาเรียกดอกเบี้ยจากจำเลยร้อยละ 14 ต่อปีหาได้ไม่
จำเลยนำเช็คที่จำเลยลงชื่อสลักหลังมาขายให้ธนาคารโจทก์ โดยจำเลยต้องเสียค่าธรรมเนียมให้แก่ธนาคารโจทก์คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 14 ต่อปีนับแต่วันที่จำเลยรับเงินค่าขายเช็คไปจากธนาคารโจทก์จนถึงวันที่เช็คถึงกำหนด และธนาคารโจทก์ได้หักดอกเบี้ยนี้ไว้แล้วดังนี้เป็นค่าตอบแทนที่ธนาคารโจทก์รับซื้อเช็คไว้เท่านั้น ส่วนดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดในกรณีธนาคารโจทก์ขึ้นเงินตามเช็คไม่ได้เมื่อไม่ปรากฏว่าได้มีข้อตกลงไว้โดยชัดแจ้งธนาคารผู้ทรงย่อมเรียกร้องจากจำเลยได้เพียงร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 7 จะนำประเพณีธนาคารในการคิดดอกเบี้ยมาเรียกดอกเบี้ยจากจำเลยร้อยละ 14 ต่อปีหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2612/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงวันเดือนปีในเช็คโดยผู้ทรงหลังผู้สั่งจ่ายเสียชีวิต ไม่ถือเป็นการปลอมแปลงเอกสาร หากทำโดยสุจริตและเป็นไปตามเจตนาเดิม
โจทก์ลงวันเดือนปีในเช็คตามเจตนาของผู้สั่งจ่ายที่ขอผัดไม่เป็นการปลอมเอกสาร ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1007เพราะมิใช่แก้ไขเปลี่ยนแปลงวันที่ลงในเช็คหากแต่เป็นการลงวันเดือนปีที่ถูกต้องแท้จริงโดยสุจริต ซึ่งเป็นอำนาจของโจทก์ผู้ทรงที่จะกระทำได้ตามมาตรา 910 วรรคห้า ไม่เป็นโมฆะ
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในฐานะเป็นทายาทและผู้รับมรดกของย. ผู้สั่งจ่ายเช็ค โจทก์จึงไม่ต้องนำสืบว่าจำเลยที่ 2 ได้ลงชื่อสลักหลังเช็คพิพาทเมื่อใด และเมื่อโจทก์ทราบการตายของ ย.เมื่อต้นมิถุนายน 2514 โจทก์ฟ้องคดีเมื่อ 9 พฤษภาคม 2515คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในฐานะเป็นทายาทและผู้รับมรดกของย. ผู้สั่งจ่ายเช็ค โจทก์จึงไม่ต้องนำสืบว่าจำเลยที่ 2 ได้ลงชื่อสลักหลังเช็คพิพาทเมื่อใด และเมื่อโจทก์ทราบการตายของ ย.เมื่อต้นมิถุนายน 2514 โจทก์ฟ้องคดีเมื่อ 9 พฤษภาคม 2515คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ