คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้ร้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 131 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 333/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนของกลางที่ไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิด ผู้ร้องมีสิทธิได้รับคืน
ในคดีร้องขอคืนของกลาง เมื่อได้ความว่าโทรทัศน์ของกลางมิใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิด ซึ่งศาลไม่มีอำนาจสั่งริบ จึงต้องคืนโทรทัศน์ของกลางให้แก่ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3280/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้สมยอมเพื่อหลีกเลี่ยงการบังคับคดี: ผู้ร้องไม่มีสิทธิยื่นคำร้องเพิกถอนการขายทอดตลาด
หนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมระหว่างผู้ร้องกับจำเลยที่ 3 เป็นหนี้สมยอมกัน ทำขึ้นโดยที่มิได้เป็นหนี้ กันจริงเพื่อช่วยเหลือมิให้โจทก์และเจ้าหนี้อื่นบังคับชำระหนี้ เอา จากทรัพย์สินของจำเลยที่ 3 ได้ จึงถือไม่ได้ว่าผู้ร้อง เป็น เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยที่ 3 ที่มีสิทธิยื่นคำขอเพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้ตนเข้าเฉลี่ยในทรัพย์สินหรือเงินที่ขายหรือ จำหน่ายทรัพย์สินนั้นได้และผู้ร้อง มิใช่เป็นผู้มีสิทธิอันได้ จดทะเบียนไว้โดยชอบหรือเป็นผู้ที่ได้ยื่นคำร้องขอตามที่บัญญัติ ไว้ในมาตรา 288,289 และ 290 แห่ง ป.วิ.พ. ผู้ร้องจึงมิใช่เป็น ผู้ที่มีส่วนได้เสียในวิธีการบังคับคดีอันเกี่ยวด้วยทรัพย์สินคดีนี้ตาม มาตรา 280 แห่ง ป.วิ.พ. ผู้ร้องย่อมไม่มีอำนาจมายื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3227/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอคืนของกลางต้องสุจริต ผู้ร้องต้องเป็นผู้ขอคืนจริง หากมีเจตนาช่วยเหลือผู้กระทำผิด ศาลไม่คืนของกลางให้
การร้องขอคืนของกลางตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 เป็นการใช้สิทธิทางศาลอย่างหนึ่ง ผู้ร้องต้องกระทำการโดยสุจริต ผู้ร้องไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดของจำเลยแต่ น. ผู้เช่าซื้อรถบรรทุกของกลางและเป็นผู้รับมอบอำนาจให้ดำเนินคดีแทนผู้ร้อง มีพฤติการณ์ว่ารู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดของจำเลย และไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้กลับเข้าครองรถบรรทุกของกลางพยานหลักฐานผู้ร้องก็ฟังไม่ได้ว่าได้บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้วทั้งผู้ร้องไม่เคยติดต่อขอรับรถบรรทุกของกลางคืนจากพนักงานสอบสวนแต่ น. ผู้เช่าซื้อเป็นผู้ติดต่อขอรับคืน ดังนี้ เห็นได้ว่าผู้ร้องยอมให้ น. ใช้ชื่อผู้ร้องในการขอคืนของกลางเพื่อประโยชน์แก่ น. ซึ่งเป็นผู้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่มีเหตุที่ศาลจะสั่งคืนให้ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 266/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่มาศาลของผู้ร้องและการประวิงคดี กรณีไม่มีเหตุจำเป็นในการขอเลื่อนคดี
ศาลชั้นต้นเคยสั่งจำหน่ายคดีผู้ร้องเพราะเหตุทิ้งคำร้องไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ศาลอุทธรณ์ให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้นและให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานผู้ร้องในวันนัดสืบพยานผู้ร้องทนายความผู้ร้องขอเลื่อนคดีโดยอ้างว่าผู้ร้องไปอบรมราชการที่กรุงเทพมหานคร ทั้งที่ผู้ร้องขอลาหยุดราชการต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อมาศาลแล้วแต่ไม่มาโดยไม่มีพยานอื่นมาสืบ ตามพฤติการณ์แสดงว่าผู้ร้องไม่ได้เอาใจใส่การดำเนินคดีมีลักษณะประวิงคดีให้ชักช้า เพื่อมิให้ทรัพย์ที่ถูกยึดถูกนำออกขายทอดตลาดเพื่อเอาเงินไปชำระหนี้แก่โจทก์จึงเป็นกรณีไม่มีเหตุจำเป็นในการขอเลื่อนคดี แม้เป็นการขอเลื่อนคดีครั้งแรกก็ไม่สมควรให้เลื่อนคดีได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 40 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1651/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์สัญชาติไทย: ภาระการพิสูจน์อยู่ที่ผู้ร้อง และศาลไม่เชื่อว่าผู้ร้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย
การพิสูจน์สัญชาติไทยนั้นกฎหมายให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นเป็นคนต่างด้าวจนกว่าผู้นั้นจะพิสูจน์ได้ว่าตนมีสัญชาติไทยตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองฯ มาตรา 57

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4741/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการขอคุ้มครองประโยชน์ระหว่างพิจารณาคดี: ผู้ร้องต้องเป็นคู่ความในคดีเท่านั้น
ผู้ที่จะร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพื่อคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาหรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 ต้องเป็นคู่ความในคดีที่ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองนั้น ผู้ร้องสอดเพียงแต่ยื่นคำร้องขอเข้ามาเป็นคู่ความ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ผู้ร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความ ผู้ร้องสอดจึงไม่มีสิทธิขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองประโยชน์ตามบทบัญญัติดังกล่าว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3684/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีของผู้ร้องทำให้ศาลสั่งงดสืบพยานได้ ชอบแล้ว
ในวันนัดสืบพยานผู้ร้องครั้งแรกทนายผู้ร้องมาศาลขอเลื่อนคดีโดยอ้างเหตุป่วยเจ็บ ในนัดที่ 2 ทนายผู้ร้องขอส่งประเด็นไปสืบพยานทุกคนที่ศาลอื่นโดยทนายผู้ร้องจะเป็นผู้จัดส่งหมายเรียกพยานเองหากส่งหมายให้พยานไม่ได้หรือพยานไม่มาศาลให้ถือว่าไม่ติดใจสืบพยานที่ไม่มาศาล ครั้นถึงวันนัดสืบพยานประเด็นทนายผู้ร้องก็ขอเลื่อนอีก โดยอ้างเหตุป่วยเจ็บและไม่ปรากฏว่านอกจากตัวผู้ร้องแล้วพยานอื่นที่ได้ขอหมายเรียกได้มาศาล ทั้งเมื่อผู้ร้องรับหมายเรียกพยานไปส่งแล้วก็ไม่ได้แจ้งผลการส่งหมายทนายโจทก์แถลงคัดค้านการขอเลื่อนคดีและขอให้ผู้ร้องซึ่งอ้างตนเองเป็นพยานเข้าเบิกความแต่ผู้ร้องก็ปฏิเสธไม่ยอมเข้าเบิกความ ศาลรับประเด็นจึงส่งประเด็นคืนเช่นนี้ เป็นพฤติการณ์ที่แสดงว่าผู้ร้องจงใจประวิงคดีให้ชักช้า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยานผู้ร้องชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2599/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดแย้งในคำให้การของผู้ร้องระหว่างคดีแพ่งและการร้องขอส่วนแบ่งทรัพย์สินจากการบังคับคดี
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดในฐานะหนี้ร่วม ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 2 เพราะโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 1 ตามที่จำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้คดีถึงที่สุด คำพิพากษาดังกล่าวย่อมผูกพันจำเลยที่ 2เมื่อผู้ร้องซึ่งเป็นจำเลยที่ 2 ในคดี ยื่นคำร้องขอกันส่วนอ้างว่าเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 1 ศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะสั่งงดไต่สวนคำร้องและยกคำร้องของผู้ร้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3149/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดสิทธิเรียกร้องที่จำเลยไม่มีสิทธิเรียกร้องต่อผู้ร้อง ย่อมไม่มีผลบังคับ
โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้และยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดเงินค่าก่อสร้างที่ผู้ร้องจะจ่ายให้แก่จำเลยที่ 1 ไว้ก่อนพิพากษาแต่จำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายผิดสัญญาผู้ร้องใช้สิทธิปรับตามสัญญาจ้างก่อสร้างซึ่งผู้ร้องมีสิทธิที่จะปรับได้ตั้งแต่เมื่อจำเลยที่ 1 ผิดนัดและยินยอมให้ผู้ร้องปรับโดยหักกลบลบหนี้กับค่าก่อสร้างตั้งแต่ก่อนที่จะมีหมายอายัดดังนั้น ในขณะที่มีการออกหมายอายัดและนับแต่นั้นต่อมาจำเลยที่ 1 จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องใดต่อผู้ร้องอันจะเป็นเหตุให้โจทก์ขออายัดและจัดการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 310,311 แม้ต่อมาผู้ร้องจะมีหนังสือแจ้งเจ้าพนักงานบังคับคดีว่ามีเงินจำนวนนั้นและจึงไม่มีสิทธิเรียกร้องใดต่อผู้ร้องอันจะเป็นเหตุให้โจทก์ขออายัดและตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 310(3),311 จะจัดส่งมาให้เมื่อได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังและได้รับเงินจากกรมบัญชีกลางแล้ว ก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเดิมไม่มีสิทธิเรียกร้องใดต่อผู้ร้องกลับกลายมาเป็นผู้มีสิทธิเรียกร้อง หมายอายัดจึงไม่มีผลบังคับผู้ร้องศาลเพิกถอนหมายอายัดนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1633/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาใหม่: เหตุพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้และความล่าช้าของผู้ร้อง
ในการขอให้พิจารณาใหม่จำเป็นที่ต้องตรวจดูสำนวนคดีเพื่อทราบคำฟ้อง และกระบวนพิจารณาคดีตลอดจนคำพิพากษาของศาลเสียก่อนดังนั้น เมื่อปรากฏว่า การได้รับสำเนาสำนวนคดีจากเจ้าพนักงานศาลล่าช้าทำให้ไม่สามารถตรวจดูสำนวนคดีคำฟ้องและกระบวนพิจารณาตลอดจนคำพิพากษาของศาลได้ อาจถือได้ว่ากรณีดังกล่าวเป็นพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ จำเลยยื่นคำร้องขอให้มีการพิจารณาใหม่เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม2530 อ้างว่า จำเลยรู้ว่าถูกยึดทรัพย์เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2530รุ่งขึ้นจำเลยเดินทางไปต่างจังหวัด และกลับถึงบ้านวันที่ 19 กรกฎาคม2530 วันที่ 20 กรกฎาคม 2530 จำเลยติดต่อขอคัดสำเนาสำนวนคดีเจ้าพนักงานศาลถ่ายสำเนาคดีให้จำเลยได้ภายใน 8 วัน และเกี่ยวกับทะเบียนบ้านเจ้าหน้าที่เขตก็สามารถตรวจสอบแจ้งให้จำเลยทราบผลภายใน 3 วัน หากจำเลยไม่ปล่อยปละละเลยไปต่างจังหวัดเสีย 11 วันจำเลยก็สามารถยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ได้ทันภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ทราบว่าถูกยึดทรัพย์การที่จำเลยเดินทางไปต่างจังหวัด แม้จะเป็นความจริงก็หาเป็นเรื่องเกี่ยวกับพฤติการณ์นอกเหนือที่ไม่อาจบังคับได้ไม่ ความล่าช้าที่เกิดขึ้นจึงเป็นความบกพร่องของจำเลย
of 14