พบผลลัพธ์ทั้งหมด 84 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ โดยพิจารณาจากจำนวนครั้งที่ศาลพิพากษาให้จำคุก ไม่ใช่จำนวนครั้งที่พ้นโทษ
ม.8 แห่งพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.2479 ความว่า "ถ้าผู้ใดเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาให้จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ฯลฯ " นั้น หมายความถึงว่าผู้นั้นได้รับโทษโดยศาลพิพากษาให้จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้งอีกนัยหนึ่งคือครั้งตามคำพิพากษา หามีข้อความใดในบทบัญญัตินี้แสดงให้เห็นว่า ผู้นั้นได้หลุดพ้นโทษไปแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้งเช่นกฎหมายลักษณะอาญาเรื่องผู้กระทำผิดไม่เข็หลาบนั้นไม่
จำเลยเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาให้จำคุกมาแล้ว 3 คดีคือคดีแดงที่ 1221/2491 ฐานชิงทรัพย์ คดีแดงที่ 136/2492 ฐานลักทรัพย์ คดีแดงที่ 769/2492 ฐานหลบหนีที่คุมขัง และปรากฎตามสำนวนคดีแดงที่ 136/2492 ว่าจำเลยรับโทษตามคำพิพากษาคดีแดงที่ 1221/2491 อยู่แล้วหลบหนีไปกระทำผิดในคดีแดงที่ 136/2492 นั้นทั้ง 3 คดีนี้จำเลยจึงได้รับโทษจำคุกต่อเนื่องกันไป เพิ่งพ้นโทษไปคราวเดีว เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2494 เช่นนี้ เมื่อจำเลยมากระทำผิดในคดี ( ลักทรัพย์ ) ขึ้นอีก ศาลก็เพิ่มโทษกักกันจำเลยได้
อ้างฎีกาที่ 1307/2480 และที่ 1514/2482
จำเลยเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาให้จำคุกมาแล้ว 3 คดีคือคดีแดงที่ 1221/2491 ฐานชิงทรัพย์ คดีแดงที่ 136/2492 ฐานลักทรัพย์ คดีแดงที่ 769/2492 ฐานหลบหนีที่คุมขัง และปรากฎตามสำนวนคดีแดงที่ 136/2492 ว่าจำเลยรับโทษตามคำพิพากษาคดีแดงที่ 1221/2491 อยู่แล้วหลบหนีไปกระทำผิดในคดีแดงที่ 136/2492 นั้นทั้ง 3 คดีนี้จำเลยจึงได้รับโทษจำคุกต่อเนื่องกันไป เพิ่งพ้นโทษไปคราวเดีว เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2494 เช่นนี้ เมื่อจำเลยมากระทำผิดในคดี ( ลักทรัพย์ ) ขึ้นอีก ศาลก็เพิ่มโทษกักกันจำเลยได้
อ้างฎีกาที่ 1307/2480 และที่ 1514/2482
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ โดยพิจารณาจากจำนวนครั้งที่ศาลพิพากษาให้จำคุก ไม่ใช่จำนวนครั้งที่พ้นโทษ
มาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายพ.ศ.2479 ความว่า"ถ้าผู้ใดเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาให้จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ฯลฯ" นั้นหมายความถึงว่าผู้นั้นได้รับโทษโดยศาลพิพากษาให้จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง อีกนัยหนึ่งคือครั้งตามคำพิพากษา หามีข้อความใดในบทบัญญัตินี้แสดงให้เห็นว่าผู้นั้นได้หลุดพ้นโทษไปแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง เช่นกฎหมายลักษณะอาญาเรื่องผู้กระทำผิดไม่เข็ดหลาบนั้นไม่
จำเลยเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาให้จำคุกมาแล้ว 3 คดีคือคดีแดงที่ 1221/2491 ฐานชิงทรัพย์ คดีแดงที่136/2492 ฐานลักทรัพย์คดีแดงที่ 769/2492 ฐานหลบหนีที่คุมขัง และปรากฏตามสำนวนคดีแดงที่ 136/2492 ว่าจำเลยรับโทษตามคำพิพากษาคดีแดงที่ 1221/2491 อยู่แล้วหลบหนีไปกระทำผิดในคดีแดงที่ 136/2492 นั้น ทั้ง 3 คดีนี้จำเลยจึงได้รับโทษจำคุกต่อเนื่องกันไป เพิ่งพ้นโทษไปคราวเดียว เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2494 เช่นนี้ เมื่อจำเลยมากระทำผิดในคดี(ลักทรัพย์)ขึ้นอีก ศาลก็เพิ่มโทษกักกันจำเลยได้ (อ้างฎีกาที่1307/2480 และที่ 1514/2482)
จำเลยเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาให้จำคุกมาแล้ว 3 คดีคือคดีแดงที่ 1221/2491 ฐานชิงทรัพย์ คดีแดงที่136/2492 ฐานลักทรัพย์คดีแดงที่ 769/2492 ฐานหลบหนีที่คุมขัง และปรากฏตามสำนวนคดีแดงที่ 136/2492 ว่าจำเลยรับโทษตามคำพิพากษาคดีแดงที่ 1221/2491 อยู่แล้วหลบหนีไปกระทำผิดในคดีแดงที่ 136/2492 นั้น ทั้ง 3 คดีนี้จำเลยจึงได้รับโทษจำคุกต่อเนื่องกันไป เพิ่งพ้นโทษไปคราวเดียว เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2494 เช่นนี้ เมื่อจำเลยมากระทำผิดในคดี(ลักทรัพย์)ขึ้นอีก ศาลก็เพิ่มโทษกักกันจำเลยได้ (อ้างฎีกาที่1307/2480 และที่ 1514/2482)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษกักกันจากประวัติอาชญากรรมเดิม แม้พ้นโทษมานาน และโทษกักกันไม่เข้าข่ายคดีอัตราโทษสูง
การที่จำเลยเคยต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้งนั้นตามพ.ร.บ.กักกันฯ พ.ศ.2479หาได้บัญญัติไว้ว่ากระทำแต่เมื่อใด และพ้นโทษมาแล้วนานเท่าใด แต่ได้ถือเอาความผิดที่จำเลยกระทำครั้งที่ฟ้องเป็นหลักสำคัญส่วนความผิดในครั้งก่อนๆเพียงแต่เป็นเหตุเพื่อเพิ่มโทษกักกันอีกโสดหนึ่งเท่านั้น ฉะนั้นแม้จำเลยจะพ้นโทษครั้งสุดท้ายมาถึง 20 ปีแล้วก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ศาลอาจจะเพิ่มโทษกักกันได้
โทษกักกัน แม้จะมีถึง 10 ปีก็ไม่ใช่เป็นคดีมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปจึงไม่เข้าอยู่ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176
โทษกักกัน แม้จะมีถึง 10 ปีก็ไม่ใช่เป็นคดีมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปจึงไม่เข้าอยู่ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำเลยฐานพ้นโทษมาไม่ถึง 3 ปี กระทำผิดซ้ำ และโทษครั้งแรกเกิน 6 เดือน
จำเลยเคยต้องโทษฐานลักทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้งพ้นโทษครั้งแรกมากระทำผิดฐานลักทรัพย์ ครั้งที่ 3 ขึ้นอีกใน 3 ปี เมื่อโทษครั้งที่ 1 ครั้งเดียว ต้องจำคุกเกินกว่า 6 เดือน แล้วต้องเพิ่มโทษตามมาตรา 73 จะเพิ่มโทษตามมาตรา 74 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำเลยฐานพ้นโทษมาไม่ทันครบ 3 ปี และเคยต้องโทษจำคุกเกิน 6 เดือน
จำเลยเคยต้องโทษฐานลักทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้งพ้นโทษครั้งแรกมากระทำผิดฐานลักทรัพย์ครั้งที่ 3 ขึ้นอีกใน 3 ปี เมื่อโทษครั้งที่ 1 ครั้งเดียว ต้องจำคุกเกินกว่า 6 เดือนแล้ว ต้องเพิ่มโทษตามมาตรา 73 จะเพิ่มโทษตามมาตรา 74 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับ 'ครั้ง' ตาม พ.ร.บ.กักกันผู้ร้าย: พิจารณาจากคำพิพากษา ไม่ใช่การพ้นโทษ
คำว่า ครั้ง ในมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ. กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย หมายถึง ครั้งตามคำพิพากษา ไม่ใช่ครั้งแห่งการหลุดพ้นโทษจำคุกมาแล้ว
(อ้างฎีกาที่ 1514/82)
จำเลยต้องคำพิพากษาจำคุก ฐานพยายามลักทรัพย์ พ้นโทษมาแล้ว ได้ต้องคำพิพากษาจำคุกฐานลักทรัพย์ แต่ต้องจำคุกไม่ครบกำหนดโทษ ได้หลบหนีเรือนจำมากระทำผิดฐานลักทรัพย์อีก ดังนี้ มีเหตุสมควรที่จะใช้ พ.ร.บ. กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายแก่จำเลยเพราะประพฤติตนเป็นโจรเสมอมานับได้ว่ามีสันดานเป็นผู้ร้าย./
(อ้างฎีกาที่ 1514/82)
จำเลยต้องคำพิพากษาจำคุก ฐานพยายามลักทรัพย์ พ้นโทษมาแล้ว ได้ต้องคำพิพากษาจำคุกฐานลักทรัพย์ แต่ต้องจำคุกไม่ครบกำหนดโทษ ได้หลบหนีเรือนจำมากระทำผิดฐานลักทรัพย์อีก ดังนี้ มีเหตุสมควรที่จะใช้ พ.ร.บ. กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายแก่จำเลยเพราะประพฤติตนเป็นโจรเสมอมานับได้ว่ามีสันดานเป็นผู้ร้าย./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1879/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบสำหรับผู้กระทำผิดซ้ำระหว่างกักกันหลังพ้นโทษจำคุก
จำเลยต้องโทษจำคุกจนพ้นโทษจำคุกแล้ว แต่ยังอยู่ในระหว่างกักกัน จำเลยกลับมากระทำความผิดอีก ดังนี้ต้องเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ: ไม่จำต้องพ้นโทษครั้งก่อน
จำเลยเคยรับโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้วสองครั้ง แต่ครั้งหลังยังไม่พ้นโทษ แล้วกระทำผิดต้องคำพิพากษาให้จำคุกอีก ถือได้แล้วว่า จำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายตาม พ.ร.บ.กักกัน ฯลฯ มาตรา 8 หาจำเป็นให้ปรากฏว่า จำเลยเคยพ้นโทษมาแล้ว 2 ครั้งไม่
(อ้างฎีกาที่ 724/2482)
(อ้างฎีกาที่ 724/2482)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ โดยไม่จำกัดระยะเวลาหลังพ้นโทษครั้งแรก หรือการฟ้องคดีต่อเนื่อง
จำเลยพ้นโทษครั้งที่ 1 มาเกินกว่า 5 ปีแล้ว ก็ลงโทษฐานกักกันได้
จำเลยพ้นโทษครั้งสุดท้ายแล้วโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานกักกันได้
จำเลยพ้นโทษครั้งสุดท้ายแล้วโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานกักกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ ความผิดร้ายแรง และระยะเวลาพ้นโทษ
จำเลยพ้นโทษครั้งที่ 1 มาเกินกว่า 5 ปีแล้ว ก็ลงโทษฐานกักกันได้
จำเลยพ้นโทษครั้งสุดท้ายแล้ว โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานกักกันได้
จำเลยพ้นโทษครั้งสุดท้ายแล้ว โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานกักกันได้