พบผลลัพธ์ทั้งหมด 55 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องบังคับทางสาธารณะต้องแสดงการกระทำที่เป็นละเมิด มิเช่นนั้นขาดประเด็นให้วินิจฉัย
ฟ้องขอให้บังคับจำเลยเปิดลำรางและทางสาธารณะ แต่คำฟ้องไม่ปรากฏว่า จำเลยได้ปิดทางหรือกระทำการใดๆ แก่ทางอันเป็นความเสียหายแก่โจทก์ ดังนี้ ถือว่า ไม่ได้ตั้งใจพิพาทเกี่ยวกับทางมาในคำฟ้อง จึงไม่มีประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยชี้ขาดในข้อนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 292/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจผู้จัดการมรดกฟ้องบังคับโอนอสังหาริมทรัพย์ และการสมบูรณ์ของฟ้องสัญญาจะซื้อขาย
ผู้จัดการมรดกของผู้ตายมีอำนาจนำคดีขึ้นสู่ศาลฟ้องผู้ทำสัญญาจะขายอสังหาริมทรัพย์แก่ผู้ตาย ให้บังคับโอนขายอสังหาริมทรัพย์นั้น แก่กองมรดกได้
ฟ้องบรรยายมีใจความว่าจำเลยได้เสนอขายที่ดินซึ่งจำนองไว้แก่ผู้ตายเป็นราคา 80,000 บาท ผู้ตายได้จ่ายเงินแก่จำเลย และรับใช้หนี้ของจำเลย เมื่อคิดรวมกับหนี้จำนองแล้ว เป็นเงิน 80,000 บาทพอดีที่จำเลยเสนอขายดังนี้ เป็นฟ้องที่มีข้อความพอให้เข้าใจได้ว่าได้มีการสนองรับแล้ว แม้ในคำฟ้องจะมิได้กล่าวคำว่าผู้ตายตกลงรับซื้อก็ดี ถือว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
ฟ้องบรรยายมีใจความว่าจำเลยได้เสนอขายที่ดินซึ่งจำนองไว้แก่ผู้ตายเป็นราคา 80,000 บาท ผู้ตายได้จ่ายเงินแก่จำเลย และรับใช้หนี้ของจำเลย เมื่อคิดรวมกับหนี้จำนองแล้ว เป็นเงิน 80,000 บาทพอดีที่จำเลยเสนอขายดังนี้ เป็นฟ้องที่มีข้อความพอให้เข้าใจได้ว่าได้มีการสนองรับแล้ว แม้ในคำฟ้องจะมิได้กล่าวคำว่าผู้ตายตกลงรับซื้อก็ดี ถือว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 678/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องบังคับสัญญาซื้อขายต่อตัวแทนที่ไม่ใช่เจ้าของ สัญญาเป็นโมฆะ
ผู้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินกับตัวแทนของเจ้าของที่จะฟ้องบังคับตัวแทนให้ทำการโอนที่ดินไม่ได้ ในเมื่อปรากฏตัวเจ้าของที่แล้ว และเจ้าของที่มิใช่อยู่ต่างประเทศ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11115/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายเพิ่มเติมจากรถยนต์ชำรุดหลังคืนทรัพย์: ฟ้องบังคับได้แม้มีคำพิพากษาแล้ว
ภายหลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาในคดีก่อนให้จำเลยทั้งสามส่งมอบรถยนต์ตามสัญญาซื้อขายแบบมีเงื่อนไขคืนแก่โจทก์ หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทน พร้อมทั้งให้ชำระค่าเสียหายและชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ จำเลยทั้งสามได้ส่งมอบรถยนต์คืนพร้อมชำระค่าเสียหายกับค่าฤชาธรรมเนียมในการดำเนินคดีแก่โจทก์ไปแล้วก็ตาม แต่เมื่อรถยนต์มีสภาพชำรุดและโจทก์นำออกขายทอดตลาดได้ราคาไม่ครบถ้วนตามราคารถยนต์ที่จำเลยทั้งสามต้องรับผิดชำระแก่โจทก์ตามคำพิพากษา โจทก์ย่อมชอบที่จะฟ้องบังคับให้จำเลยทั้งสามรับผิดชดใช้ราคารถยนต์ส่วนที่ยังขาดจำนวนอยู่ได้ เนื่องจากเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นภายหลังจากศาลมีคำพิพากษาในคดีก่อนไปแล้ว ทั้งมิใช่กรณีที่จะไปว่ากล่าวในชั้นบังคับคดีในคดีก่อนได้ เนื่องจากการบังคับคดีจำต้องอาศัยคำพิพากษาที่วินิจฉัยให้จำเลยทั้งสามต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในมูลหนี้ใดบ้าง กรณีจึงไม่อาจนำมูลหนี้ที่เกิดขึ้นใหม่ภายหลังศาลมีคำพิพากษาไปบังคับคดีเอากับจำเลยทั้งสามในคดีดังกล่าว ดังนั้นคำพิพากษาในคดีนี้จึงเป็นการกำหนดค่าเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากมูลหนี้ตามคำพิพากษาในคดีก่อนและเกิดขึ้นภายหลังศาลในคดีก่อนพิพากษาไปแล้ว หาใช่ค่าเสียหายที่กำหนดซ้ำซ้อนกันแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2341/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรุกล้ำทางร่วมและละเมิดสิทธิ โจทก์มีสิทธิฟ้องบังคับจำเลยได้ แม้จะมีการกระทำละเมิดจากผู้อื่น
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้ต่อเติมแนวกันสาดจากอาคารมากเกินความจำเป็นและไม่ได้วางแผงขายสินค้าบนถนน ฎีกาของจำเลยที่ว่ากระทำของจำเลยไม่เป็นละเมิด เพราะโจทก์ยินยอมแล้วเป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงขัดแย้งแตกต่างไปจากคำให้การ จึงเป็นฎีกาในข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ต้องห้ามฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
จำเลยต่อเติมแนวกันสาดและนำสินค้ามาวางขายบนถนนเป็นการรบกวนสิทธิของโจทก์ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารศูนย์การค้าย่อมมีสิทธิจะปฏิบัติการเพื่อยังความเสียหายหรือเดือดร้อนนั้นให้สิ้นไปได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1337 แม้เจ้าของร้านค้ารายอื่นจะกระทำการรบกวนสิทธิของโจทก์ด้วย แต่เมื่อโจทก์ประสงค์จะยังความเสียหายหรือเดือดร้อนซึ่งเกิดจากการกระทำของจำเลยให้สิ้นไป การที่โจทก์ฟ้องร้องบังคับเอาแก่จำเลยจึงหาเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่
จำเลยต่อเติมแนวกันสาดและนำสินค้ามาวางขายบนถนนเป็นการรบกวนสิทธิของโจทก์ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารศูนย์การค้าย่อมมีสิทธิจะปฏิบัติการเพื่อยังความเสียหายหรือเดือดร้อนนั้นให้สิ้นไปได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1337 แม้เจ้าของร้านค้ารายอื่นจะกระทำการรบกวนสิทธิของโจทก์ด้วย แต่เมื่อโจทก์ประสงค์จะยังความเสียหายหรือเดือดร้อนซึ่งเกิดจากการกระทำของจำเลยให้สิ้นไป การที่โจทก์ฟ้องร้องบังคับเอาแก่จำเลยจึงหาเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่