พบผลลัพธ์ทั้งหมด 102 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1399/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่ชัดเจนต้องระบุรายละเอียดการประมาทและจุดชน เพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหา
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยขับรถยนต์โดยประมาทปราศจากความระมัดระวังอันควรเป็นวิสัยของปรกติชน เป็นเหตุให้ชนรถยนต์ของผู้มีชื่อเสียหาย และทำให้คนที่นั่งมาบนรถถึงบาดเจ็บสาหัสและถึงตาย มิได้บรรยายว่าจำเลยประมาทโดยอาการอย่างไร และที่ว่ารถจำเลยชนรถยนต์ผู้มีชื่อก็ไม่บรรยายว่าชนถูกส่วนไหนอันจะเป็นทางให้เห็นว่าประมาทหรือไม่ ดังนี้ เป็นฟ้องไม่ชัดเจนพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงเป็นฟ้องไม่ถูกต้องด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพศาลก็ต้องยกฟ้อง (อ้างฎีกาที่ 241/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซื้อขายที่ดินเกิน 10 ปี และฟ้องไม่ชัดเจน ศาลยกฟ้องตามอายุความและลักษณะฟ้อง
ฟ้องว่า จำเลยใช้กลฉ้อฉลหลอกลวงโจทก์ให้เข้าทำสัญญาขายที่ดินของโจทก์ให้จำเลยโดยที่โจทก์ไม่ได้ตกลงขายนั้น เป็นเรื่องโมฆียะกรรมตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 121 ต้องฟ้องเสียภายใน 10 ปี นับแต่วันทำนิติกรรม
ฟ้องที่ถือว่าเคลือบคลุมไม่ควรรับไว้พิจารณา
ฟ้องที่ถือว่าเคลือบคลุมไม่ควรรับไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โมฆียะกรรมสัญญาซื้อขายที่ดิน, อายุความ, ฟ้องไม่ชัดเจน, ไม่มีอำนาจฟ้อง
ฟ้องว่า จำเลยใช้กลฉ้อฉลหลอกลวงโจทก์ให้เข้าทำสัญญาขายที่ดินของโจทก์ให้จำเลยโดยที่โจทก์ไม่ได้ตกลงขายนั้น เป็นเรื่องโมฆียะกรรมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 121 ต้องฟ้องเสียภายใน 10 ปี นับแต่วันทำนิติกรรม ซึ่งโจทก์หมดสิทธิบอกล้างแล้วตามมาตรา 143 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ฟ้องโจทก์ที่กล่าวความขัดกันเองเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมไม่แน่นอนไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ เป็นฟ้องที่ไม่ควรรับไว้พิจารณาชอบที่ศาลจะยกฟ้องเสียได้ แม้รับไว้พิจารณาหากเห็นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลก็พิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะเหตุไม่มีอำนาจฟ้องเสียทีเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 829/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่ชัดเจน ขาดรายละเอียดเวลาและวันที่กระทำผิด ทำให้จำเลยไม่สามารถต่อสู้คดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบเรียกเก็บเงินจากผู้เสียหาย 7 ครั้งในเวลา 1 ปีกับเข้าหุ้นฟรีอีก 600 บาทแต่ไม่บอกว่าเรียกรับเงินไปครั้งแรกและครั้งถัดๆไปในราวเดือนอะไรบ้างทั้งเงิน 600 บาทค่าหุ้นฟรี จำเลยรับไปเมื่อไรก็ไม่บอก ดังนี้เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่ชัดเจนจำเลยกระทำผิดต่อใคร ฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ฟ้องโจทก์ที่กล่าวว่า จำเลยทั้ง 3 บังอาจใช้กำลังกายและสาตราวุธทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน จำเลยที่ 1 บาดเจ็บสาหัส จำเลยที่ 2 ไม่บาดเจ็บ จำเลยที่ 3 บาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม. 254,256 ดังนี้เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยคนใดย่อมไม่อาจเข้าใจว่า ต้องหาว่าทำร้ายจำเลยคนใดอย่างไร ถึงบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ และจะลงโทษตาม ม. 258 ก็ไม่ได้ เพราะโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่ชัดเจนจำเลยไม่เข้าใจข้อกล่าวหา ศาลยกฟ้องตามวิธีพิจารณาความอาญา
ฟ้องโจทก์ที่กล่าวว่า จำเลยทั้ง 3 บังอาจใช้กำลังกายและศาตราวุธทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน จำเลยที่ 1บาดเจ็บสาหัส จำเลยที่ 2 ไม่บาดเจ็บ จำเลยที่ 3 บาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254,256 ดังนี้เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยคนใดย่อมไม่อาจเข้าใจว่า ต้องหาว่าทำร้ายจำเลยคนใดอย่างไร ถึงบาดเจ็บสาหัสหรือไม่และจะลงโทษตาม มาตรา 258 ก็ไม่ได้ เพราะโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1607/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายเงินรางวัลให้เจ้าพนักงานผู้จับกุมจาก พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร แม้ฟ้องไม่ชัดเจน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรและขอให้จ่ายรางวัลด้วย ตามคำบรรยายฟ้องกล่าวแต่ว่าเจ้าพนักงานจับจำเลยได้ แต่คำขอท้ายฟ้องขอให้จ่ายเงินรางวัลแก่พลตำรวจผู้หนึ่งโดยระบุชื่อตำรวจผู้นั้นลงไปโดยไม่ได้กล่าวยืนยันว่าตำรวจผู้นั้นเป็นผู้จับจำเลยด้วยหรือไม่ดังนี้ ศาลก็พิพากษาให้จ่ายเงินรางวัลให้แก่เจ้าพนักงานผู้จับจำเลยได้ โดยไม่ต้องระบุชื่อว่า จ่ายให้ใคร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 887/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายธนบัตรปลอม: ฟ้องไม่ชัดเจน ขอบเขตฟ้องไม่ครอบคลุมของกลาง ศาลไม่สามารถลงโทษได้
ฟ้องโจทก์ข้อ 1 ว่า จำเลยสมคบกันมีธนบัตรปลอมไว้เพื่อจำหน่าย 40 ฉบับราคา 400 บาท และได้จำหน่ายธนบัตรจำนวนนั้นให้แก่นายดีไปทั้งหมด ข้อ 2 กล่าวว่าเจ้าพนักงานจับจำเลยได้และได้ธนบัตรของกลาง 35ฉบับเท่าที่ค้นได้ และเหลือจำหน่ายในหีบในห้องนอนของจำเลย ขอให้ลงโทษจำเลย ดังนี้คำบรรยายฟ้องในข้อ 1 ไม่กินถึงธนบัตรของกลาง 35 ฉบับในข้อ 2 และเมื่อโจทก์ไม่ได้บรรยายถึงองค์ความผิดประกอบประการใดในฟ้องข้อ 2 จึงลงโทษจำเลยสำหรับความผิดเกี่ยวกับธนบัตรของกลาง 35ฉบับนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 593/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องปล้นทรัพย์ต้องระบุรายละเอียดทรัพย์สินที่ถูกปล้น หากไม่ชัดเจน ศาลไม่รับฟ้อง
ในการฟ้องฐานปล้นทรัพย์นั้นทรัพย์ที่ถูกปล้นเอาไปเป็นรายละเอียดส่วนสำคัญที่จะต้องกล่าวในฟ้องให้ปรากฎ หากไม่สามารถจะกล่าวถึงรายละเอียดให้ทราบได้ว่าทรัพย์สิ่งใดบ้างที่ถูกปล้นไปอย่างน้อยก็ต้องระบุถึงประเภทลักษณะ และชะนิดของทรัพย์เหล่านั้น เท่าที่จำเลยเข้าใจในเรื่องที่ตนถูกหาได้
โจทก์ฟ้องหาว่าปล้นทรัพย์แต่ไม่ได้กล่าวว่า ทรัพย์ที่ถูกปล้นเป็นทรัพย์อะไรบ้าง และราคาเท่าใด ศาลสั่งให้แก้ฟ้อง โจทก์ก็ไม่จัดการหรือพยายามจัดการขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องตามที่ศาลสั่งนั้นแต่ประการใด ฟ้องของโจทก์จึงถือได้ว่า ไม่ได้กล่าวรายละเอียดถึงสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควร เท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
โจทก์ฟ้องหาว่าปล้นทรัพย์แต่ไม่ได้กล่าวว่า ทรัพย์ที่ถูกปล้นเป็นทรัพย์อะไรบ้าง และราคาเท่าใด ศาลสั่งให้แก้ฟ้อง โจทก์ก็ไม่จัดการหรือพยายามจัดการขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องตามที่ศาลสั่งนั้นแต่ประการใด ฟ้องของโจทก์จึงถือได้ว่า ไม่ได้กล่าวรายละเอียดถึงสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควร เท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 593/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องปล้นทรัพย์ต้องระบุรายละเอียดทรัพย์สินที่ถูกปล้น หรือประเภทลักษณะชัดเจน หากไม่ทำตามศาลสั่งแก้ฟ้อง ก็ถือเป็นฟ้องไม่ชัดเจน
ในการฟ้องฐานปล้นทรัพย์นั้นทรัพย์ที่ถูกปล้นเอาไปเป็นรายละเอียดส่วนสำคัญที่จะต้องกล่าวในฟ้องให้ปรากฏ หากไม่สามารถจะกล่าวถึงรายละเอียดให้ทราบได้ว่าทรัพย์สิ่งใดบ้างที่ถูกปล้นไปอย่างน้อยก็ต้องระบุถึงประเภทลักษณะ และชนิดของทรัพย์เหล่านั้น เท่าที่จำเลยเข้าใจในเรื่องที่ตนถูกหาได้
โจทก์ฟ้องหาว่าปล้นทรัพย์แต่ไม่ได้กล่าวว่า ทรัพย์ที่ถูกปล้นเป็นทรัพย์อะไรบ้าง และราคาเท่าใด ศาลสั่งให้แก้ฟ้อง โจทก์ก็ไม่จัดการหรือพยายามจัดการขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องตามที่ศาลสั่งนั้นแต่ประการใดฟ้องของโจทก์จึงถือได้ว่า ไม่ได้กล่าวรายละเอียดถึงสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
โจทก์ฟ้องหาว่าปล้นทรัพย์แต่ไม่ได้กล่าวว่า ทรัพย์ที่ถูกปล้นเป็นทรัพย์อะไรบ้าง และราคาเท่าใด ศาลสั่งให้แก้ฟ้อง โจทก์ก็ไม่จัดการหรือพยายามจัดการขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องตามที่ศาลสั่งนั้นแต่ประการใดฟ้องของโจทก์จึงถือได้ว่า ไม่ได้กล่าวรายละเอียดถึงสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี