พบผลลัพธ์ทั้งหมด 190 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2473/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลรับฟังพยานบอกเล่าได้ หากมีเหตุผลประกอบพยานหลักฐานอื่นได้ ไม่ขัดกฎหมาย
ไม่มีบทกฎหมายใดห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานบอกเล่า หากพยานบอกเล่ากล่าวถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล ศาลย่อมใช้ดุลพินิจรับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2381/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังคำให้การชั้นสอบสวนประกอบพยานหลักฐานอื่นเพื่อพิสูจน์ความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
ไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายห้ามมิให้รับฟังคำให้การพยานชั้นสอบสวนประกอบพยานหลักฐานอื่น ตลอดจนพฤติการณ์แห่งคดีลงโทษจำเลย ก. ให้การในชั้นสอบสวนว่าจำเลยเป็นคนฆ่าผู้ตาย แม้ต่อมาจะเบิกความต่อศาลในชั้นพิจารณาแตกต่างกับคำให้การในชั้นสอบสวนเพื่อเป็นการช่วยเหลือจำเลยก็ตาม แต่คำให้การชั้นสอบสวนของ ก.สอดคล้องกับคำให้การชั้นสอบสวนของ ต. ประจักษ์พยานอีกปากหนึ่งที่โจทก์ไม่ได้ตัวมาเป็นพยาน ทั้ง ก. และ ต. ให้การหลังเกิดเหตุทันทีโดยไม่มีเวลาคิดไตร่ตรองเพื่อช่วยเหลือหรือปรักปรำผู้หนึ่งผู้ใด ดังนั้น คำให้การชั้นสอบสวนจึงสามารถรับฟังได้เป็นความจริงยิ่งกว่าคำเบิกความในชั้นพิจารณาทั้งชั้นจับกุมจำเลยให้การรับสารภาพจึงฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายรายนี้จริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2381/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานที่ขัดแย้งกันและการรับฟังคำให้การชั้นสอบสวนเพื่อพิสูจน์ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและอาวุธปืน
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยข้อหาความผิดฐานมีอาวุธปืนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้บทที่ลงโทษจากพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯมาตรา 72 วรรคหนึ่ง เป็นมาตรา 72 วรรคสาม และแก้โทษจากจำคุก2 ปี เป็นจำคุก 1 ปี เป็นการแก้ไขมาก แต่ยังคงลงโทษจำคุกไม่เกินสองปี จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ส่วนข้อหาพาอาวุธปืนศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ตามศาลชั้นต้นและลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินห้าปี ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริง ตามมาตรา 218 วรรคหนึ่ง คำให้การในชั้นสอบสวนของประจักษ์พยานโจทก์สอดคล้องตามกันและได้ให้การภายหลังเกิดเหตุทันที่โดยไม่มีเวลาคิดไตร่ตรองเพื่อช่วยเหลือหรือปรักปรำผู้หนึ่งผู้ใด เชื่อว่าได้ให้การไปตามความจริงตามที่ได้รู้เห็นโดยไม่มีเหตุจูงใจหรือถูกบังคับขู่เข็ญแต่อย่างใด พนักงานสอบสวนจึงได้บันทึกและให้ลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน การที่ประจักษ์พยานโจทก์มาเบิกความในชั้นพิจารณาของศาลว่า ไม่ทราบว่าใครเป็นคนร้ายที่ยิงผู้ตายก็คงเพื่อช่วยเหลือจำเลยให้พ้นผิด เชื่อว่าคำให้การชั้นสอบสวนของประจักษ์พยานโจทก์เป็นความจริงยิ่งกว่าคำเบิกความในชั้นพิจารณาทั้งคำให้การชั้นสอบสวนไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไม่ให้รับฟังประกอบเป็นข้อพิจารณาของศาลประการใด เมื่อรับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นตลอดจนพฤติการณ์แห่งคดี เช่น จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุม ย่อมมีน้ำหนักมั่นคงฟังลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4168/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำซัดทอดผู้ร่วมกระทำผิด ต้องมีพยานหลักฐานประกอบ จึงจะรับฟังได้
คำเบิกความและคำให้การในชั้นสอบสวนของ ภ. ว่าตนได้นำสร้อยข้อมือของผู้เสียหายที่ลักมาไปขายให้แก่จำเลยโดยบอกด้วยว่าเป็นทรัพย์ที่ลักมาถือได้ว่าเป็นคำซัดทอดของ ผู้ร่วมกระทำผิดด้วยกัน แม้มิใช่เป็นคำชัดทอดที่เป็นการปัด ความผิดของผู้ชัดทอดให้เป็นความผิดของจำเลยผู้เดียวก็ตาม แต่ก็มีน้ำหนักน้อยและจะต้องรับฟังด้วยความระมัดระวังลำพังคำเบิกความและคำให้การในชั้นสอบสวนของ ภ. ดังกล่าวโดยไม่มีพยานหลักฐานอื่นประกอบ ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ให้รับฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดี และการรับฟังพยานเอกสารที่มิได้ชำระค่าธรรมเนียม ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าถูกต้อง
ในชั้นที่โจทก์ยื่นฟ้อง โจทก์ได้ส่งสำเนาใบมอบอำนาจเป็นเอกสารท้ายฟ้องฉบับหนึ่ง ก่อนลงมือสืบพยานโจทก์ขอแก้ไขคำฟ้องว่าสำเนาใบมอบอำนาจที่โจทก์ส่งท้ายฟ้องนั้นโจทก์ส่งผิดไป ขอส่งฉบับใหม่ตามเอกสารหมาย ป.จ.1 ศาลชั้นต้นอนุญาต ชั้นสืบพยานโจทก์ก็นำสืบว่าโจทก์มอบให้ ธ.ฟ้องคดีตามใบมอบอำนาจเอกสารหมาย ป.จ.1 ซึ่งจำเลยไม่ได้นำสืบหักล้างต้องฟังว่าโจทก์มอบอำนาจให้นายธ.ฟ้องคดีตามใบมอบอำนาจเอกสารหมาย ป.จ.1 มาตั้งแต่ต้นจำเลยจะอ้างเอาใบมอบอำนาจที่โจทก์ส่งผิดมาโดยโจทก์แก้ไขแล้วมาเป็นเหตุให้ฟังว่า ธ. ไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนโจทก์นั้นเป็นการไม่ชอบ คำอ้างเอกสารเป็นค่าธรรมเนียมอื่น ๆ เมื่อโจทก์มิได้จงใจจะไม่ชำระค่าธรรมเนียมก็ไม่มีบทกฎหมายจะให้ถือว่าโจทก์จะไม่ประสงค์อ้างเอกสารเป็นพยานตามบทบัญญัติใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2)บัญญัติไว้แต่เพียงว่าห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความมิได้แสดงความจำนงที่จะอ้างอิงเท่านั้นทั้งยังยกเว้นด้วยว่า ถ้าเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีแม้จะฝ่าฝืนบทบัญญัติอนุมาตรานี้ก็ให้อำนาจศาลที่จะรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านั้นได้การที่ศาลรับฟังพยานเอกสารดังกล่าวโดยที่เป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี จึงไม่เป็นเรื่องที่ศาลรับฟังพยานหลักฐานที่ไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด และการรับฟังพยานที่ไม่สามารถมาให้การได้
นางสาว ข. พยานโจทก์มาเบิกความตอบคำซักถามของโจทก์แล้วไม่มาให้จำเลยถามค้านแต่โจทก์ส่งคำให้การ ของนางสาว ข. ต่อศาล โดยมีพนักงานสอบสวนเบิกความรับรองว่านางสาว ข. ให้การไว้เช่นนั้นจริง ทั้งตามคำให้การชั้นสอบสวนของนางสาว ข. ดังกล่าวสอดคล้องกับที่เบิกความตอบคำซักถามของโจทก์ จึงนำคำเบิกความของนางสาว ข. ที่ตอบคำซักถามของโจทก์มารับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นของโจทก์ได้ จำเลยไม่ใช่เจ้าพนักงาน การที่จำเลยร่วมกับพวกซึ่งเป็น เจ้าพนักงานกระทำความผิด จำเลยย่อมมีความผิดฐานสนับสนุน เจ้าพนักงานในการกระทำผิดนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1190/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานประกอบการรับฟังคำให้การในคดีข่มขืน แม้ไม่มีพยานผู้เสียหาย
แม้โจทก์จะไม่ได้ตัวผู้เสียหายมาเบิกความยืนยันว่า จำเลย-ทั้งสองกับพวกอีก 1 คน ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายก็ตาม แต่โจทก์ก็มี น, อ,ส, และแพทย์ผู้ทำการตรวจร่างกายผู้เสียหาย อันเป็นพยานบุคคลมาเบิกความถึง-เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพยานโจทก์ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นพยานแวดล้อมกรณี หาใช่พยานบอกเล่าไปทั้งหมดไม่ คำเบิกความของพยานโจทก์ดังกล่าวต่อเนื่องเชื่อมโยงกันอย่างมีเหตุผล จึงมีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่าเป็นความจริง อนึ่ง คำพยานบอกเล่ามิใช่ว่าจะรับฟังไม่ได้เสียทีเดียว แต่อาจรับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานในคดีวางเพลิง: ศาลรับฟังพยานบุคคลประกอบเหตุผลน่าเชื่อถือ แม้มีพยานเพียงปากเดียว
แม้ขณะเกิดเหตุจะเป็นเวลากลางคืน แต่เมื่อได้ความว่าคนร้ายยืนห่างจากประจักษ์พยานโจทก์เพียง 6 เมตร และคนร้ายเป็นผู้ที่ประจักษ์พยานรู้จักมาก่อน บริเวณที่คนร้ายยืนอยู่มีแสงสว่างจากไฟฟ้าที่หน้าร้าน และจากโป๊ะจอดเรือส่องถึงพอที่จะเห็นหน้าคนร้ายได้ชัดเจน และจำได้ว่าเป็นจำเลย ทั้งพยานโจทก์ปากนี้ก็ไม่ได้มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน จึงไม่มีข้อระแวงว่าจะเบิกความปรักปรำจำเลย เชื่อได้ว่าได้เบิกความไปตามความจริง ส่วนที่จำเลยนำสืบว่า พยานโจทก์เป็นคนหลังค่อม เมื่อยืนหลังตู้เย็นย่อมไม่สามารถมองเห็นหน้าคนร้ายได้ชัดเจนนั้น ความพิการดังกล่าว ไม่ถึงกับเป็นอุปสรรคในการมองเห็นเหตุการณ์ และที่โจทก์ไม่นำ บ.ลูกจ้างผู้เสียหายอีกคนหนึ่งที่นอนอยู่กับพยานมาเบิกความ ก็เป็นเรื่องดุลยพินิจของโจทก์ที่จะนำสืบพยานของตนมากน้อยเพียงใดไม่ถือเป็นข้อพิรุธ ทั้งที่อ้างว่าการจุดไฟที่ถุงพลาสติกเปลวไฟจะลุกลามอย่างรวดเร็ว คนร้ายย่อมไม่มีเวลาพอที่จะโยนถุงเข้าไปในร้านผู้เสียหายนั้น ก็เป็นเพียงการคาดคะเนของจำเลยเท่านั้น ดังนั้น แม้โจทก์จะมีประจักษ์พยานเพียงปากเดียวแต่พยานดังกล่าวก็เบิกความมีเหตุผลน่าเชื่อถือ ศาลรับฟังประกอบพยานอื่นลงโทษจำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3127/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐาน - สำเนาเอกสารแทนต้นฉบับ กรณีจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล
โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอให้จำเลยที่ 1 ส่งต้นฉบับเอกสารซึ่งอยู่ในความครอบครองของจำเลยที่ 1 ต่อศาลแล้ว แต่จำเลยที่ 1 มิได้นำส่งต้นฉบับเอกสารดังกล่าวตามคำสั่งศาล จึงรับฟังสำเนาเอกสารดังกล่าวประกอบพยานบุคคลของโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 240/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานประกอบคำให้การผู้เสียหายที่ไม่มาเบิกความในชั้นศาล คดีข่มขืนกระทำชำเรา
คำให้การของผู้เสียหายในคดีข่มขืนกระทำชำเราที่ให้การไว้ในชั้นสอบสวนแต่ไม่ได้มาเบิกความในชั้นศาล ศาลรับฟังประกอบคำผู้จับกุมพนักงานสอบสวนและเจ้าของบ้านที่อยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุซึ่งผู้เสียหายวิ่งหนีเข้าไป และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังกับคำรับชั้นสอบสวนของจำเลยลงโทษจำเลยได้